The ubiquity of the internet and co

The ubiquity of the internet and computer-based technologies has an increasing impact on higher education and the way students access information for learning. Moreover, there is a paucity of information about the quantitative and qualitative use of learning media by the current student generation. In this study we systematically analyzed the use of digital and non-digital learning resources by undergraduate medical students. Daily online surveys and semi-structured interviews were conducted with a cohort of 338 third year medical students enrolled in a general pharmacology course. Our data demonstrate a predominant use of digital over non-digital learning resources (69 ± 7% vs. 31 ± 7%; p < 0.01) by students. Most used mediafor learning were lecture slides (26.8 ± 3.0%), apps (22.0 ± 3.7%) and personal notes (15.5 ± 2.7%), followed by textbooks (> 300 pages) (10.6 ± 3.3%), internet search (7.9 ± 1.6%) and e-learning cases (7.6 ± 3.0%). When comparing learning media use of teaching vs. pre-exam self-study periods, textbooks were used significantly less during self-study (-55%; p < 0.01), while exam questions (+334%; p < 0.01) and e-learning cases (+176%; p < 0.01) were utilized more. Taken together, our study revealed a high prevalence and acceptance of digital learning resources by undergraduate medical students, in particular mobile applications.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Ubiquity ของอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีที่ใช้คอมพิวเตอร์มีผลกระทบเพิ่มขึ้นด้านการศึกษาและข้อมูลการเข้าเรียนวิธีเรียน นอกจากนี้ มี paucity ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพของสื่อการเรียนรู้โดยการสร้างนักเรียนปัจจุบัน ในการศึกษานี้ เราเป็นระบบวิเคราะห์การใช้แหล่งการเรียนรู้ดิจิทัล และแบบดิจิทัลโดยนักศึกษาแพทย์ระดับปริญญาตรี แบบสำรวจออนไลน์ประจำวันและการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างได้ดำเนินการกับผู้ผ่านปี 338 3 นักศึกษาแพทย์ที่ลงทะเบียนในหลักสูตรเภสัชวิทยาทั่วไป ข้อมูลแสดงให้เห็นถึงใช้กันของ digital ผ่านดิจิตอลไม่ใช่แหล่งการเรียนรู้ (69 ± 7% เทียบกับ 31 ± 7%; p < 0.01) โดยนักเรียน ส่วนใหญ่ใช้เรียนบรรยายสไลด์ (26.8 ± 3.0%), ปพลิเคชัน (22.0 ± 3.7%) และบันทึกย่อส่วนบุคคล (15.5 ± 2.7%), ตามตำรา (> 300 หน้า) mediafor (10.6 ± 3.3%), ค้นหาในอินเทอร์เน็ต (7.9 ± 1.6%) และกรณีศึกษา (7.6 ± 3.0%) เมื่อเปรียบเทียบการเรียนรู้สื่อใช้สอนเทียบกับรอบระยะเวลาก่อนสอบหลัก ใช้ตำราน้อยมากในหลัก (-55%; p < 0.01), ในขณะสอบถาม (+334%; p < 0.01) และกรณีศึกษา (+176%; p < 0.01) ถูกใช้มากขึ้น ถ่ายด้วยกัน เราเปิดเผยความชุกสูงและการยอมรับของแหล่งการเรียนรู้ดิจิทัลโดยนักศึกษาแพทย์ระดับปริญญาตรี ภาษาโดยเฉพาะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แพร่หลายของอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ใช้มีผลกระทบที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการศึกษาที่สูงขึ้นและวิธีที่นักเรียนเข้าถึงข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีความยากจนของข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเชิงปริมาณและคุณภาพของสื่อการเรียนรู้โดยรุ่นนักศึกษาปัจจุบัน ในการศึกษานี้เรามีระบบการวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรการเรียนรู้ดิจิตอลและไม่ใช่ดิจิตอลโดยนักศึกษาแพทย์ระดับปริญญาตรี การสำรวจออนไลน์ในชีวิตประจำวันและการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างได้รับการดำเนินการกับกลุ่มของ 338 ปีที่สามนักเรียนแพทย์ที่ลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรเภสัชวิทยาทั่วไป ข้อมูลของเราแสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่โดดเด่นของดิจิตอลมากกว่าแหล่งการเรียนรู้ไม่ใช่ดิจิตอล (69 ± 7% เทียบกับ 31 ​​± 7%; p <0.01) โดยนักศึกษา ที่ใช้มากที่สุดในการเรียนรู้ mediafor เป็นภาพนิ่งบรรยาย (26.8 ± 3.0%) ปพลิเคชัน (22.0 ± 3.7%) และบันทึกส่วนตัว (15.5 ± 2.7%) ตามด้วยตำรา (> 300 หน้า) (10.6 ± 3.3%) การค้นหาทางอินเทอร์เน็ต (7.9 ± 1.6%) และกรณี e-learning (7.6 ± 3.0%) เมื่อเปรียบเทียบการใช้สื่อการเรียนการสอนกับการสอบก่อนระยะเวลาการศึกษาด้วยตนเองตำราถูกนำมาใช้อย่างมีนัยสำคัญน้อยลงในช่วงการศึกษาด้วยตนเอง (-55%; p <0.01) ในขณะที่คำถามสอบ (+ 334%; p <0.01) และ e กรณี -Learning (+ 176%; p <0.01) ถูกนำมาใช้มากขึ้น ที่ร่วมกันศึกษาของเราแสดงให้เห็นความชุกสูงและการยอมรับของแหล่งการเรียนรู้ดิจิตอลโดยนักศึกษาแพทย์ระดับปริญญาตรีในการใช้งานโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความแพร่หลายของอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้นในการศึกษาที่สูงขึ้นและวิธีการที่นักเรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ นอกจากนี้ มีจำนวนเล็กน้อยของข้อมูลเชิงปริมาณและคุณภาพการใช้สื่อการเรียนรู้ โดยนักศึกษารุ่นปัจจุบันในการศึกษานี้เราการวิเคราะห์ระบบการใช้ดิจิตอลและไม่ใช่ดิจิตอล แหล่งเรียนรู้โดยนักเรียนนักศึกษาแพทย์ . การสำรวจออนไลน์ทุกวัน และการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง มีวัตถุประสงค์กับเพื่อนร่วมงานของคุณสามนิสิตแพทย์ชั้นปีที่ลงทะเบียนในหลักสูตรเภสัชวิทยาทั่วไป ข้อมูลของเราแสดงให้เห็นเด่นของดิจิตอลไปใช้ไม่ใช่ดิจิตอลทรัพยากรการเรียนรู้ ( 69 ± 7% เทียบกับ 31 ± 7% ;P < 0.01 ) โดยนักศึกษา ที่ใช้มากที่สุด mediafor การเรียนสไลด์ประกอบการบรรยาย ( 26.8 ± 3.0% ) apps ( T4 ± 3.7 % ) และบันทึกส่วนตัว ( 15.5 ± 2.7% ) ตามตำรา ( > 300 หน้า ) ( 10.6 ± 3.3% ) , การค้นหาทางอินเทอร์เน็ต ( 7.9 ± 1.6% ) และการเรียนรู้ราย ( 7.6 ± 3.0% ) เมื่อเปรียบเทียบสื่อการเรียนรู้ไปใช้สอนกับก่อนสอบด้วยตนเอง ระยะเวลา หนังสือเรียนถูกใช้มากน้อยในการศึกษาด้วยตนเอง ( - 55 % ;p < 0.01 ) ในขณะที่คำถามสอบ ( 334 % ; p < 0.01 ) และการเรียนรู้ราย ( 176 % ; p < 0.01 ) ถูกใช้มากขึ้น ถ่ายด้วยกัน ผลการศึกษาพบความชุกและการยอมรับของแหล่งการเรียนรู้ดิจิตอล โดยนิสิตแพทย์ นิสิต นักศึกษา ในการใช้งานโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะ