Humans first learned to regularly c

Humans first learned to regularly consume the milk of other mammals following the domestication of animals during the Neolithic Revolution[30] or the development of agriculture. This development occurred independently in several places around the world from as early as 9000–7000 BC in Southwest Asia[31] to 3500–3000 BC in the Americas.[32] The most important dairy animals—cattle, sheep and goats—were first domesticated in Southwest Asia, although domestic cattle had been independently derived from wild aurochs populations several times since.[33][34] Initially animals were kept for meat, and archaeologist Andrew Sherratt has suggested that dairying, along with the exploitation of domestic animals for hair and labor, began much later in a separate secondary products revolution in the fourth millennium BC.[35] Sherratt's model is not supported by recent findings, based on the analysis of lipid residue in prehistoric pottery, that shows that dairying was practiced in the early phases of agriculture in Southwest Asia, by at least the seventh millennium BC.[36][37]

From Southwest Asia domestic dairy animals spread to Europe (beginning around 7000 BC but not reaching Britain and Scandinavia until after 4000 BC),[38] and South Asia (7000–5500 BC).[39] The first farmers in central Europe[40] and Britain[41] milked their animals. Pastoral and pastoral nomadic economies, which rely predominantly or exclusively on domestic animals and their products rather than crop farming, were developed as European farmers moved into the Pontic-Caspian steppe in the fourth millennium BC, and subsequently spread across much of the Eurasian steppe.[42] Sheep and goats were introduced to Africa from Southwest Asia, but African cattle may have been independently domesticated around 7000–6000 BC.[43] Camels, domesticated in central Arabia in the fourth millennium BC, have also been used as dairy animals in North Africa and the Arabian Peninsula.[44] The earliest Egyptian records of burn treatments describe burn dressings using milk from mothers of male babies.[45] In the rest of the world (i.e., East and Southeast Asia, the Americas and Australia) milk and dairy products were historically not a large part of the diet, either because they remained populated by hunter-gatherers who did not keep animals or the local agricultural economies did not include domesticated dairy species. Milk consumption became common in these regions comparatively recently, as a consequence of European colonialism and political domination over much of the world in the last 500 years.

In the Middle Ages, milk was called the "virtuous white liquor" because alcoholic beverages were more safe to consume than water.[46]

Industrialization

Preserved Express Dairies three-axle milk tank wagon at the Didcot Railway Centre, based on an SR chassis
The growth in urban population coupled with the expansion of the railway network in the mid-19th century, brought about a revolution in milk production and supply. Individual railway firms began transporting milk from rural areas to London from the 1840s and 1850s. Possibly the first such instance was in 1846, when St Thomas's Hospital in Southwark contracted with milk suppliers outside London to provide milk by rail.[47] The Great Western Railway was an early and enthusiastic adopter, and began to transport milk into London from Maidenhead in 1860, despite much criticism. By 1900, the company was transporting over 25 million gallons annually.[48] The milk trade grew slowly through the 1860s, but went through a period of extensive, structural change in the 1870s and 1880s.


Milk transportation in Salem, Tamil Nadu
Urban demand began to grow, as consumer purchasing power increased and milk became regarded as a required daily commodity. Over the last three decades of the 19th century, demand for milk in most parts of the country doubled, or in some cases, tripled. Legislation in 1875 made the adulteration of milk illegal - this combined with a marketing campaign to change the image of milk. The proportion of rural imports by rail as a percentage of total milk consumption in London grew from under 5% in the 1860s to over 96% by the early 20th century. By that point, the supply system for milk was the most highly organized and integrated of any food product.[47]


1959 milk supply in Oberlech, Vorarlberg, Austria
The first glass bottle packaging for milk was used in the 1870s. The first company to do so may have been the New York Dairy Company in 1877. The Express Dairy Company in England began glass bottle production in 1880. In 1884, Hervey Thatcher, an American inventor from New York, invented a glass milk bottle, called 'Thatcher's Common Sense Milk Jar', which was sealed with a waxed paper disk.[49] Later, in 1932, plastic-coated paper milk cartons were introduced commercially.[49]

In 1863, French chemist and biologist Louis Pasteur invented pasteurization, a method of killing harmful bacteria in beverages and food products.[49] He developed this method while on summer vacation in Arbois, to remedy the frequent acidity of the local wines.[50] He found out experimentally that it is sufficient to heat a young wine to only about 50–60 °C (122–140 °F) for a brief time to kill the microbes, and that the wine could be nevertheless properly aged without sacrificing the final quality.[50] In honor of Pasteur, the process became known as "pasteurization". Pasteurization was originally used as a way of preventing wine and beer from souring.[51] Commercial pasteurizing equipment was produced in Germany in the 1880s, and the process had been adopted in Copenhagen and Stockholm by 1885.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มนุษย์เรียนรู้การใช้นมเลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ ต่อ domestication สัตว์ในระหว่างการปฏิวัติยุคหินใหม่ [30] หรือการพัฒนาของการเกษตรเป็นประจำก่อน พัฒนานี้เกิดอย่างอิสระในสถานต่าง ๆ ทั่วโลกจากก่อนเป็น 9000 – 7000 BC ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ [31] การ 3500 – 3000 BC ในทวีปอเมริกา [32] สัตว์โคนมสำคัญ — วัว แกะ และแพะซึ่งถูกแรก domesticated ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ แม้ว่าวัวในประเทศได้รับอิสระมาจากประชากร aurochs ป่าหลายครั้งตั้งแต่ [33] [34] เริ่มต้นสัตว์ที่ถูกเก็บไว้ในเนื้อสัตว์ และ archaeologist Andrew Sherratt ได้แนะนำว่า dairying พร้อมกับการเอารัดเอาเปรียบสัตว์ภายในประเทศสำหรับผมและแรงงาน เริ่มต้นมากในปฏิวัติผลิตภัณฑ์แยกรองเนียมสี่ BC [35] ล่าสุดพบ ตามการวิเคราะห์ไขมันตกค้างในดินเผาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่แสดงว่า dairying ถูกฝึกฝนในระยะแรก ๆ ของการเกษตรในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ โดยน้อยเนียมเจ็ด BC ไม่สนับสนุนรูปแบบ Sherratt [36] [37]จากเอเชียตะวันตกเฉียงใต้แพร่กระจายสัตว์โคนมในประเทศยุโรป (เริ่มต้นประมาณ 7000 BC แต่ไม่ถึงอังกฤษและสแกนดิเนเวียจนกว่าหลังจาก 4000 BC), [38] และเอเชียใต้ (7000 – 5500 BC) [39] เกษตรกรครั้งแรกในยุโรปกลาง [40] [41] ราชอาณาจักร milked สัตว์ของพวกเขา Pastoral ปริญญาบัตร และ pastoral ปริญญาบัตร nomadic เศรษฐกิจ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ หรือบนสัตว์ภายในประเทศและผลิตภัณฑ์ของตนแทนที่พืชทำการเกษตร ได้รับการพัฒนาเป็นเกษตรกรยุโรป ย้ายเข้าไปในทุ่งหญ้าสเตปป์ Pontic แคสเปียนในมิลเลนเนียมสี่ BC และต่อมาได้แพร่กระจายไปทั่วทุ่งหญ้าสเตปป์นกมาก [42] แกะและแพะได้แนะนำไปยังแอฟริกาจากเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ แต่วัวแอฟริกาอาจมีถูกอย่างอิสระ domesticated รอบ 7000-6000 BC [43] อูฐ domesticated ในซาอุดิอาระเบียเซ็นทรัลใน BC มิลเลนเนียมสี่ได้ยังถูกใช้เป็นนมสัตว์ในแอฟริกาเหนือและคาบสมุทรอาหรับ [44] แรกสุดอียิปต์ระเบียนการรักษาเขียนอธิบายเขียนแผลใช้นมจากแม่ของเด็กชาย [45] ในส่วนเหลือของโลก (เช่น ตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกา และออสเตรเลีย) ผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์นมไม่ประวัติส่วนใหญ่ของอาหาร อย่างใดอย่างหนึ่งเนื่องจากพวกเขายังคงมีประชากร โดย hunter-gatherers ที่ไม่ให้สัตว์ หรือไม่มีเกษตรเศรษฐกิจท้องถิ่น domesticated พันธุ์นม ปริมาณนมเป็นทั่วไปในภูมิภาคเหล่านี้ดีอย่างหนึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นลำดับของอาณานิคมยุโรปและครอบงำทางการเมืองมากกว่าของโลกในช่วง 500 ปีในยุคกลาง นมถูกเรียก "งามขาวสุรา" เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีมากปลอดภัยกินกว่าน้ำ [46]ทวีความรุนแรงมากรักษาด่วน Dairies นมสามเพลาถัง wagon ที่ศูนย์บริการรถไฟ Didcot ตามแชสซีเป็น SRการเจริญเติบโตในเมืองประชากรควบคู่กับการขยายตัวของเครือข่ายรถไฟในช่วงกลาง 19 ศตวรรษที่ นำมาเกี่ยวกับการปฏิวัติในการผลิตน้ำนมและการจัดหา รถไฟแต่ละบริษัทเริ่มขนส่งนมจากชนบทสู่ลอนดอนจาก 1840s และ 1850s ครั้งแรกอาจจะอินสแตนซ์เช่นค.ศ. 1846 ตีบเมื่อโรงพยาบาลเซนต์ Thomas ในไฮด์ปาร์คกับนมซัพพลายเออร์นอกลอนดอนให้นม โดยรถไฟ [47] การรถไฟตะวันตกดีคือ adopter เป็นต้น และกระตือรือร้น และเริ่มการขนส่งนมในลอนดอนจากพิกัดใน 1860 แม้มีการวิจารณ์มาก โดย 1900 บริษัทขนกว่า 25 ล้านแกลลอนต่อปี [48] การค้านมเติบโตช้า โดย 1860s แต่ระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียด โครงสร้างใน 1870s และปัจจุบันได้ขนส่งนมใน Salem ทมิฬ Naduความต้องการเมืองเริ่มเติบโต เพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค และนมก็ถือว่าเป็นสินค้าจำเป็นประจำวัน กว่าสามทศวรรษของศตวรรษที่ 19 ความต้องการนม ในส่วนใหญ่ของประเทศสองเท่า หรือ ในบาง กรณี สามเท่า กฎหมายใน 1875 ที่ทำผิดกฎหมาย - adulteration นมนี้รวมกับแคมเปญการตลาดเพื่อเปลี่ยนรูปของนม สัดส่วนของการนำเข้าชนบทโดยรถไฟเป็นเปอร์เซ็นต์ของปริมาณน้ำนมทั้งหมดในลอนดอนเพิ่มขึ้น 5% อย่างใน 1860s กว่า 96% ตั้งแต่ยุคศตวรรษ โดยที่จุด ประปาสำหรับนมที่จัดมากที่สุด และครบวงจรของผลิตภัณฑ์อาหารใด ๆ [47]จัดหานม 1959 ใน Oberlech, Vorarlberg ออสเตรียมีใช้บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วแรกสำหรับนมใน 1870s บริษัทแรกทำอาจได้รับนม บริษัทนิวยอร์กใน 1877 เอ็กซ์เพรส บริษัทนมในอังกฤษเริ่มผลิตขวดแก้วใน 1880 ใน 1884 เฮอร์วี่ Thatcher เป็นนักประดิษฐ์อเมริกันจากนิวยอร์ก คิดค้นแก้วนมขวด เรียกว่า 'ของ Thatcher สามัญสำนึกนมโถ' ซึ่งถูกปิดผนึก ด้วยแผ่นดิสก์กระดาษ waxed [49] ในภายหลัง ในปี 1932 กระดาษเคลือบพลาสติกกระดาษกล่องนมได้แนะนำในเชิงพาณิชย์ [49]ในวันที่ 1863 ฝรั่งเศสนักเคมีและนักชีววิทยาระดับ Louis คิดค้นวิธีการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม พาสเจอร์ไรซ์ [49] เขาได้พัฒนาวิธีการนี้ในวันหยุดฤดูร้อนใน Arbois การมีบ่อย ๆ ไวน์ท้องถิ่น [50] เขาพบ experimentally ที่เพียงพอที่จะความร้อนไวน์หนุ่มไปเพียงประมาณ 50 – 60 ° C (122-140 ° F) เป็นเวลาสั้น ๆ เพื่อฆ่าจุลินทรีย์ และว่า ไวน์อาจเป็นอย่างไรอายุโดยไม่สูญเสียคุณภาพขั้นสุดท้าย [50] ในเกียรติของเมืองบันดุง การกลายเป็นเรียกว่า "พาสเจอร์ไรซ์" เดิมมีใช้พาสเจอร์ไรซ์เป็นวิธีป้องกันไวน์และเบียร์ souring [51] พาณิชย์ pasteurizing อุปกรณ์ที่ผลิตในประเทศเยอรมนีในปัจจุบัน และการได้รับการรับรองในโคเปนเฮเกนสตอกโฮล์ม โดย 1885

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มนุษย์คนแรกที่เรียนรู้ที่จะมีการกินนมเลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ domestication ของสัตว์ในช่วงยุคปฏิวัติ [30] หรือการพัฒนาการเกษตร การพัฒนาเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นอิสระในหลายสถานที่ทั่วโลกจากเป็นช่วงต้นคริสตศักราช 9000-7000 ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ [31] เพื่อ 3500-3000 ปีก่อนคริสตกาลในอเมริกา. [32] นมที่สำคัญที่สุดสัตว์วัวแกะและแพะ-เป็นครั้งแรก โดดเด่นในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้แม้ว่าวัวในประเทศที่ได้รับมาเป็นอิสระจากประชากรป่ากระทิงหลายครั้งตั้งแต่. [33] [34] ในขั้นต้นสัตว์ที่ถูกเก็บไว้สำหรับเนื้อสัตว์และนักโบราณคดีแอนดรู Sherratt ได้ชี้ให้เห็นว่าการรีดนมพร้อมกับการใช้ประโยชน์จากสัตว์ในประเทศสำหรับ ผมและแรงงานเริ่มมากต่อไปในผลิตภัณฑ์รองที่แยกจากการปฏิวัติในสี่พันปีก่อนคริสตกาล. [35] รูปแบบ Sherratt จะไม่ได้รับการสนับสนุนโดยผลการวิจัยที่ผ่านมาจากการวิเคราะห์สารตกค้างไขมันในเครื่องปั้นดินเผาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่าการรีดนมได้รับการฝึกฝนใน ระยะแรกของการเกษตรในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้โดยอย่างน้อยเจ็ดสหัสวรรษ BC. [36] [37] จากภาคตะวันตกเฉียงใต้สัตว์นมเอเชียประเทศแพร่กระจายไปยังยุโรป (เริ่มต้นรอบ 7000 ปีก่อนคริสตกาล แต่ไม่ถึงอังกฤษและสแกนดิเนเวีจนกระทั่งหลัง พ.ศ. 4000) [38 ] และเอเชียใต้ (7000-5500 BC). [39] เกษตรกรครั้งแรกในยุโรปกลาง [40] และสหราชอาณาจักร [41] รีดนมสัตว์ของพวกเขา เศรษฐกิจเร่ร่อนพระและพระซึ่งส่วนใหญ่อาศัยหรือเฉพาะในสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์ของพวกเขามากกว่าการเลี้ยงพืชได้รับการพัฒนาเป็นเกษตรกรยุโรปย้ายเข้ามาติกบริภาษ-แคสเปี้ยในสี่พันปีก่อนคริสตกาลและการแพร่กระจายต่อมาข้ามจากเอเชียบริภาษ [42] แกะและแพะถูกนำไปจากแอฟริกาเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ แต่วัวแอฟริกันอาจจะได้รับโดดเด่นอย่างอิสระรอบ 7000-6000 BC. [43] อูฐ, โดดเด่นในใจกลางอารเบียในสี่พันปีก่อนคริสตกาลได้ถูกนำมาใช้เป็นสัตว์นม ในแอฟริกาเหนือและคาบสมุทรอาหรับ. [44] บันทึกอียิปต์ที่เก่าแก่ที่สุดของการรักษาเผาอธิบายเผาไหม้แผลโดยใช้นมจากแม่ของเด็กทารกชาย. [45] ในส่วนที่เหลือของโลก (เช่นตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, อเมริกาและออสเตรเลีย ) นมและผลิตภัณฑ์นมเป็นอดีตไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการรับประทานอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะพวกเขายังคงประชากรเธ่อที่ไม่ได้ให้สัตว์หรือเศรษฐกิจการเกษตรในท้องถิ่นไม่รวมถึงสายพันธุ์ที่โดดเด่นนม การบริโภคนมกลายเป็นเรื่องธรรมดาในภูมิภาคนี้เมื่อเทียบกับเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นผลมาจากการล่าอาณานิคมของยุโรปและการครอบงำทางการเมืองมากของโลกในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา. ในยุคกลางนมที่เรียกว่า "สุราขาวงามความดี" เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความปลอดภัยมากขึ้น ที่จะบริโภคกว่าน้ำ. [46] อุตสาหกรรมดองรีดด่วนสามเพลารถบรรทุกถังนมที่ Didcot รถไฟมุ่งขึ้นอยู่กับตัวถังอาร์การเจริญเติบโตของประชากรในเมืองควบคู่ไปกับการขยายตัวของเครือข่ายทางรถไฟในช่วงกลางศตวรรษที่19 นำ เกี่ยวกับการปฏิวัติในการผลิตนมและอุปทาน บริษัท รถไฟส่วนบุคคลเริ่มการขนส่งนมจากชนบทไปลอนดอนจากยุค 1840 และ 1850 อาจจะเป็นเช่นดังกล่าวเป็นครั้งแรกใน 1846 เมื่อโรงพยาบาลเซนต์โทมัสใน Southwark สัญญากับซัพพลายเออร์นมนอกกรุงลอนดอนที่จะให้นมโดยทางรถไฟ. [47] รถไฟเวสเทิร์เป็นยอมรับต้นและมีความกระตือรือร้นและเริ่มที่จะส่งนมลงจากลอนดอนบริสุทธิ์ ในปี 1860 แม้จะมีการวิจารณ์มาก 1900 โดย บริษัท ได้รับการขนส่งกว่า 25 ล้านแกลลอนต่อปี. [48] การค้านมเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ผ่านยุค 1860 แต่ก็ผ่านช่วงเวลาของการครอบคลุมการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในยุค 1870 และ 1880. การขนส่งนมในเซเลมรัฐทมิฬนาฑูUrban ความต้องการ เริ่มที่จะเติบโตเป็นกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นกลายเป็นนมและถือได้ว่าเป็นสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ในช่วงสามทศวรรษสุดท้ายของศตวรรษที่ 19 ความต้องการนมในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นสองเท่าหรือในบางกรณีเท่าตัว กฎหมายในปี 1875 ทำให้การปลอมปนของนมที่ผิดกฎหมาย - นี้รวมกับแคมเปญการตลาดที่จะเปลี่ยนภาพของนม สัดส่วนของการนำเข้าในชนบทโดยรถไฟเป็นเปอร์เซ็นต์ของการบริโภคนมโดยรวมในลอนดอนเพิ่มขึ้นจากอายุต่ำกว่า 5% ในยุค 1860 กว่า 96% โดยในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยจุดที่ระบบการจัดหานมเป็นส่วนใหญ่จัดสูงและบูรณาการของผลิตภัณฑ์อาหารใด ๆ . [47] 1959 ปริมาณน้ำนมใน Oberlech, บาวาเรียประเทศออสเตรียบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วเป็นครั้งแรกสำหรับนมที่ใช้ในยุค1870 บริษัท แรกที่จะทำเช่นนั้นอาจจะเป็น บริษัท นิวยอร์กนมใน 1877 ด่วน บริษัท นมในประเทศอังกฤษเริ่มผลิตขวดแก้วในปี 1880 ในปี 1884 เฮอร์วีย์แทตเชอร์นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันจาก New York, คิดค้นขวดนมแก้วที่เรียกว่า 'แทตเชอร์ของสามัญสำนึกนมขวด' ซึ่งถูกปิดผนึกด้วยดิสก์กระดาษแว็กซ์. [49] ต่อมาในปี 1932 พลาสติกเคลือบกล่องนมกระดาษถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์. [49] ในปี 1863 นักเคมีชาวฝรั่งเศสและนักชีววิทยาหลุยส์ปาสเตอร์ผู้คิดค้นพาสเจอร์ไรซ์, วิธีการในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์อาหาร. [49] เขาได้พัฒนาวิธีการนี้ในขณะที่ในวันหยุดฤดูร้อนใน Arbois เพื่อแก้ไขความเป็นกรดที่พบบ่อยของไวน์ท้องถิ่น. [50] เขาพบว่าการทดลองว่ามันจะเพียงพอที่จะให้ความร้อน ไวน์หนุ่มสาวที่จะมีเพียงประมาณ 50-60 ° C (122-140 ° F) เป็นเวลาสั้น ๆ เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และว่าไวน์ที่อาจจะยังคงถูกต้องอายุโดยไม่ต้องเสียสละคุณภาพขั้นสุดท้าย. [50] ในเกียรติของปาสเตอร์ที่ กระบวนการกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ "พาสเจอร์ไรซ์" พาสเจอไรซ์ถูกนำมาใช้เป็นวิธีในการป้องกันไวน์และเบียร์จาก souring ได้. [51] อุปกรณ์ฆ่าเชื้อที่ถูกผลิตเชิงพาณิชย์ในประเทศเยอรมนีในยุค 1880 และขั้นตอนการได้รับการรับรองในโคเปนเฮเกนและสตอกโฮล์มโดย 1885

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มนุษย์แรกเรียนรู้เป็นประจำบริโภคน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆต่อไปนี้ domestication ของสัตว์ในระหว่างการปฏิวัติยุคหินใหม่ [ 30 ] หรือการพัฒนาการเกษตร การพัฒนานี้เกิดขึ้นอย่างอิสระหลายแห่งทั่วโลกจากเร็วเป็น 9000 – 7000 ปีก่อนคริสตกาลในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ [ 31 ] , 500 – 3000 BC ในทวีปอเมริกา [ 32 ] ที่สำคัญปศุสัตว์สัตว์นมแกะและแพะเป็นคนแรกที่โดดเด่นในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ แม้ว่าโคในประเทศได้โดยอิสระที่ได้มาจากป่า aurochs ประชากรหลายครั้ง ตั้งแต่ [ 33 ] [ 34 ] ตอนแรกเก็บเนื้อสัตว์ และนักโบราณคดี แอนดรูว์ sherratt ได้ชี้ให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม พร้อมกับการใช้ประโยชน์จากสัตว์ในประเทศผม และแรงงานเริ่มมากในภายหลังในแยกผลิตภัณฑ์รองการปฏิวัติใน 4 พันปีก่อนคริสต์ศักราช [ 35 ] sherratt รูปแบบไม่สนับสนุน โดยล่าสุดพบว่า จากการวิเคราะห์ของไขมันตกค้างในเครื่องปั้นดินเผาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่พบว่า ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม คือ ฝึกในช่วงต้นๆ ของเกษตรในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ โดยอย่างน้อยเจ็ดพันปีก่อนคริสตกาล . 36 ] [ 37 ]

จากเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ในนมสัตว์แพร่กระจายไปยังยุโรป ( เริ่มต้นประมาณ 7 , 000 ปีก่อนคริสตกาล แต่ไม่ถึงอังกฤษ และสแกนดิเนเวีย จนกระทั่ง พ.ศ. 4000 ) [ 38 ] และเอเชียใต้ ( 7 , 000 - 5 , 500 ก่อนคริสต์ศักราช ) [ 39 ] ครั้งแรกที่เกษตรกรในยุโรปกลางและอังกฤษ [ 40 ] [ 41 ] รีดนมสัตว์ของพวกเขา พระพระเร่ร่อนและเศรษฐกิจ ,แต่ส่วนใหญ่ หรือเฉพาะในสัตว์ในประเทศและผลิตภัณฑ์ของพวกเขามากกว่าการเพาะปลูกพืชไร่มีการพัฒนาเป็นเกษตรกรยุโรปย้ายเข้าสู่ที่ราบ Caspian พอนติกใน 4 พันปีก่อนคริสต์ศักราชและต่อมากระจายทั่วมากของที่ราบเอเชีย [ 42 ] แกะและแพะถูกแนะนำจากเอเชียตะวันตกเฉียงใต้แอฟริกาแต่โคแอฟริกาอาจได้รับอิสระโดดเด่นประมาณ 7 , 000 – 6000 BC . [ 43 ] อูฐ โดดเด่นในภาคกลางของซาอุดีอาระเบียในสหัสวรรษบีซีสี่ ยังถูกใช้เป็นนมสัตว์ในแอฟริกาเหนือและคาบสมุทรอาหรับ . [ 44 ] ประวัติของอียิปต์เก่าเผารักษาอธิบายเขียนใส่ปุ๋ยใช้นมจากมารดาของทารกเพศชาย [ 45 ] ในส่วนที่เหลือของโลก ( เช่นตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ เอเชีย อเมริกา และออสเตรเลีย ) นมและผลิตภัณฑ์นมเป็นประวัติศาสตร์ไม่ใช่ส่วนใหญ่ของอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะพวกเขายังคงมีประชากรโดยนักล่า gatherers ที่ไม่ได้ให้สัตว์หรือท้องถิ่นการเกษตรเศรษฐกิจไม่รวมโดดเด่นผลิตภัณฑ์นมชนิด การบริโภคนมได้ร่วมกันในภูมิภาคเหล่านี้ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ผลที่ตามมาของยุโรปล่าอาณานิคมและการครอบงำทางการเมืองมากกว่ามากของโลกในช่วง 500 ปี

ในยุคกลาง , นมถูกเรียกว่า " เหล้า " สีขาวบริสุทธิ์ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความปลอดภัยในการบริโภคมากกว่าน้ำ [ 46 ]



ไว้บริการอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นมสามเพลาเกวียนที่ถังนม ที่ดิดรถไฟศูนย์ ตาม SR แชสซี
การเติบโตของประชากรในเมืองควบคู่กับการขยายตัวของเครือข่ายรถไฟในศตวรรษที่ 19 นำเกี่ยวกับการปฏิวัติในการผลิตน้ำนม และการจัดหา บริษัทรถไฟการขนส่งนมแต่ละคนเริ่มจากชนบทไปลอนดอนจาก 1820 1830 และอาจจะเป็นครั้งแรกเช่นอินสแตนซ์ใน 1846 ,เมื่อถึงโรงพยาบาลเซนต์โธมัส Southwark สัญญากับซัพพลายเออร์เพื่อให้นมนมนอกกรุงลอนดอนโดยรถไฟ [ 47 ] รถไฟตะวันตกเป็นผู้รับแรกและกระตือรือร้น และเริ่มขนส่งนมในลอนดอนจาก Maidenhead 1860 , แม้จะมีการวิจารณ์มาก โดย 1900 , บริษัท ขนส่งมากกว่า 25 ล้านแกลลอนต่อปี [ 48 ] การค้าที่เติบโตอย่างช้าๆผ่าน 1840 นม ,แต่ก็ผ่านช่วงที่กว้างขวาง และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในคริสต์ทศวรรษ 1850 1860


นมการขนส่งในเซเลม , ทมิฬนาฑู
เมืองความต้องการเริ่มเติบโตเป็นผู้บริโภคกำลังซื้อเพิ่มขึ้น และนมก็ถือเป็นความต้องการทุกวัน สินค้า กว่าสามทศวรรษของศตวรรษที่ 19 , ความต้องการนมในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นสองเท่า หรือในบางกรณี เท่ากฎหมายใน 1875 ทำให้การปลอมปนของนมผิดกฎหมาย - นี้รวมกับแคมเปญทางการตลาดที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของนม สัดส่วนของการนำเข้าในชนบท โดยแยกเป็นเปอร์เซ็นต์ของการบริโภคนมทั้งหมดในลอนดอนยังต่ำกว่า 5% ในคริสต์ทศวรรษ 1840 ถึง 96% โดยศตวรรษที่ 20 ต้น จากจุดนั้นระบบจัดหานมเป็นองค์กรสูงที่สุด และรวมของผลิตภัณฑ์อาหารใด ๆ . [ 47 ]


1959 นมใส่ในโอแบเลช Vorarlberg ออสเตรีย ,
ครั้งแรกขวดแก้วบรรจุภัณฑ์นมถูกใช้ในยุค 1870 . บริษัทแรกที่จะทำเช่นนั้นอาจได้รับนม บริษัทในนิวยอร์ก 1877 . ด่วน บริษัท โคนมในอังกฤษเริ่มการผลิตขวดแก้วใน 1880 ในช่วงพัก แธตเชอร์ , ,นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันจากนิวยอร์ก , คิดค้นนมขวดแก้ว เรียกว่า ' แธตเชอร์เป็นสามัญสำนึกนมขวด ' ซึ่งถูกผนึกด้วยกระดาษไขดิสก์ [ 49 ] ต่อมา ใน พ.ศ. 2475 พลาสติกกล่องนมกระดาษเคลือบมีการแนะนำในเชิงพาณิชย์ [ 49 ]

ใน 1863 , นักเคมีชาวฝรั่งเศสและนักชีววิทยา หลุยส์ ปาสเตอร์ คิดค้น การฆ่าเชื้อ วิธีฆ่าแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และอาหาร[ 49 ] เขาได้พัฒนาวิธีการนี้ในขณะที่ในวันหยุดฤดูร้อนใน arbois เพื่อแก้ไขความบ่อยของไวน์ท้องถิ่น [ 50 ] เขาพบการทดลองว่ามันจะเพียงพอที่จะความร้อนยังไวน์เพียงประมาณ 50 – 60 ° C ( 122 – 140 ° F ) เป็นเวลาสั้น ๆเพื่อฆ่าจุลินทรีย์ที่ และไวน์อาจจะยังคงถูกต้อง อายุ โดยไม่มีการเสียสละคุณภาพสุดท้าย [ 50 ] ในเกียรติของปาสเตอร์ ,กระบวนการกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ " อ่อนปวกเปียก " การฆ่าเชื้อที่ใช้เดิมเป็นวิธีการป้องกันไวน์และเบียร์บูด [ 51 ] พาณิชย์ pasteurizing อุปกรณ์ผลิตในเยอรมันในยุค 1880 และกระบวนการได้ถูกประกาศใช้ในโคเปนเฮเกนและสตอกโฮล์ม โดย 1 .