Renewable sources—geothermal and hy

Renewable sources—geothermal and hydropower—provide effectively all of Iceland's electricity[125] and around 85% of the nation's total primary energy consumption,[126] with most of the remainder consisting of imported oil products used in transportation and in the fishing fleet.[127][128] Iceland expects to be energy-independent by 2050. Iceland's largest geothermal power plants are Hellisheiði and Nesjavellir,[129][130] while Kárahnjúkar Hydropower Plant is the country's largest hydroelectric power station.[131] When the Kárahnjúkavirkjun started operating, Iceland became the world's largest electricity producer per capita.[132]

Icelanders emit 6.29 tonnes of CO2 in 2009 equivalent of greenhouse gases per capita.[133] Iceland is one of the few countries that have filling stations dispensing hydrogen fuel for cars powered by fuel cells. It is also one of a few countries currently capable of producing hydrogen in adequate quantities at a reasonable cost, because of Iceland's plentiful renewable sources of energy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แหล่งทดแทน — ความร้อนใต้พิภพ และพลังงานน้ำ — มีประสิทธิภาพของไฟฟ้าของไอซ์แลนด์ [125] และประมาณ 85% ของปริมาณการใช้พลังงานหลักของประเทศ, [126] ส่วนใหญ่เหลือประกอบด้วยผลิตภัณฑ์นำเข้าน้ำมันที่ใช้ ในการขนส่ง และเรือตกปลา[127]ไอซ์แลนด์ [128] คาดว่าจะมีพลังงานอิสระภายในปี 2050 ไฟฟ้าการความร้อนใต้พิภพที่ได้ที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์คือ Hellisheiði และ Nesjavellir, [129] [130] ในขณะที่โรงไฟฟ้า Kárahnjúkar เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุด hydroelectric สถานีพลังงาน[131] เมื่อ Kárahnjúkavirkjun ที่เริ่มปฏิบัติการ ไอซ์แลนด์กลายเป็น ผู้ผลิตไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกต่อ capita[132]Icelanders กิ๊กตัน 6.29 ของ CO2 ในปี 2009 เทียบเท่ากับก๊าซเรือนกระจกต่อหัวไอซ์แลนด์ [133] เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีสถานีเติมไฮโดรเจนเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อน โดยเซลล์เชื้อเพลิงมหาศาล มีไม่กี่ประเทศที่ขณะนี้สามารถผลิตไฮโดรเจนในปริมาณที่เพียงพอในราคาที่เหมาะสม เพราะของไอซ์แลนด์อุดมสมบูรณ์ทดแทนแหล่งพลังงานอย่างใดอย่างหนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทดแทนแหล่งความร้อนใต้พิภพและไฟฟ้าพลังน้ำ-ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งหมดของไอซ์แลนด์ไฟฟ้า [125] และประมาณ 85% จากทั้งหมดใช้พลังงานหลักของประเทศ [126] กับที่สุดของส่วนที่เหลือประกอบด้วยผลิตภัณฑ์น้ำมันที่นำเข้ามาใช้ในการขนส่งและการในกองทัพเรือประมง [127] [128] ไอซ์แลนด์คาดว่าจะเป็นพลังงานอิสระภายในปี 2050 ที่ใหญ่ที่สุดโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพของไอซ์แลนด์เป็นHellisheiðiและ Nesjavellir [129] [130] ในขณะที่ Karahnjukar โรงไฟฟ้าพลังน้ำเป็นสถานีไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ. [131] เมื่อKárahnjúkavirkjun เริ่มปฏิบัติการ, ไอซ์แลนด์กลายเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าใหญ่ที่สุดของโลกได้ต่อหัว. [132] ไอซ์แลนด์ปล่อย 6.29 ตัน CO2 ในปี 2009 เทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหัว. [133] ไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีการเติมสถานีจ่ายเชื้อเพลิงไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์ ขับเคลื่อนด้วยเซลล์เชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในปัจจุบันที่มีความสามารถในการผลิตไฮโดรเจนในปริมาณที่เพียงพอในราคาที่เหมาะสมเพราะแหล่งที่มาทดแทนของไอซ์แลนด์ที่อุดมสมบูรณ์ของพลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพและการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนให้มีประสิทธิภาพทั้งหมดของไอซ์แลนด์ไฟฟ้า [ 125 ] และประมาณ 85% ของประเทศใช้พลังงานขั้นต้นทั้งหมด [ 126 ] กับที่สุดของส่วนที่เหลือประกอบด้วยนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ใช้ในการขนส่งและในตกปลาเรือ [ 127 ] [ 128 ] ไอซ์แลนด์ คาดว่าจะเป็นพลังงานอิสระโดย 2050 .ที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ พิภพ โรงไฟฟ้าจะ hellishei ðฉันและ nesjavellir [ 129 ] [ 130 ] ในขณะที่ไฟฟ้า K . kgm rahnj úการ์ เป็นสถานีไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ [ 131 ] เมื่อ K . kgm rahnj ú kavirkjun เริ่มผ่าตัด ไอซ์แลนด์เป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก [ 132 ]
ต่อหัว
ไอซ์แลนด์ปล่อย 6.29 ตัน ของ CO2 ในปี 2009 เท่ากับก๊าซเรือนกระจกต่อหัว[ 133 ] ไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีไส้สถานีจ่ายเชื้อเพลิงไฮโดรเจนสำหรับขับเคลื่อนโดยเซลล์เชื้อเพลิงรถยนต์ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในขณะนี้สามารถผลิตไฮโดรเจนในปริมาณที่เพียงพอในต้นทุนที่สมเหตุสมผล เพราะอุดมสมบูรณ์ของไอซ์แลนด์ทดแทนแหล่งพลังงาน