3. กินแค่ไหนจึงจะไม่โดนตำรวจจับ ในประเทศไทย กฎหมายตั้งเกณฑ์ไว้ที่50mg% การแปล - 3. กินแค่ไหนจึงจะไม่โดนตำรวจจับ ในประเทศไทย กฎหมายตั้งเกณฑ์ไว้ที่50mg% ไทย วิธีการพูด

3. กินแค่ไหนจึงจะไม่โดนตำรวจจับ ในป

3. กินแค่ไหนจึงจะไม่โดนตำรวจจับ
ในประเทศไทย กฎหมายตั้งเกณฑ์ไว้ที่50mg% ดังนั้นเป้าคือกินอย่างไรไม่ให้เกิด50mg%
มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2550 ในวารสารจดหมายเหตุทางการแพทย์ เกี่ยวกับการทดลองโดยให้อาสาสมัครดื่มเหล้า(+กับแกล้มหรืออาหาร)และตรวจเลือด ซึ่งพบว่าการดื่มเหล้าเกิน1ดริงค์ต่อชั่วโมง ก็เสี่ยงต่อการมีระดับแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้ว (1ดริงค์ = เหล้า40ดีกรี 40ซีซี /หรือเบียร์ 275 ซีซี)
ถ้าพูดเป็นภาษาเข้าใจง่ายขึ้นก็คือ ถ้าคุณไปเที่ยวแล้วกินเหล้าสัก6-7 ฝา หรือ กินเบียร์1กระป๋อง จากนั้นก็ขับรถมาเจอด่านตรวจ คุณก็มีโอกาสที่จะโดนจับ
ทั้งนี้ในงานวิจัยพบว่า การกินกับแกล้มก็ไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าจะให้ช่วยจริงๆต้องกินเป็นอาหารมื้อหนักๆไปเลยจึงจะพอช่วยลดการดูดซึมได้บ้าง



4. กินยังไงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
หลายคนที่เจอจับอาจจะงงว่าตนเองยังไม่เมาเลย ทำไมโดนจับ เรื่องของเรื่องคือกลไกการเกิดอุบัติเหตุของคนที่ดื่มเหล้าเกิดจากการตัดสินใจช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีครับ เกิดได้ตั้งแต่ปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดน้อยที่ระดับ 10mg% ขึ้นไป ... ปริมาณระดับนี้ไม่สามารถตรวจด้วยวิธีปกติได้ แต่สามารถตรวจได้จากการวัดความเร็วการตอบสนองของร่างกาย
นั่นหมายความว่า คุณเสียความสามารถในการตอบสนองไปแล้ว โดยที่ยังไม่รู้สึกมึนด้วยซ้ำ

5. มียาแก้เมาค้างหรือไม่
การแก้อาการเมาค้างในปัจจุบันยังใช้วิธีแบบตรงไปตรงมาคือ อย่าดื่มมากเกิน อย่าดื่มเร็วเกิน ดื่มน้ำบ่อยๆ เลือกชนิดเหล้า(เหล้าบางชนิดจะมีสารเคมีที่ทำให้เมาค้างได้ง่าย ต้องหาเอา ขึ้นกับแต่ละคน)ส่วนถ้าไปดูตามวงเหล้า หรือตามโฆษณาต่างๆ จะมีการพูดถึงยา, สมุนไพร, อาหารเสริม ที่ช่วงแก้อาการเมาค้าง ... แต่ถ้าว่ากันจริงๆตามงานวิจัย ยังไม่มียาที่ใช้แก้อาการเมาค้างที่ได้ผลชัดเจนทางวิทยาศาสตร์ครับ

6. การดื่มเพื่อสุขภาพ
มีงานวิจัยที่ออกมาบอกว่าการดื่มแอลกฮอล์อาจจะมีส่วนช่วยเรื่องสุขภาพได้ ทั้งนี้ต้องดื่มแต่พอดีครับ คำว่าดื่มแต่พอดีก็คือ การดื่มประมาณวันละ 1 ดริงค์
เทียบเท่าเบียร์ค่อนกระป๋อง / ไวน์ปริมาณ1ขวดกระทิงแดง / หรือเหล้าหนึ่งเป๊ก ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการดื่มในระดับที่ไม่รู้สึกอะไร หรืออย่างมากก็กรึ่มเพียงเล็กน้อย
ดังนั้นการดื่มเพื่อสันทนาการ ดื่มแบบเฮฮา หรือดื่มแบบสนุกครื้นเครง ล้วนเกินพอดีครับ โทษมากกว่าประโยชน์ชัดเจน

0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
3. กินแค่ไหนจึงจะไม่โดนตำรวจจับ ในประเทศไทย กฎหมายตั้งเกณฑ์ไว้ที่50mg % ดังนั้นเป้าคือกินอย่างไรไม่ให้เกิด50mg % มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2550 ในวารสารจดหมายเหตุทางการแพทย์เกี่ยวกับการทดลองโดยให้อาสาสมัครดื่มเหล้า (+ กับแกล้มหรืออาหาร) และตรวจเลือด ซึ่งพบว่าการดื่มเหล้าเกิน1ดริงค์ต่อชั่วโมง ก็เสี่ยงต่อการมีระดับแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้ว (1ดริงค์ =ซีซี เหล้า40ดีกรี 40ซีซี /หรือเบียร์ 275) ถ้าพูดเป็นภาษาเข้าใจง่ายขึ้นก็คือฝา ถ้าคุณไปเที่ยวแล้วกินเหล้าสัก6-7 หรือ กินเบียร์1กระป๋อง จากนั้นก็ขับรถมาเจอด่านตรวจคุณก็มีโอกาสที่จะโดนจับ ทั้งนี้ในงานวิจัยพบว่าการกินกับแกล้มก็ไม่ได้ช่วยอะไรถ้าจะให้ช่วยจริงๆต้องกินเป็นอาหารมื้อหนักๆไปเลยจึงจะพอช่วยลดการดูดซึมได้บ้าง4. กินยังไงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหลายคนที่เจอจับอาจจะงงว่าตนเองยังไม่เมาเลยทำไมโดนจับเรื่องของเรื่องคือกลไกการเกิดอุบัติเหตุของคนที่ดื่มเหล้าเกิดจากการตัดสินใจช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีครับเกิดได้ตั้งแต่ปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดน้อยที่ระดับ 10mg %ขึ้นไป... ปริมาณระดับนี้ไม่สามารถตรวจด้วยวิธีปกติได้แต่สามารถตรวจได้จากการวัดความเร็วการตอบสนองของร่างกายนั่นหมายความว่าคุณเสียความสามารถในการตอบสนองไปแล้วโดยที่ยังไม่รู้สึกมึนด้วยซ้ำ5. มียาแก้เมาค้างหรือไม่ การแก้อาการเมาค้างในปัจจุบันยังใช้วิธีแบบตรงไปตรงมาคืออย่าดื่มมากเกินอย่าดื่มเร็วเกินดื่มน้ำบ่อย ๆ เลือกชนิดเหล้า (เหล้าบางชนิดจะมีสารเคมีที่ทำให้เมาค้างได้ง่ายต้องหาเอาขึ้นกับแต่ละคน) ส่วนถ้าไปดูตามวงเหล้าหรือตามโฆษณาต่าง ๆ จะมีการพูดถึงยา สมุนไพร อาหารเสริมที่ช่วงแก้อาการเมาค้าง... แต่ถ้าว่ากันจริงๆตามงานวิจัยยังไม่มียาที่ใช้แก้อาการเมาค้างที่ได้ผลชัดเจนทางวิทยาศาสตร์ครับ6. การดื่มเพื่อสุขภาพ มีงานวิจัยที่ออกมาบอกว่าการดื่มแอลกฮอล์อาจจะมีส่วนช่วยเรื่องสุขภาพได้ทั้งนี้ต้องดื่มแต่พอดีครับคำว่าดื่มแต่พอดีก็คือการดื่มประมาณวันละ 1 ดริงค์ เทียบเท่าเบียร์ค่อนกระป๋อง / ไวน์ปริมาณ1ขวดกระทิงแดง / หรือเหล้าหนึ่งเป๊กซึ่งแน่นอนว่าเป็นการดื่มในระดับที่ไม่รู้สึกอะไรหรืออย่างมากก็กรึ่มเพียงเล็กน้อย ดังนั้นการดื่มเพื่อสันทนาการดื่มแบบเฮฮาหรือดื่มแบบสนุกครื้นเครงล้วนเกินพอดีครับโทษมากกว่าประโยชน์ชัดเจน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
3
กฎหมายตั้งเกณฑ์ไว้ที่ 50mg%
2550 ในวารสารจดหมายเหตุทางการแพทย์ (1 ดริงค์ = เหล้า 40 ดีกรี 40 ซีซี / หรือเบียร์ 275
ถ้าคุณไปเที่ยวแล้วกินเหล้าสัก 6-7 ฝาหรือกินเบียร์ 1 กระป๋องจากนั้นก็ขับรถมาเจอด่านตรวจ
การกินกับแกล้มก็ไม่ได้ช่วยอะไร ทำไมโดนจับ 10mg% ขึ้นไป ... โดยที่ยังไม่รู้สึกมึนด้วยซ้ำ5 อย่าดื่มมากเกินอย่าดื่มเร็วเกินดื่มน้ำบ่อยๆ ต้องหาเอา หรือตามโฆษณาต่างๆจะมีการพูดถึงยา, สมุนไพร, อาหารเสริมที่ช่วงแก้อาการเมาค้าง ... แต่ถ้าว่ากันจริงๆตามงานวิจัย ทั้งนี้ต้องดื่ม แต่พอดีครับคำว่าดื่ม แต่พอดีก็คือการดื่มประมาณวันละ 1 ดริงค์เทียบเท่าเบียร์ค่อนกระป๋อง / ไวน์ปริมาณ 1 ขวดกระทิงแดง / หรือเหล้าหนึ่งเป๊ก ดื่มแบบเฮฮาหรือดื่มแบบสนุกครื้นเครงล้วนเกินพอดีครับโทษมากกว่าประโยชน์ชัดเจน















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
3 . กินแค่ไหนจึงจะไม่โดนตำรวจจับ
ในประเทศไทยกฎหมายตั้งเกณฑ์ไว้ที่ 50 50 %
% ดังนั้นเป้าคือกินอย่างไรไม่ให้เกิดมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2550 ในวารสารจดหมายเหตุทางการแพทย์เกี่ยวกับการทดลองโดยให้อาสาสมัครดื่มเหล้า ( กับแกล้มหรืออาหาร ) และตรวจเลือดซึ่งพบว่าการดื่มเหล้าเกิน 1 ดริงค์ต่อชั่วโมง( 1 ดริงค์ = เหล้า 40 ดีกรี 40 ซีซี / หรือเบียร์ 275 ซีซี )
ถ้าพูดเป็นภาษาเข้าใจง่ายขึ้นก็คือถ้าคุณไปเที่ยวแล้วกินเหล้าสัก 6-7 ฝาค็อคกินเบียร์ 1 กระป๋องจากนั้นก็ขับรถมาเจอด่านตรวจคุณก็มีโอกาสที่จะโดนจับ
ทั้งนี้ในงานวิจัยพบว่าการกินกับแกล้มก็ไม่ได้ช่วยอะไรถ้าจะให้ช่วยจริงๆต้องกินเป็นอาหารมื้อหนักๆไปเลยจึงจะพอช่วยลดการดูดซึมได้บ้าง



4 . กินยังไงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
หลายคนที่เจอจับอาจจะงงว่าตนเองยังไม่เมาเลยทำไมโดนจับเรื่องของเรื่องคือกลไกการเกิดอุบัติเหตุของคนที่ดื่มเหล้าเกิดจากการตัดสินใจช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีครับ10 % ขึ้นไป .. . . . . . . ปริมาณระดับนี้ไม่สามารถตรวจด้วยวิธีปกติได้แต่สามารถตรวจได้จากการวัดความเร็วการตอบสนองของร่างกาย
นั่นหมายความว่าคุณเสียความสามารถในการตอบสนองไปแล้วโดยที่ยังไม่รู้สึกมึนด้วยซ้ำ

5มียาแก้เมาค้างหรือไม่
การแก้อาการเมาค้างในปัจจุบันยังใช้วิธีแบบตรงไปตรงมาคืออย่าดื่มมากเกินอย่าดื่มเร็วเกินดื่มน้ำบ่อยๆเลือกชนิดเหล้า ( เหล้าบางชนิดจะมีสารเคมีที่ทำให้เมาค้างได้ง่ายต้องหาเอาจะมีการพูดถึงยาหรือตามโฆษณาต่างๆ ,สมุนไพรอาหารเสริมที่ช่วงแก้อาการเมาค้าง , . . . แต่ถ้าว่ากันจริงๆตามงานวิจัยยังไม่มียาที่ใช้แก้อาการเมาค้างที่ได้ผลชัดเจนทางวิทยาศาสตร์ครับ

6 การดื่มเพื่อสุขภาพ
มีงานวิจัยที่ออกมาบอกว่าการดื่มแอลกฮอล์อาจจะมีส่วนช่วยเรื่องสุขภาพได้ทั้งนี้ต้องดื่มแต่พอดีครับคำว่าดื่มแต่พอดีก็คือการดื่มประมาณวันละดริงค์
1เทียบเท่าเบียร์ค่อนกระป๋อง / ไวน์ปริมาณ 1 ขวดกระทิงแดง / หรือเหล้าหนึ่งเป๊กซึ่งแน่นอนว่าเป็นการดื่มในระดับที่ไม่รู้สึกอะไรหรืออย่างมากก็กรึ่มเพียงเล็กน้อย
ดังนั้นการดื่มเพื่อสันทนาการดื่มแบบเฮฮาหรือดื่มแบบสนุกครื้นเครงล้วนเกินพอดีครับโทษมากกว่าประโยชน์ชัดเจน

การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: