Cruciferous vegetables are rich in

Cruciferous vegetables are rich in nutrients, including several carotenoids (beta-carotene, lutein, zeaxanthin); vitamins C, E, and K; folate; and minerals. They also are a good fiber source.

In addition, cruciferous vegetables contain a group of substances known as glucosinolates, which are sulfur-containing chemicals. These chemicals are responsible for the pungent aroma and bitter flavor of cruciferous vegetables.

During food preparation, chewing, and digestion, the glucosinolates in cruciferous vegetables are broken down to form biologically active compounds such as indoles, nitriles, thiocyanates, and isothiocyanates (1). Indole-3-carbinol (an indole) and sulforaphane (an isothiocyanate) have been most frequently examined for their anticancer effects.

Indoles and isothiocyanates have been found to inhibit the development of cancer in several organs in rats and mice, including the bladder, breast, colon, liver, lung, and stomach (2, 3). Studies in animals and experiments with cells grown in the laboratory have identified several potential ways in which these compounds may help prevent cancer:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Cruciferous ผักอุดมไปด้วยสารอาหาร รวมทั้ง carotenoids หลาย (beta-carotene ลูทีน zeaxanthin); วิตามิน C, E และ K โฟ และแร่ธาตุ นอกจากนี้พวกเขายังเป็นแหล่งใยดี นอกจากนี้ ผัก cruciferous ประกอบด้วยกลุ่มของสารที่เรียกว่า glucosinolates ซึ่งประกอบด้วยกำมะถันสารเคมี สารเคมีเหล่านี้มีกลิ่นหอมฉุนและรสขมของผัก cruciferousในการเตรียมอาหาร เคี้ยว ย่อยอาหาร glucosinolates ในผัก cruciferous จะแบ่งแบบชิ้นงานสาร indoles, nitriles, thiocyanates และ isothiocyanates (1) อินโดล-3-carbinol (มีอินโดล) และ sulforaphane (มี isothiocyanate) ได้ถูกบ่อยตรวจสอบสำหรับผล anticancer ของพวกเขาIndoles และ isothiocyanates พบยับยั้งการพัฒนาของมะเร็งในอวัยวะหลายในหนูและหนู รวมทั้งกระเพาะปัสสาวะ เต้านม ลำไส้ใหญ่ ตับ ปอด และท้อง (2, 3) การศึกษาในสัตว์ทดลองกับเซลล์ที่เติบโตในห้องปฏิบัติการระบุหลายวิธีที่อาจเกิดขึ้นซึ่งสารเหล่านี้อาจช่วยป้องกันมะเร็ง:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผักตระกูลกะหล่ำที่อุดมไปด้วยสารอาหารรวมทั้ง carotenoids หลาย (เบต้าแคโรทีนลูทีนซีแซนทีน); วิตามิน C, E และ K; โฟเลต; และแร่ธาตุ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของใยอาหารที่ดี. นอกจากนี้ผักตระกูลกะหล่ำมีกลุ่มของสารที่เรียกว่า glucosinolates ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีกำมะถัน สารเคมีเหล่านี้มีความรับผิดชอบในกลิ่นหอมฉุนและรสขมของผักตระกูลกะหล่ำ. ในระหว่างการเตรียมอาหารการเคี้ยวและการย่อยอาหาร glucosinolates ในผักตระกูลกะหล่ำจะแตกลงในรูปแบบสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพเช่นอินโดล, ไนตริล, thiocyanates และ isothiocyanates (1) . Indole-3-carbinol (อินโด) และ sulforaphane (isothiocyanate) ได้รับการตรวจสอบบ่อยที่สุดสำหรับผลกระทบต้านมะเร็งของพวกเขา. อินโดลและ isothiocyanates ได้พบว่ายับยั้งการพัฒนาของโรคมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ในหนูและหนูรวมทั้งกระเพาะปัสสาวะมะเร็งเต้านม ลำไส้ใหญ่ตับปอดและกระเพาะอาหาร (2, 3) การศึกษาในสัตว์และการทดลองกับเซลล์ที่ปลูกในห้องปฏิบัติการที่มีการระบุวิธีการที่มีศักยภาพในหลาย ๆ ซึ่งสารเหล่านี้อาจช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผักตระกูลกะหล่ำจะอุดมไปด้วยสารอาหารรวมทั้งแคโรทีนอยด์ ( เบต้าแคโรทีน ลูทีน ซีแซนทีน , ) ; วิตามิน C , E และ K ; โฟเลท และแร่ธาตุ พวกเขายังเป็นแหล่งไฟเบอร์ที่ดี

นอกจากนี้ ผักตระกูลกะหล่ำ ประกอบด้วยกลุ่มของสารที่เรียกว่า กลูโคซิโนเลต ซึ่งเป็น sulfur-containing สารเคมีสารเคมีเหล่านี้จะรับผิดชอบสำหรับกลิ่นหอมฉุนและรสขื่นของผักตระกูลกะหล่ำ .

ในระหว่างการเตรียมอาหารเคี้ยวและการย่อยอาหาร , กลูโคซิโนเลตในผักตระกูลกะหล่ำจะเสียฟอร์ม สารประกอบที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ เช่น อินโดลไนไตรล thiocyanates , , , และ ไอโซธิโอไซยาเนท ( 1 )indole-3-carbinol ( indole ) และ ซัลโฟราเฟน ( isothiocyanate ) ได้รับบ่อยที่สุดตรวจสอบผลต้านมะเร็งของพวกเขา และ ไอโซธิโอไซยาเนท

อินโดลได้พบเพื่อยับยั้งการพัฒนาของมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆในหนูและหนู รวมถึงกระเพาะปัสสาวะ เต้านม ลำไส้ใหญ่ ตับ ปอด และกระเพาะอาหาร ( 2 , 3 )การศึกษาในสัตว์ และการทดลองกับเซลล์ที่ปลูกในห้องปฏิบัติการได้ระบุหลายวิธีที่มีศักยภาพซึ่งสารเหล่านี้อาจช่วยป้องกันมะเร็ง :