This is important, since as they po

This is important, since as they point out implementation failure rates
have been estimated at 70 per cent. Unfortunately, this problem is even more
pronounced within the supply chain literature where there is a dearth of research into
change management issues surrounding their implementation. Fourthly, as
highlighted earlier, relatively few researchers have attempted to benchmark the
performance of supply chains, despite the repeated calls for a greater focus on
competitors (e.g. Beamon, 1999). Moreover, where studies have been undertaken, they
have invariably been conducted in a single country and within a specific market sector
(e.g. Basnet et al., 2003). Therefore, whilst these studies are undoubtedly valuable, there
is a pressing need for international benchmarking of supply chain performance, in
order that comparisons can be made across countries and both within and across
market sectors. Finally, few researchers have explored whether the benefits of supply
chain performance measurement systems are outweighed by the cost of implementing
and maintaining them in increasingly dynamic business environments. This is likely to
be especially pertinent for small enterprises which may lack the resources, time or
information to undertake the analyses required to optimise supply chain activities
(Morgan, 2004). As Morgan observes, one consequence for larger enterprises interested
in measuring the performance of their supply chain is they may be forced to consider
the developing the capabilities of their suppliers to implement meaningful performance
measurement systems.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากพวกเขาชี้นำความล้มเหลวในราคามีการประเมินไว้ที่ร้อยละ 70 ปัญหานี้จะยิ่งอับการออกเสียงในวรรณคดีห่วงโซ่อุปทานมีการขาดแคลนงานวิจัยในเปลี่ยนปัญหาการจัดการสภาพแวดล้อมการปฏิบัติการ Fourthly เป็นเน้นเร็ว นักวิจัยค่อนข้างน้อยได้พยายามที่จะเปรียบการประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน แม้มีการเรียกซ้ำสำหรับมากกว่าเน้นคู่แข่ง (เช่น Beamon, 1999) นอกจากนี้ ที่ศึกษามีการดำเนินการ พวกเขาคงเส้นคงวาได้ดำเนิน ในประเทศเดียว และภาย ในภาคการตลาด(เช่น Basnet และ al., 2003) ดังนั้น ในขณะที่การศึกษาเหล่านี้มีคุณค่าอย่างไม่ต้องสงสัยต้องกดสำหรับนานาชาติในการแข่งขันของซัพพลายเชนประสิทธิภาพ ในใบสั่งที่สามารถทำการเปรียบเทียบข้ามประเทศและทั้งภายใน และระหว่างภาคการตลาด สุดท้าย นักวิจัยน้อยได้สำรวจว่าประโยชน์ของการจัดหาระบบการประเมินประสิทธิภาพโซ่มี outweighed โดยต้นทุนของการใช้และรักษาไว้ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแบบไดนามิกมากขึ้น จะมีโอกาสจะเกี่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรขนาดเล็กซึ่งอาจขาดทรัพยากร เวลา หรือข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ที่จำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพของกิจกรรมห่วงโซ่อุปทาน(มอร์แกน 2004) เป็นมอร์แกนพิจารณา สนใจสัจจะหนึ่งสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ในการวัดประสิทธิภาพของการจัดหา โซ่เป็นพวกเขาอาจบังคับให้พิจารณาการพัฒนาความสามารถของผู้ใช้มีประสิทธิภาพระบบการประเมิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นี้เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากที่พวกเขาชี้ให้เห็นอัตราความล้มเหลวการดำเนินงาน
ได้รับประมาณร้อยละ 70 แต่น่าเสียดายที่ปัญหานี้จะยิ่ง
เด่นชัดภายในวรรณกรรมห่วงโซ่อุปทานที่มีความขาดแคลนของการวิจัยใน
ประเด็นการจัดการการเปลี่ยนแปลงรอบการดำเนินงานของพวกเขา ประการที่สี่เป็น
ไฮไลท์ก่อนหน้านี้นักวิจัยค่อนข้างน้อยมีความพยายามในการวัดประสิทธิภาพ
การทำงานของห่วงโซ่อุปทานแม้จะมีการเรียกซ้ำสำหรับการให้ความสำคัญมากขึ้นในการ
แข่งขัน (เช่น Beamon, 1999) นอกจากนี้การศึกษาที่ได้รับการดำเนินการที่พวกเขา
ได้รับการดำเนินการอย่างสม่ำเสมอในประเทศเดียวและภายในภาคการตลาดที่เฉพาะเจาะจง
(เช่น Basnet et al., 2003) ดังนั้นในขณะที่การศึกษาเหล่านี้ไม่ต้องสงสัยที่มีคุณค่ามี
ความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานระหว่างประเทศของห่วงโซ่อุปทานใน
การเปรียบเทียบเพื่อให้สามารถทำทั่วประเทศและทั้งภายในและระหว่าง
ภาคธุรกิจในตลาด ในที่สุดนักวิจัยไม่กี่มีการสำรวจว่าประโยชน์ของการจัดหา
ประสิทธิภาพห่วงโซ่ระบบการวัดกำลังนิเวศโดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
และการบำรุงรักษาไว้ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแบบไดนามิกมากขึ้น นี่คือแนวโน้มที่จะ
เป็นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรขนาดเล็กซึ่งอาจขาดทรัพยากรเวลาหรือ
ข้อมูลที่จะดำเนินการวิเคราะห์ที่จำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมห่วงโซ่อุปทาน
(มอร์แกน, 2004) ขณะที่มอร์แกนสังเกตหนึ่งผลที่ตามมาสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความสนใจ
ในการวัดประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานของพวกเขาคือพวกเขาอาจจะถูกบังคับที่จะต้องพิจารณา
การพัฒนาขีดความสามารถของซัพพลายเออร์ของพวกเขาที่จะใช้ผลการดำเนินงานที่มีความหมาย
ระบบการวัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะพวกเขาชี้อัตราการล้มเหลว
ได้ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่น่าเสียดายที่ปัญหานี้จะยิ่ง
ออกเสียงภายในห่วงโซ่อุปทานวรรณกรรมซึ่งมีความขาดแคลนของการวิจัยใน
เปลี่ยนการจัดการปัญหารอบการ ประการที่สี่ เป็น
เน้นก่อนหน้านี้ นักวิจัย ค่อนข้างน้อย ได้พยายามที่จะอ้างอิง
ประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน , แม้จะมีการเรียกซ้ำมากกว่ามุ่งเน้น
คู่แข่ง ( เช่น บีมอน , 1999 ) นอกจากนี้ ที่ศึกษามีการแลกพวกเขา
ได้ทุกเมื่อเชื่อวันถูกดำเนินการในประเทศเดียว และภายในภาคการตลาดที่เฉพาะเจาะจง
( เช่นของส et al . , 2003 ) ดังนั้น ในขณะที่การศึกษาเหล่านี้มีคุณค่ามี
ไม่ต้องสงสัยคือต้องกดการเทียบมาตรฐานระหว่างประเทศของประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานใน
สั่งที่เปรียบเทียบได้ทั่วทั้งประเทศและทั้งภายในและระหว่าง
ภาคตลาด ในที่สุด นักวิจัยน้อยมีการสำรวจว่าประโยชน์ของระบบการวัดสมรรถนะโซ่อุปทาน
เป็นนิเวศโดยต้นทุนของการใช้
และรักษาไว้ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแบบไดนามิกมากขึ้นนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้อง
วิสาหกิจขนาดเล็ก ซึ่งอาจจะขาดทรัพยากร เวลา หรือข้อมูลการวิเคราะห์
ต้องปรับกิจกรรมโซ่อุปทาน
( มอร์แกน , 2004 ) อย่างที่มอร์แกนสังเกต , ผลพวงหนึ่งสำหรับวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่สนใจ
ในการวัดประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานคือพวกเขาอาจจะถูกบังคับให้พิจารณา
การพัฒนาขีดความสามารถของซัพพลายเออร์ของพวกเขาที่จะใช้ระบบการวัด
งานที่มีความหมาย