“Pumpuang duangjan” or “Rumpueng Ji

“Pumpuang duangjan” or “Rumpueng Jithan” . The nickname well know “Pueng”. She was born on 4th August, 1961 at Ban Nokkhoa , T. Phai Nok Yoong Amphoe HanKha, Chai Nat. Befor she was growth at SongPhiNong District , Supanburi. She was 5th Daughter of 12 peoples. Her father’s name is Mr.Sumrarn Jithan and her mother’s name is Mrs. Lek Jithan . They’re sugar can cutter.
When she was a child, Her family was poor. She graduated from primary 2. She must out from school and to help keep vegetable, wild flowers. She would sell to factory make money for her family. Although she can’t read but she had singing talent. She always sang a song contest anywhere. In the name of “Nampueng Nah Rai-aoi. When she was 10 years old, she lived with “Duang Anucha band” in Bangkok. Then, she went back to Supanburi.
Until she was 15 years old. She sang contest at “Wat Thap Kradran” and “Waipoj Phetsupan”; the most famous Thai singer. He admired her talent. And he contacted her to played with him band. Pueng started to the way of Thai music country. She was dancer. Next, Waipoj wrote the first song “Khew Lor Phee” and became the first album for her. In the name of “Nampueng Muengsuphan”
While she lived with Waipoj. She met “Theeraphol Sansuk”; the first boyfriend’s Pueng. After that, she left to dancer and singer for “Sornphet Sornsuwan” and left again to “Khwunchai Phetroi-ed”. In 1976, “Mon MuengNheua” made she was a famous singer “Pumpuang Duangjan” and the next, song “Rak-mai-un-ta-rai” and “Rumpueng” .After that, they were set them band. But unsuccessful.
“Pumpuang Duangjan” was well know after she got support by “Phajuab Jumphathong” and “Phreecha Aussawarueknun” set band with “Saeree Rungsawang” in the name of “Saeree-Pumpuang”. After that, “Lop Bureerat” wrote song funny music for her and take her most successful.
The popular songs “Sao-na-sung-fan”, ”Nud-Phop-Nha-Ampore”, “Ue Hue Lor Chang”, “Dao Reung Dao Roi”, “Khon Dung Leum Lhung Khwai”,etc. Since 1972-1991, Pumpuang was the most popular singer. Because She had a beautiful voice and she could remember lyrics but she can’t read. She was awarded the Royal Gold Royal antennas from princess MaHa Chakri Sirindhorn of Thailand of “Somtum” . In the got award Siam name “Aok-sao-Nhoea-Sa-Uen” and she had been selected to sing a song “SomTum” of siam Crawn Royal Suda Rattana Thep . Pumpuang has been refer “Queen of thai music country” derived from “Phongsri Worranuch”
Later, Pumpuang succesed of music , She started to the film industry. In 1983, She played the first movie “Song-Kram-Pleng”. And next movie “Mon-Rak-Nuk-Pleng” she met “Kraisorn Sang-anun”; he toke she to met “Phaijit Supawaree”. She made several song “Tak-Ka-Tan-Phook-Bow” and “Lok-Khong-Pueng” . Next, she signed by “Hang-Top-Line” , She sang a song “Siam-Mueang-Yim” . She was the best singer awarded from princess Maha Chakri Sirindhon of Thailand again.
About music and movie, Pumpuang was very successful. But about Love&life was opposite completely. She and her boyfriend terminated. Because she knew that her boyfriend commit adultery with her sister (Salakjit Duangjan) but they’re still worked together. In 1984, She married with “Krasorn Sangsuk” and they has a son name is “Santiphap” Before he changed name is “Sorraphop” or “Phet”
In 1987, Theeraphol was be skilled by Pumpuang’s brother.


In 1992, Pumpuang was ill with SLE; Systemic Lupus Erythematosus) or Allergy itself. And she always an argumented with her husband until he came confess that they were real argument. While her family believed she was made ill because of the occult. They brought her out from Sirirat hospital and took her to Phitsalok. But after worship the Buddha Chinnarat she was shock and died on June 13, 1992
In The royal cremation ceremony. Fans of her music came to mourn in funeral more than 100,000 peoples.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"พุ่มพวงดวงจันทร์" หรือ "Rumpueng Jithan" ชื่อเล่นรู้จัก "ผึ้ง" เธอเกิดในเดือนสิงหาคม 1961 4 ที่บ้าน Nokkhoa ต.ไผ่ Nok Yoong อำเภอหันคา ชัย Nat. ละเอียดเธอเติบโตที่อำเภอสองพี่น้อง Supanburi เธอเป็นลูกสาว 5 คนที่ 12 Mr.Sumrarn Jithan เป็นชื่อของพ่อ และแม่ของเธอชื่อคือ นางเล็ก Jithan พวกเขากำลังตัดน้ำตาลสามารถ เมื่อเธอถูกเด็ก ครอบครัวของเธอได้ดี เธอจบศึกษาจาก 2 หลักการ เธอต้องออก จากโรงเรียน และ จะช่วยให้ผัก ดอกไม้ป่า เขาจะขายให้โรงงานทำเงินสำหรับครอบครัวของเธอ แม้ว่าเธอไม่อ่าน แต่เธอมีความสามารถพิเศษร้องเพลง เธอเสมอร้องประกวดเพลงใด ๆ ใน name ของ " Nampueng aoi ไร่ไม่ เมื่อเธออายุ 10 ปี เธออาศัยอยู่กับ "ดวงอนุชาวง" ในกรุงเทพมหานคร แล้ว เธอก็กลับไป Supanburi จนกระทั่งเธออายุ 15 ปี เธอร้องประกวดที่ "วัดทับ Kradran" และ "Waipoj Phetsupan" นักร้องไทยมีชื่อเสียงมากที่สุด เขาชื่นชมความสามารถของเธอ และเขาติดต่อเธอไปเล่นกับเขาวง ผึ้งเริ่มต้นแบบของดนตรีไทยประเทศ เธอเป็นนักเต้น ถัดไป Waipoj เขียนเพลงแรก "ผีหล่อ Khew" และกลายเป็น อัลบั้มแรกสำหรับเธอ ในชื่อ "Nampueng Muengsuphan" ในขณะที่เธออาศัยอยู่กับ Waipoj ได้พบ "Theeraphol เทศ" ผึ้งของแฟนครั้งแรก หลังจากนั้น เธอซ้ายนักเต้นและนักร้อง "Sornphet Sornsuwan" และซ้ายอีกครั้งเพื่อ " Khwunchai Phetroi-ed" ในปี 1976 "จันทร์ MuengNheua" ทำให้เธอได้เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง "พุ่มพวงดวงจันทร์" และถัดไป เพลง "รักเชียงใหม่-un-ตา เชียงราย" และ "Rumpueng"หลังจากนั้น พวกเขาถูกตั้งค่าให้วง แต่ไม่สำเร็จ "พุ่มพวงดวงจันทร์" ได้ดีรู้ว่าหลังจากที่เธอได้รับการสนับสนุน โดย "Phajuab Jumphathong" และ "Phreecha Aussawarueknun" ตั้งวงดนตรีกับ "เสรี Rungsawang" ในชื่อ "เสรีพุ่มพวงดวง" หลังจากนั้น "ลพบุรี Bureerat" เขียนเพลงตลกเพลงสำหรับเธอ และพาเธอประสบความสำเร็จมากที่สุดยอดนิยมเพลง "เซานาสูงแฟน" "บ้านแท้ ๆ พบญา-Ampore", "Ue เว้หล่อช้าง" "ดาววิจิตราดาวร้อย" "ขอนแก่นดัง Leum Lhung ควาย" เป็นต้น พ.ศ. ๒๕๑๕ 2534 พุ่มพวงดวงถูกนักร้องยอดนิยม เพราะเธอมีเสียงที่สวยงาม และเธอสามารถจำ เนื้อเพลงแต่เธอไม่สามารถอ่าน เธอได้รับรางวัลเสาอากาศรอยัลทองรอยัลจากเจ้าหญิงสิรินธรมหาภาคของ "ส้มตำ" ในการใส่รางวัลสยามชื่อ "Aok-เสา-Nhoea-Sa-Uen" และเธอได้เลือกร้องเพลง "ส้มตำ" ของสยาม Crawn ราชสุดารัตนาเทพ พุ่มพวงดวงมีการอ้างอิง "ราชินีของประเทศไทยเพลง" มาจาก "Phongsri ทพญวรนุช" Succesed พุ่มพวงดวงหลัง เพลง เธอเริ่มอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในปี 1983 เธอเล่นภาพยนตร์ครั้งแรก "เพลงครามกิ๊ก" และภาพยนตร์ถัดไป "จันทร์รักพอกิ๊ก" ได้พบ "น.พ.ไกรศรสังข์-anun"; เขาโตกเธอไปพบกับ "Phaijit Supawaree" เธอทำหลายเพลง "ตาก-Ka-ตาล-Phook-โบว์" และ "แหล่งของผึ้ง" ถัดไป เธอลงนาม โดย "หางด้านบนสาย" เธอร้องเพลง "สยามเมืองยิ้ม" เธอร้องได้รับรางวัลจากเจ้าหญิงมหาจักรี Sirindhon ของประเทศไทยอีกครั้ง เกี่ยวกับเพลงและภาพยนตร์ พุ่มพวงดวงได้ประสบความสำเร็จมาก แต่เกี่ยวกับความรักและชีวิตตรงข้ามทั้งหมด เธอและแฟนของเธอสิ้นสุดลง เพราะเธอรู้เธอแฟนมีชู้กับน้องสาวของเธอ (Salakjit จันทร์) แต่พวกเขาจะยังคงทำงานร่วมกัน ในปี 1984 เธอแต่งงานกับ "Krasorn Sangsuk" และพวกเขามีลูกชายชื่อ "สันติภาพ" ก่อนเขาเปลี่ยนชื่อเป็น "Sorraphop" หรือ "เพชร" ใน 1987, Theeraphol ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยพี่ชายของพุ่มพวงดวง ในปี 1992 พุ่มพวงดวงไม่มี SLE ระบบไต Erythematosus) หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง และเธอจะเป็น argumented กับสามีจนเขามารับสารภาพว่า พวกเขามีอาร์กิวเมนต์จริง ในขณะที่ครอบครัวของเธอเชื่อว่า เธอจะป่วยเนื่องจาก occult พวกเขานำเธอออกจากโรงพยาบาลศิริราช และพาเธอไป Phitsalok แต่หลังจากบูชาพุทธชินราช เธอถูกช็อก และเสียชีวิตในวันที่ 13 มิถุนายน 1992 ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ แฟนเพลงของเธอมาไว้อาลัยในงานศพมากกว่า 100000 คน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"พุ่มพวงดวงจันทร์" หรือ "แม่รำพึง Jithan" ชื่อเล่นที่รู้จัก "ปึง" เธอเกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 1961 ที่บ้าน Nokkhoa ตไผ่นกยูงอำเภอหันคาชัยนาท ก่อนที่เธอยังเป็นอัตราการเติบโตที่อำเภอศรีประจันต์สุพรรณบุรี เธอเป็นลูกสาวที่ 5 ของ 12 คน ชื่อของพ่อของเธอเป็น Mr.Sumrarn Jithan และชื่อของแม่ของเธอเป็นนางเล็ก Jithan พวกเขากำลังน้ำตาลสามารถเครื่องตัด
เมื่อเธอยังเป็นเด็กครอบครัวของเธอเป็นที่น่าสงสาร เธอจบการศึกษาจากหลัก 2 เธอต้องออกจากโรงเรียนและเพื่อช่วยให้พืช, ดอกไม้ป่า เธอจะขายให้กับโรงงานทำเงินให้ครอบครัวของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่สามารถอ่าน แต่เธอก็มีความสามารถร้องเพลง เธอมักจะร้องเพลงประกวดเพลงใดก็ได้ ในนามของ "น้ำผึ้งนาไร่อ้อย- เมื่อเธออายุ 10 ปีเธออาศัยอยู่กับ "วงดนตรีดวงอนุชา" ในกรุงเทพฯ จากนั้นเธอก็กลับไปที่สุพรรณบุรี
จนกระทั่งเธออายุ 15 ปี เธอร้องเพลงประกวดที่ "วัดทับ Kradran" และ "Waipoj Phetsupan"; นักร้องไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เขาชื่นชมความสามารถของเธอ และเขาได้รับการติดต่อให้เธอไปเล่นกับเขาวง ปึงเริ่มวิธีการของประเทศดนตรีไทย เธอเป็นนักเต้น ถัดไป Waipoj เขียนเพลงแรก "Khew ลผี" และกลายเป็นอัลบั้มแรกของเธอ ในนามของ "น้ำผึ้ง Muengsuphan"
ในขณะที่เธออาศัยอยู่กับ Waipoj เธอได้พบกับ "Theeraphol แสนสุข"; แฟนครั้งแรกของปึง หลังจากนั้นเธอออกจากนักเต้นและนักร้องสำหรับ "ษาศรเพชร Sornsuwan" และซ้ายอีกครั้งเพื่อ "Khwunchai Phetroi-ED" ในปี 1976 "จ MuengNheua" ทำให้เธอเป็นนักร้องชื่อดัง "พุ่มพวงดวงจันทร์" และต่อเพลง "รัก-mai-ยกเลิก TA-ไร่" และ "แม่รำพึง" หลังจากที่พวกเขาถูกพวกเขาตั้งวงดนตรี แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
"พุ่มพวงดวงจันทร์" เป็นที่รู้จักหลังจากที่เธอได้รับการสนับสนุนโดย "Phajuab Jumphathong" และ "จุมพลเตชะ Aussawarueknun" วงดนตรีชุดด้วย "เสรีรุ่ง" ในชื่อของ "เสรี-พุ่มพวง" หลังจากนั้น "ลพบุรี Bureerat" เขียนเพลงเพลงตลกสำหรับเธอและพาเธอประสบความสำเร็จมากที่สุด
เพลงยอดนิยม "เซา-na-Sung-แฟน", "Nud-ภพ-นา-Ampore", "อื้อเว้ลช้าง", " ดาวเรืองดาวร้อย "," จังหวัด Dung Leum lhung ควาย "ฯลฯ ตั้งแต่ 1972-1991, พุ่มพวงเป็นนักร้องที่นิยมมากที่สุด เพราะเธอมีความเสียงที่สวยงามและเธอจะจำเนื้อเพลง แต่เธอไม่สามารถอ่าน เธอได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำพระราชทานจากพระราชเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรแห่งประเทศไทยของ "ส้มตำ" ในการได้รับรางวัลสยามชื่อ "สะกดไม่ออกเสา-Nhoea-Sa-Uen" และเธอได้รับเลือกให้ร้องเพลง "ส้มตำ" ของ บริษัท สยามรอยัล Crawn สุดารัตนเทพ พุ่มพวงได้รับการอ้างถึง "ราชินีแห่งประเทศไทยเพลงไทย" มาจาก "ผ่องศรี Worranuch"
ต่อมาพุ่มพวง succesed เพลงเธอเริ่มให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในปี 1983 เธอเล่นหนังเรื่องแรก "เพลง-คราม-เพลง" และหนังเรื่องต่อไป "จันทร์ Rak-หนุ-เพลง" เธอได้พบกับ "ไกรสรแสงอนันต์"; เขา toke เธอจะได้พบกับ "Phaijit Supawaree" เธอทำให้หลายเพลง "ตากกา-Tan-Phook-โบว์" และ "ล๊อคโขงผึ้ง" ต่อไปเธอลงนามโดย "แขวน-Top-Line" เธอร้องเพลง "สยามเมืองยิ้ม" เธอเป็นนักร้องที่ดีที่สุดได้รับรางวัลจากเจ้าหญิงมหาจักรีสิรินธรแห่งประเทศไทยอีกครั้ง
เกี่ยวกับเพลงและภาพยนตร์พุ่มพวงประสบความสำเร็จมาก แต่เกี่ยวกับความรักและชีวิตที่สมบูรณ์ตรงข้าม เธอและแฟนของเธอสิ้นสุดลง เพราะเธอรู้ว่าแฟนของเธอคบชู้กับน้องสาวของเธอ (Salakjit ดวงจันทร์) แต่พวกเขายังคงทำงานร่วมกัน ในปี 1984 เธอแต่งงานกับ "Krasorn แสงสุข" และพวกเขาได้ชื่อลูกชายคือ "สันติภาพ" ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนชื่อเป็น "Sorraphop" หรือ "เพชร"
ในปี 1987, Theeraphol ก็มีฝีมือโดยพี่ชายของพุ่มพวงในปี 1992 พุ่มพวงป่วยด้วย SLE; lupus erythematosus ระบบ) หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง และเธอมักจะ argumented กับสามีของเธอจนกว่าเขาจะมาสารภาพว่าพวกเขาทะเลาะกันจริง ในขณะที่ครอบครัวของเธอเชื่อว่าเธอทำไม่ดีเพราะความลึกลับ พวกเขานำเธอออกจากโรงพยาบาลศิริรัตน์และพาเธอไป Phitsalok แต่หลังจากที่นมัสการพระพุทธชินราชที่เธอช็อกและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1992 ในพิธีเผาศพพระราช แฟนเพลงของเธอมาเพื่อไว้อาลัยในงานศพมากกว่า 100,000 คน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" พุ่มพวง ดวงจันทร์ " หรือ " rumpueng jithan " ชื่อเล่นที่รู้จัก " ผึ้ง " เธอเกิดเมื่อ 4 สิงหาคม 1961 บ้าน nokkhoa , ต. ไผ่ นกยูง อำเภอ หันคา จังหวัดชัยนาท . ก่อนเธอเติบโตที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เธอเป็นลูกที่ 5 จาก 12 คน ชื่อของบิดา คือ นาย sumrarn jithan และชื่อของแม่คือ นางเล็ก jithan . พวกเขาสามารถตัด
น้ำตาล .ตอนที่เธอยังเป็นเด็ก ครอบครัวยากจน เธอจบจากประถม 2 เธอต้องออกจากโรงเรียนและไปช่วยเก็บผัก ดอกไม้ ป่า เธอจะขายโรงงานสร้างรายได้ให้กับครอบครัวของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ได้อ่าน แต่เธอมีความสามารถในการร้องเพลง . เธอมักจะร้องเพลงประกวดที่ไหน ในชื่อ " น้ำผึ้งนาไร่ อาโออิ เมื่อเธออายุได้ 10 ปีเธออาศัยอยู่กับ " ดวงอนุชา วง " ในกรุงเทพมหานคร งั้น เธอกลับไปที่จังหวัดสุพรรณบุรี
จนกระทั่งเธออายุ 15 เธอร้องประกวดที่ " วัดทับ kradran " และ " waipoj phetsupan " นักร้องชาวไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เขาชื่นชมในพรสวรรค์ของเธอ และเขาได้ติดต่อกับเธอ เล่นกับ เขาวง ผึ้งเริ่มทางของเพลงประเทศ เธอเป็นนักเต้น ต่อไปwaipoj เขียนเพลงแรก " khew ทองหล่อ ผี " และกลายเป็นอัลบั้มแรกของเธอ ในชื่อ " น้ำผึ้ง muengsuphan "
ในขณะที่เธออาศัยอยู่กับ waipoj . เธอได้พบกับ " theeraphol แสนสุข " ; แรกแฟนของผึ้ง . หลังจากนั้น เธอทิ้งให้นักเต้นและนักร้อง " sornphet สิงห์ " และ " ซ้ายอีกครั้งเพื่อ khwunchai phetroi เอ็ด " ในปี 1976" มอญ muengnheua " ทำให้เธอเป็นนักร้องชื่อดัง " พุ่มพวง ดวงจันทร์ " และต่อมาเพลง " รักเชียงใหม่และทาไร่ " และ " rumpueng " หลังจากที่พวกเขาถูกตั้งค่าให้วงดนตรี แต่ไม่สำเร็จ
" พุ่มพวง ดวงจันทร์ " ได้รู้จักหลังจากเธอได้รับการสนับสนุนโดย " phajuab jumphathong " และ " phreecha aussawarueknun " กับ " เสรี รุ่งสว่างชุดวงดนตรีในชื่อ " เสรี " พุ่มพวง " หลังจากนั้น" ลพบุรี bureerat " เขียนเพลงตลกสำหรับของเธอและใช้เวลาที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเธอ .
เพลงยอดนิยม " ซาวนา ซอง แฟน " , " นัดภพญาอุตสาหกรรม " , " UE เว้อช้าง " , " ดาวรวงดาวร้อยเอ็ด " , " คนขี้ลืม Lhung ควาย " ฯลฯ ตั้งแต่ 1972-1991 พุ่มพวงเป็นนักร้อง , ที่นิยมมากที่สุด เพราะว่าเธอมีเสียงที่สวยงามและเขาจำเนื้อเพลง แต่เธอไม่สามารถอ่านเธอได้รับรางวัลเสาอากาศทองหลวงพระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯแห่งประเทศไทยของ " ส้มตำ " ที่ได้รางวัลชื่อ สยาม " nhoea ซาก อบต. เวิน " เธอได้รับเลือกให้ร้องเพลง " ส้มตำ " สยาม crawn ราชสุดา รัตนเทพ พุ่มพวงได้รับการอ้างถึง " ราชินีเพลงประเทศ " มาจาก " ผ่องศรี worranuch "
ต่อมา พุ่มพวง succesed ของเพลงเธอเริ่มอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในปี 1983 เธอเล่นหนังเรื่องแรก " เพลงครามเพลง " และภาพยนตร์เรื่อง " มนต์รักนักเพลง " เธอได้พบกับ " ไกรสร ซาง อนันต์ " ; เขาพาเธอให้พบกับ " phaijit supawaree " เธอทำให้หลายๆ เพลง " แทค กะ ตาล phook ธนู " และ " โลกของผึ้ง " ต่อไปเธอลงนามโดย " แขวนด้านบนบรรทัด " เธอร้องเพลง " สยามเมืองยิ้ม "เธอเป็นนักร้องยอดเยี่ยมรางวัลจากองค์ ฯ sirindhon ของประเทศไทยอีกครั้ง .
เกี่ยวกับเพลงและภาพยนตร์พุ่มพวงประสบความสำเร็จมาก แต่เกี่ยวกับชีวิตรัก&เป็นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เธอและแฟนของเธอสิ้นสุดลง เพราะเธอรู้ว่า แฟนเป็นชู้กับน้องสาวของเธอ ( สลักจิต ออฟ ดิ อีสท์ ) แต่พวกเขาก็ยังทำงานด้วยกัน ในปี 1984เธอแต่งงานกับ " krasorn sangsuk " และพวกเขามีลูกชายชื่อ " santiphap " ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น " sorraphop " หรือ " เพชร "
ในปี 1987 theeraphol เป็นฝีมือพี่ชายพุ่มพวง .


ใน 1992 พุ่มพวงป่วยด้วยโรค SLE ; Systemic lupus erythematosus ) หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง และเธอมักจะเป็น argumented กับสามีจนเขาออกมาสารภาพว่าพวกเขาเป็นจริงการโต้แย้งตอนที่ครอบครัวเธอเชื่อว่าเธอได้ป่วยเพราะไสย เขาพาเธอออกมาจากโรงพยาบาลศิริราช ไป phitsalok . แต่หลังจากบูชาพระพุทธเจ้า chinnarat เธอช็อกและเสียชีวิตในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535
ในพระราชพิธีพระราชทาน แฟนเพลงเธอกลับมาเพื่อไว้อาลัยในงานศพมากกว่า 100000 ประชาชน .