study due to the constraints of the

study due to the constraints of their medical management
(Figure 1). All participants permitted their length of stay to be
recorded.
The baseline characteristics of the groups were similar. These
data are presented in Table 1[12TD$DIF] and the first two data columns of
Table 2, Table 3 and Table 4. Individual participant data are
presented in Table 5 on the eAddenda.
Effect of interventions
Primary outcome
Functional exercise capacity, as measured by the Glittre
Activities of Daily Living test, improved by a mean of 52 seconds
(SD 40) in the experimental group, whereas the control group
improved by a mean of 12 seconds (SD 26). This was a statistically
significant difference (MD 39 seconds, 95% CI 20 to 59), as shown in
Table 2. When calculated as a standardised effect size, the
between-group difference of 39 seconds equated to a Cohen’s d
of 1.19.
Secondary outcomes
The improvement in functional capacity, as evaluated by the
distance walked on the ISWT, was significantly greater in the
experimental group than in the control group (MD 130 m, 95% CI
77 to 182). When calculated as a standardised effect size, the
between-group difference equated to a Cohen’s d of 1.39. No
significant between-group differences occurred in the variables
monitored during the ISWT: heart rate, percentage of predicted
maximal heart rate, SpO2 and Borg dyspnoea and fatigue scales
(data not shown). The SpO2 during the aerobic training did not
show any desaturation < 84%, as outlined in the Methods section.
All muscles that were analysed demonstrated mean improvement
in strength in the experimental group and mean deterioration
in the control group, as presented in Table 2. The betweengroup
difference in change in strength was statistically significant
for all four muscle groups. The between-group differences in change
in strengthwere: 3.5 kgf for biceps brachii (Cohens’ d = 0.76); 2.2 kgf

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาเนื่องจากข้อจำกัดในการบริหารจัดการทางการแพทย์(รูปที่ 1) ระยะเวลาของพวกเขาจะได้ทุกคนบันทึกลักษณะพื้นฐานของกลุ่มคล้ายกันได้ เหล่านี้นำเสนอข้อมูลในตารางที่ 1 [12TD$ DIF] และคอลัมน์ข้อมูลสองครั้งแรกของตาราง 2 ตารางที่ 3 และตารางที่ 4 มีข้อมูลผู้เรียนรายบุคคลแสดงในตาราง 5 บน eAddenda การผลของการแทรกแซงผลหลักออกกำลังกายที่ทำงานกำลังการผลิต โดย Glittre การวัดกิจกรรมของชีวิตประจำวันทดสอบ ปรับปรุง โดยเฉลี่ยของวินาที(SD 40) ในกลุ่มทดลอง ในขณะที่กลุ่มควบคุมปรับปรุง โดยเฉลี่ย 12 วินาที (SD 26) นี้ในทางสถิติความแตกต่าง (MD 39 วินาที 95% CI 20 ถึง 59), ดังที่แสดงในตารางที่ 2 เมื่อคำนวณเป็นขนาดมาตรฐานผล การความแตกต่างระหว่างกลุ่ม 39 วินาที equated โคเฮน dของ 1.19ผลรองปรับปรุงในการทำงานฐานะ ประเมินโดยการระยะทางเดินบน ISWT การ เป็นมากในการกลุ่มทดลองมากกว่ากลุ่มควบคุม (MD 130 เมตร 95% CI77 ที่ 182) เมื่อคำนวณเป็นขนาดมาตรฐานผล การความแตกต่างระหว่างกลุ่มที่ equated โคเฮน d ของ 1.39 ไม่ใช่ความแตกต่างระหว่างกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญเกิดขึ้นในตัวแปรตรวจสอบในระหว่างการ ISWT: คาดว่า เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นหัวใจอัตราการเต้นหัวใจสูงสุด SpO2 บอร์กเมื่อยและพยายาลเครื่องชั่งและ(ข้อมูลไม่แสดง) SpO2 ระหว่างอบรมแอโรบิกไม่แสดงใด desaturation < 84% ตาม outlined ในส่วนวิธีกล้ามเนื้อทั้งหมดที่ถูกนำมาวิเคราะห์แสดงหมายถึงปรับปรุงในความแข็งแรงในกลุ่มทดลองและเสื่อมสภาพหมายถึงในการควบคุมกลุ่ม ตามที่แสดงในตารางที่ 2 Betweengroup การความแตกต่างในการเปลี่ยนแปลงในความแข็งแรงมีนัยสำคัญทางสถิติกลุ่มกล้ามเนื้อที่สี่ทั้งหมด ความแตกต่างระหว่างกลุ่มในการเปลี่ยนแปลงใน strengthwere: 3.5 kgf สำหรับ brachii ลูกหนู (Cohens' d = 0.76); 2.2 kgf

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาเนื่องจากข้อ จำกัด ของการจัดการทางการแพทย์ของพวกเขา
(รูปที่ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งหมดได้รับอนุญาตยาวของพวกเขาในการเข้าพักจะได้รับการ
บันทึกไว้.
ลักษณะพื้นฐานของกลุ่มมีความคล้ายคลึงกัน เหล่านี้
ข้อมูลจะถูกนำเสนอในตารางที่ 1 [12TD $ DIF] และเป็นครั้งแรกที่สองคอลัมน์ข้อมูลของ
ตารางที่ 2 ตารางที่ 3 และตารางที่ 4 ข้อมูลผู้เข้าร่วมส่วนบุคคลจะถูก
แสดงในตารางที่ 5 บน eAddenda.
ผลของการแทรกแซง
ผลหลัก
ความจุการออกกำลังกายที่ทำงานเป็น โดยวัดจาก Glittre
กิจกรรมของการทดสอบในชีวิตประจำวันดีขึ้นโดยเฉลี่ย 52 วินาที
(SD 40) ในกลุ่มทดลองในขณะที่กลุ่มควบคุม
ที่ดีขึ้นโดยเฉลี่ยของ 12 วินาที (SD 26) นี่เป็นสถิติ
ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (MD 39 วินาที, 95% CI 20-59) ดังแสดงใน
ตารางที่ 2 เมื่อคำนวณเป็นขนาดผลมาตรฐานที่
แตกต่างระหว่างกลุ่มของ 39 วินาทีเท่ากับ D ของโคเฮน
1.19.
มัธยมศึกษา ผล
การปรับปรุงความสามารถในการทำงานเช่นการประเมินโดย
ระยะทางเดินบน ISWT ที่มีนัยสำคัญมากขึ้นใน
กลุ่มทดลองกว่าในกลุ่มควบคุม (MD 130 ม., 95% CI
77-182) เมื่อคำนวณเป็นขนาดผลมาตรฐานที่
แตกต่างระหว่างกลุ่มบรรจุ D ของโคเฮน 1.39 ไม่มี
นัยสำคัญแตกต่างระหว่างกลุ่มที่เกิดขึ้นในตัวแปรที่
มีการตรวจสอบในช่วง ISWT: อัตราการเต้นหัวใจร้อยละของการคาดการณ์
อัตราการเต้นหัวใจสูงสุด SpO2 และแอนเดอหายใจลำบากและความเหนื่อยล้าเครื่องชั่งน้ำหนัก
(ไม่ได้แสดงข้อมูล) SpO2 ในระหว่างการฝึกอบรมแอโรบิกไม่ได้
แสดง desaturation ใด ๆ <84% ดังที่ระบุไว้ในส่วนของวิธีการ.
กล้ามเนื้อทั้งหมดที่ได้รับการวิเคราะห์แสดงให้เห็นถึงหมายถึงการปรับปรุง
ความแข็งแรงในกลุ่มทดลองและหมายถึงการเสื่อมสภาพ
ในกลุ่มควบคุมที่แสดงในตารางที่ 2 betweengroup
ความแตกต่างในการเปลี่ยนแปลงในความแข็งแรงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ทั้งสี่กลุ่มกล้ามเนื้อ ความแตกต่างระหว่างกลุ่มในการเปลี่ยนแปลง
ใน strengthwere: 3.5 กิโลกรัมสำหรับลูกหนู brachii (D Cohens '= 0.76); 2.2 กิโลกรัม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาเนื่องจากข้อจํากัดของการจัดการทางการแพทย์ของพวกเขา( รูปที่ 1 ) ผู้เข้าร่วมทั้งหมดได้รับอนุญาตให้ความยาวของพวกเขาอยู่เป็นบันทึกลักษณะพื้นฐานของกลุ่มมีลักษณะคล้ายคลึงกัน เหล่านี้ข้อมูลที่จะแสดงในตารางที่ 1 [ $ ] 12td DIF และแรกสองคอลัมน์ของข้อมูลตารางที่ 2 ตาราง ตารางที่ 3 และ 4 ข้อมูลผู้เข้าร่วมแต่ละเป็นแสดงในตารางที่ 5 ใน eaddenda .ผลของการแทรกแซงผลการศึกษาความจุใช้งานเป็นวัดโดย glittreกิจกรรมทดสอบการใช้ชีวิตประจำวัน ปรับปรุงโดยเฉลี่ย 52 วินาที( SD 40 ) ในกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุมปรับปรุงโดยเฉลี่ย 12 วินาที ( SD 26 ) นี้คือสถิติความแตกต่าง ( MD 39 วินาที , 95% CI 20 59 ) ดังแสดงในตารางที่ 2 เมื่อคำนวณเป็นมาตรฐานผลขนาดความแตกต่างระหว่างกลุ่มของ 39 วินาที equated กับโคเฮน Dของ 10 .ผลรองการปรับปรุงความสามารถในการทำงาน เช่น การประเมินโดยระยะทางที่เดินบน iswt เป็นอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นในในกลุ่มทดลองมากกว่ากลุ่มควบคุม ( 95% CI ) 130 เมตร77 - 182 ) เมื่อคำนวณเป็นมาตรฐานผลขนาดความแตกต่างระหว่างกลุ่ม equated กับ Cohen D อำนวยการ . ไม่ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกลุ่มที่เกิดขึ้นในตัวแปรการตรวจสอบระหว่าง iswt : อัตราการเต้นหัวใจ ร้อยละของพยากรณ์อัตราการเต้นหัวใจสูงสุด และ Spo2 Borg ทำเป็นเล่นและความเมื่อยล้าเครื่องชั่ง( ข้อมูลไม่แสดง ) โดย SpO2 ในระหว่างการฝึกอบรมแอโรบิกไม่ได้แสดงปฏิกิริยาการเติมพันธะคู่ < 84 เปอร์เซ็นต์ , ตามที่ระบุในส่วนของวิธีการกล้ามเนื้อทั้งหมดที่วิเคราะห์แสดงให้เห็นการปรับปรุงหมายถึงในความแข็งแกร่งในกลุ่มทดลองและหมายถึงการเสื่อมสภาพในกลุ่มควบคุม ตามที่แสดงในตารางที่ 2 การยความแตกต่างในการเปลี่ยนแปลงในความแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติสำหรับทั้งสี่กลุ่มของกล้ามเนื้อ ความแตกต่างระหว่างกลุ่มในการเปลี่ยนแปลงใน strengthwere 3.5 กิโลกรัม สำหรับคลื่นใต้น้ำ ( cohens " D = 0.76 ) ; 2.2 กิโลกรัม