ไข้
- ดูแลเช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดา หรือน้ำอุ่นโดยใช้ผ้ามากกว่า 1 ผืนชุบน้ำบิดพอหมาดวางตามข้อพับต่างๆ และใช้อีกผืนเช็ดแรงๆเข้าหาหัวใจถ้ามีปรอทวัดเพื่อประเมินภาวะไข้ทุก 30 นาที
- ดูแลให้ ดูดน้ำ, ดูดนม ให้เพียงพอ
- ดูแลให้พักผ่อนให้เพียงพอ
- ป้อนยา ถ้าเด็กอาเจียนหลังให้ยากิน 30 นาทีให้ป้อนยาใหม่ และถ้าไข้ยังสูงมากกว่า 38.5 ให้ยาใหม่ได้แต่ต้องห่างกัน 4 ชั่วโมง
น้ำมูก
- สังเกตลักษณะของน้ำมูก สี, ปริมาณ
- ถ้าน้ำมูกมีปริมาณน้อย แนะนำให้มารดา ให้ปลายผ้าชุบน้ำ ม้วนปลายผ้าเล็กน้อย เช็ดรอบจมูก เพื่อป้องกันการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ
- ดูแลไม่ใช้นิ้วมือ แคะจมูก เพราะอาจทำให้เชื้อโรค และแนะนำให้ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ
- ดูแลให้ยา
ไอ
- สังเกตลักษณะการไอ ไอแห้ง ไอมีเสมหะ ไอเป็นชุดๆ
- หาสาเหตุของการไอ แก้ไขสาเหตุ ถ้าไอแห้งแนะนำให้จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ
- งดอาหาร ทอด,มัน,กรุบกรอบ,ของเย็น,ของหวาน เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดการไอมากขึ้น
- ถ้ามีเสมหะมาก ฟังปอดถ้ามียาพ่น ดูแลให้ได้รับยาพ่น ถ้าฟังปอดไม่clear ควรที่จะ suction และ NPO หลังพ่นยา 2 hr. ฟังปอดอีกครั้งหลัง suction เสร็จหลังจากนั้น 30 นาทีวัด vital sign, ดูปลายมือปลายเท้าเขียว, ริมฝีปากเขียว และการวัก o2 sat
- ถ้าอากาศเย็น ให้ใส่เสื้อผ้าหนาๆ ให้ร่างกายอบอุ่น ลดการกระตุ้นที่ทำให้เกิดการไอ เช่น ควันบุหรี่, ฝุ่นละออง, สารเคมี, ไม่เปิดพัดลมจ่อหน้า
หายใจ
- สังเกตลักษณะการหายใจ ว่ามีการหายใจ เหนื่อย,หอบ, มี retraction, ดูมีปีกจมูกบาน หรือไม่
- ถ้าหอบมาก จัดท่า fowler's position
- ฟังเสียงปอด ถ้ามีเสมหะให้เคาะปอด และ suction ต้องถามญาติว่าน้องรับประทานอาหารไปแล้ว ให้งดน้ำ นม อาหาร 1 hr ถ้ายังไม่รับประทานอาหารให้เคาะปอด และ suction ได้ทันที หลัง suction เสร็จ 30 นาที วัด vital sign, ฟังเสียงหายใจ, วัด O2
ไข้- ดูแลเช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดา หรือน้ำอุ่นโดยใช้ผ้ามากกว่า 1 ผืนชุบน้ำบิดพอหมาดวางตามข้อพับต่างๆ และใช้อีกผืนเช็ดแรงๆเข้าหาหัวใจถ้ามีปรอทวัดเพื่อประเมินภาวะไข้ทุก 30 นาที- ดูแลให้ ดูดน้ำ, ดูดนม ให้เพียงพอ- ดูแลให้พักผ่อนให้เพียงพอ- ป้อนยา ถ้าเด็กอาเจียนหลังให้ยากิน 30 นาทีให้ป้อนยาใหม่ และถ้าไข้ยังสูงมากกว่า 38.5 ให้ยาใหม่ได้แต่ต้องห่างกัน 4 ชั่วโมงน้ำมูก- สังเกตลักษณะของน้ำมูก สี, ปริมาณ- ถ้าน้ำมูกมีปริมาณน้อย แนะนำให้มารดา ให้ปลายผ้าชุบน้ำ ม้วนปลายผ้าเล็กน้อย เช็ดรอบจมูก เพื่อป้องกันการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ- ดูแลไม่ใช้นิ้วมือ แคะจมูก เพราะอาจทำให้เชื้อโรค และแนะนำให้ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ- ดูแลให้ยา ไอ- สังเกตลักษณะการไอ ไอแห้ง ไอมีเสมหะ ไอเป็นชุดๆ- หาสาเหตุของการไอ แก้ไขสาเหตุ ถ้าไอแห้งแนะนำให้จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ- งดอาหาร ทอด,มัน,กรุบกรอบ,ของเย็น,ของหวาน เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดการไอมากขึ้น- ถ้ามีเสมหะมาก ฟังปอดถ้ามียาพ่น ดูแลให้ได้รับยาพ่น ถ้าฟังปอดไม่clear ควรที่จะ suction และ NPO หลังพ่นยา 2 hr. ฟังปอดอีกครั้งหลัง suction เสร็จหลังจากนั้น 30 นาทีวัด vital sign, ดูปลายมือปลายเท้าเขียว, ริมฝีปากเขียว และการวัก o2 sat- ถ้าอากาศเย็น ให้ใส่เสื้อผ้าหนาๆ ให้ร่างกายอบอุ่น ลดการกระตุ้นที่ทำให้เกิดการไอ เช่น ควันบุหรี่, ฝุ่นละออง, สารเคมี, ไม่เปิดพัดลมจ่อหน้าหายใจ- สังเกตลักษณะการหายใจ ว่ามีการหายใจ เหนื่อย,หอบ, มี retraction, ดูมีปีกจมูกบาน หรือไม่- ถ้าหอบมาก จัดท่า fowler's position - ฟังเสียงปอด ถ้ามีเสมหะให้เคาะปอด และ suction ต้องถามญาติว่าน้องรับประทานอาหารไปแล้ว ให้งดน้ำ นม อาหาร 1 hr ถ้ายังไม่รับประทานอาหารให้เคาะปอด และ suction ได้ทันที หลัง suction เสร็จ 30 นาที วัด vital sign, ฟังเสียงหายใจ, วัด O2
การแปล กรุณารอสักครู่..
ไข้
- ดูแลเช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดาหรือน้ำ อุ่นโดยใช้ผ้ามากกว่า 1 30 นาที
- ดูแลให้ดูดน้ำ, ดูดนมให้เพียงพอ
- ดูแลให้พักผ่อนให้เพียงพอ
- ป้อนยาถ้าเด็กอาเจียนหลังให้ยา กิน 30 นาทีให้ป้อนยาใหม่และถ้าไข้ ยังสูงมากกว่า 38.5 ให้ยาใหม่ได้ แต่ต้องห่างกัน 4 ชั่วโมงน้ำมูก- สังเกตลักษณะของน้ำมูกสี, ปริมาณ- ถ้าน้ำมูกมีปริมาณน้อยแนะนำให้มารดา ให้ปลายผ้าชุบน้ำม้วนปลายผ้าเล็กน้อยเช็ดรอบจมูก ดูแลไม่ใช้นิ้วมือแคะจมูกเพราะ อาจทำให้เชื้อโรคและแนะนำให้ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ - ดูแลให้ยาไอ- สังเกตลักษณะการไอไอแห้งไอมี เสมหะไอเป็นชุด ๆ - หาสาเหตุของการไอแก้ไขสาเหตุถ้า ไอแห้ง แนะนำให้จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ- งดอาหารทอด, มัน, กรุบกรอบ, ของเย็น, ของหวาน ถ้ามีเสมหะมากฟังปอดถ้ามี ยาพ่นดูแลให้ได้รับยาพ่นถ้าฟังปอดไม่ ชัดเจนควรที่จะดูดและ NPO หลังพ่นยา 2 ชั่วโมง ฟังปอดอีกครั้งหลังดูดเสร็จหลังจากนั้น 30 นาทีวัดสัญญาณชีพ, ดูปลายมือปลายเท้าเขียว, ริมฝีปากเขียวและการวัก O2 นั่ง- ถ้าอากาศเย็นให้ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ ให้ร่างกายอบอุ่นลดการกระตุ้นที่ทำให้เกิดการไอเช่นค วันบุหรี่, ฝุ่นละออง, สารเคมี, ไม่เปิดพัดลมจ่อหน้า: ภาพประกอบหายใจ- สังเกตลักษณะการหายใจว่ามีการหายใจ เหนื่อย , หอบ, มีเพิกถอนดูมีปีกจมูกบานหรือไม่- ถ้าหอบมากจัดท่าตำแหน่งของพรานล่าสัตว์- ฟังเสียงปอด ถ้ามีเสมหะให้เคาะปอดและดูด ให้งดน้ำนมอาหาร 1 ชั่วโมงถ้ายังไม่รับประทานอาหารให้เคาะปอด และ ดูดได้ทันทีหลังการดูดเสร็จ 30 นาทีวัดสัญญาณชีพ, ฟังเสียงหายใจ, วัด O2
การแปล กรุณารอสักครู่..
ไข้- ดูแลเช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่นโดยใช้ผ้ามากกว่า 1 ผืนชุบน้ำบิดพอหมาดวางตามข้อพับต่างๆและใช้อีกผืนเช็ดแรงๆเข้าหาหัวใจถ้ามีปรอทวัดเพื่อประเมินภาวะไข้ทุก 30 นาที- ดูแลให้ดูดน้ำดูดนมให้เพียงพอ ,- ดูแลให้พักผ่อนให้เพียงพอ- ป้อนยาถ้าเด็กอาเจียนหลังให้ยากิน 30 นาทีให้ป้อนยาใหม่และถ้าไข้ยังสูงมากกว่า 38.5 ให้ยาใหม่ได้แต่ต้องห่างกัน 4 ชั่วโมงน้ำมูก- สังเกตลักษณะของน้ำมูกสีปริมาณ ,- ถ้าน้ำมูกมีปริมาณน้อยแนะนำให้มารดาให้ปลายผ้าชุบน้ำม้วนปลายผ้าเล็กน้อยเช็ดรอบจมูกเพื่อป้องกันการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ- ดูแลไม่ใช้นิ้วมือแคะจมูกเพราะอาจทำให้เชื้อโรคและแนะนำให้ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ- ดูแลให้ยาไอ- สังเกตลักษณะการไอไอแห้งไอมีเสมหะไอเป็นชุดๆ- หาสาเหตุของการไอแก้ไขสาเหตุถ้าไอแห้งแนะนำให้จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ- งดอาหารทอดมันกรุบกรอบของเย็น , , , , เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดการไอมากขึ้นของหวาน- ถ้ามีเสมหะมากฟังปอดถ้ามียาพ่นดูแลให้ได้รับยาพ่นถ้าฟังปอดไม่ชัดเจนควรที่จะดูดและ NPO หลังพ่นยา 2 ชม. ฟังปอดอีกครั้งหลังดูดเสร็จหลังจากนั้น 30 นาทีวัดสัญญาณที่สําคัญดูปลายมือปลายเท้าเขียวริมฝีปากเขียวและการวัก O2 sat , ,- ถ้าอากาศเย็นให้ใส่เสื้อผ้าหนาๆให้ร่างกายอบอุ่นลดการกระตุ้นที่ทำให้เกิดการไอเช่นควันบุหรี่ฝุ่นสารเคมีไม่เปิดพัดลมจ่อหน้า , , ,หายใจ- สังเกตลักษณะการหายใจว่ามีการหายใจหอบเหนื่อย , การเพิกถอน , คอนโด , หรือไม่ดูมีปีกจมูกบาน- ตำแหน่งของถ้าหอบมากจัดท่าฟาวเลอร์- ฟังเสียงหายใจฟังเสียงปอดถ้ามีเสมหะให้เคาะปอดและดูดต้องถามญาติว่าน้องรับประทานอาหารไปแล้วให้งดน้ำนมอาหาร 1 ชม. ถ้ายังไม่รับประทานอาหารให้เคาะปอดและดูดได้ทันทีหลังดูดเสร็จ 30 นาทีวัดสัญญาณที่สําคัญ , วัดโอทู
การแปล กรุณารอสักครู่..