In the Red River Delta, farmers hav

In the Red River Delta, farmers have experience in growing an upland crop between two rice crops. Spring rice is harvested in June and early 'Mua' rice crop is harvested at the beginning of November. The possible upland crops to follow in this cropping pattern are potato, vegetables, beans etc., or at the end of October it could be corn, sweet potato or soybean. They are sown immediately after harvesting rice to avoid low temperature in winter. Short duration and non-photosensitive rice varieties are chosen for the early Mua rice crop. When necessary, crop seedlings for each hill are prepared by sowing seed in separate boxed seedbeds made of leaves or plastic. Sometimes farmers put seedlings of the upland crop in rice fields about 10 days before harvesting the rice crop. Such cropping systems (rice-rice-upland crop) are practiced on hundreds of thousands of hectares in the North, including the Red River Delta. Farmers can get more cash from the upland crops, especially by growing temperate vegetables such as cabbage, cauliflower and potato which can yield 15-20 tonnes/hectare. There is a residual effect from the upland crop for the subsequent spring rice crop which includes minimizing land preparation and weed control costs, and spending less on fertilizer.

In the Mekong delta, there is no problem of low temperatures. Farmers have grown many upland crops in rotation with rice, except crops of temperate origin such as cauliflower. Farmers grow winter-spring rice from November to February, then follow up with an upland crop before summer-autumn rice. It is interesting to note that in Longxuyen quadrangle, peanut has been grown on heavy soils (60 percent clay) on thousands of hectares, which can yield 3-4 tonnes/hectare. The soils in this region are perhaps high in organic matter (5-6 percent) and the difference of diurnal day/night temperature is high (6-10°C). In terms of residues for the next rice crop, groundnut and vegetable soybean (65 days) are considered the best. Generally, no tillage is applied for upland crops. After burning rice straw, farmers make planting holes and place the seed. One of the problems of crop intensification for crop diversification on rice land is damage from floods in the rainy season. Floods occur from the middle of August and recede in November. Farmers are attempting to experiment with new technologies to overcome such constraints, for example, by using rice varieties with a duration below 90 days, or to apply a method of water seeding for the winter-spring rice crop in order to shorten the duration of the crop in the field.

In the 1960's and 1970's, Azolla was cultivated on a large scale in about 0.5 million hectares in the north, especially in the Red River Delta. Azolla could replace 30-50 percent of N fertilizer for winter-spring or spring rice crop, but this practice has since been abandoned. The reason is that Azolla cultivation requires a lot of labour with very precise conditions in the winter season and farmers had to spray insecticides and apply phosphorous fertilizer every 5 days. They also had to manage water and remove dew to dry Azolla every day when temperature was low (below 15° C), if not, Azolla would die. Leguminous crops such as groundnut, soybean, mungbean for either cash crop or green manure are feasible cultivation alternatives under these conditions. These leguminous crops can be grown in rotation with rice or intercropped with corn as well. Data from production experiments show that vegetable soybean (65 days for green soybean, 90 days for soybean seed) and peanut are the best for the above purpose, grown either as a cash crop or for green manure. Yield of the following rice crop can be increased by 20-30 percent, or it can decrease N requirement by 30-40 kg/ha. When grown as an intercrop with corn, spacing of 80 cm × 25 cm should be replaced by spacing of 120 cm × (25 × 40 double lines), as by these configurations the corn population will have the same plant density of 50,000 plants/hectare, which gives the same yield. Three lines with 40 × 20 cm of leguminous crop can be grown between two lines of corn with a spacing of 120 cm.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง เกษตรกรมีประสบการณ์ในการปลูกพืชดอนระหว่างสองข้าว ฤดูใบไม้ผลิข้าวจะเก็บเกี่ยวในเดือนมิถุนายน และช่วง 'มั่ว' ข้าวพืชจะเก็บเกี่ยวเมื่อต้นพฤศจิกายน พืชไร่ได้ตามในรูปที่ครอบตัดนี้มีมันฝรั่ง ผัก ถั่วฯลฯ หรือปลายตุลาคม อาจข้าวโพด มันเทศ หรือถั่วเหลือง พวกเขาถูก sown ทันทีหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อหลีกเลี่ยงอุณหภูมิต่ำในฤดูหนาว ระยะเวลาสั้น ๆ และพันธุ์ข้าวไม่ใช่แสงจะถูกเลือกสำหรับการเพาะปลูกข้าวมัวก่อน เมื่อจำเป็น ต้นกล้าของพืชสำหรับแต่ละเขามีการจัดทำ โดยการหว่านเมล็ดพันธุ์ใน seedbeds กล่องแยกทำใบหรือพลาสติก บางครั้งเกษตรกรนำต้นกล้าของพืชผลไร่นาประมาณ 10 วันก่อนการเก็บเกี่ยวพืชข้าว ระบบดังกล่าวครอบตัด (ข้าวข้าวไร่พืช) เป็นฝึกฝนในหลายร้อยหลายพันไร่ในภาคเหนือ รวมถึงแม่น้ำแดง เกษตรกรจะได้รับเงินเพิ่มเติมจากพืชไร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยการปลูกผักเมืองหนาว เช่นกะหล่ำปลี กะหล่ำดอกมันฝรั่งซึ่งสามารถให้ผลผลิต 15-20 ตัน/ตารางเมตร มีผลตกค้างจากพืชไร่สำหรับการเพาะปลูกข้าวฤดูใบไม้ผลิต่อมาซึ่งรวมถึงลดการเตรียมดิน และวัชพืชควบคุมต้นทุน และใช้ปุ๋ยน้อยลงในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง มีปัญหาของอุณหภูมิต่ำ เกษตรกรมีปลูกพืชไร่หมุนข้าว ยกเว้นพืชกำเนิดหนาวเช่นกะหล่ำดอก เกษตรกรปลูกข้าวฤดูใบไม้ผลิฤดูหนาวจากพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ แล้วตาม ด้วยการตัดดอนก่อนฤดูร้อนฤดูใบไม้ร่วงข้าว เป็นที่น่าสนใจทราบว่า ใน Longxuyen คัวดรานเกิล ถั่วลิสงได้รับการปลูกในดินหนัก (ดินร้อยละ 60) พันไร่ ซึ่งสามารถให้ผลผลิต 3-4 ตัน/ตารางเมตร ในภูมิภาคนี้อาจจะสูงในอินทรีย์ (ร้อยละ 5-6) และความแตกต่างของอุณหภูมิกลางวันกลางคืนรายสูง (6-10° C) ในแง่ของตกค้างสำหรับการเพาะปลูกข้าวต่อไป ถั่วลิสงและถั่วเหลืองผัก (65 วัน) จะถือว่าดีที่สุด โดยทั่วไป ไม่ tillage ใช้สำหรับพืชไร่ หลังจากเผาไหม้ฟางข้าว เกษตรกรทำหลุมปลูก และวางเมล็ด ปัญหาของแรงพืชสำหรับพืชกระจายข้าวที่ดินอย่างใดอย่างหนึ่งคือความเสียหายจากน้ำท่วมในฤดูฝน น้ำท่วมเกิดขึ้นช่วงกลางเดือนสิงหาคม และทยอยในเดือนพฤศจิกายน เกษตรกรกำลังพยายามทดลองกับเทคโนโลยีใหม่ เพื่อเอาชนะข้อจำกัดดังกล่าว เช่น โดยใช้พันธุ์ข้าวมีระยะเวลาต่ำกว่า 90 วัน หรือ การใช้วิธีการน้ำเพาะสำหรับการเพาะปลูกข้าวฤดูหนาวฤดูใบไม้ผลิเพื่อย่นระยะเวลาของการเพาะปลูกในฟิลด์ในปี 1960 และปี 1970 แหนแดงถูกปลูกในขนาดใหญ่ในประมาณ 0.5 ล้านไร่ในภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแม่น้ำแดง แหนแดงสามารถแทนที่ 30-50 เปอร์เซ็นต์ของปุ๋ย N สำหรับการเพาะปลูกข้าวฤดูหนาวฤดูใบไม้ผลิ หรือฤดูใบไม้ผลิ แต่การปฏิบัตินี้ได้ถูกทิ้งร้างตั้งแต่ เหตุผลคือ ว่า เพาะแหนแดงต้องการแรงงานกับแม่นยำมากในฤดูหนาว และเกษตรกรมีการพ่นยาฆ่าแมลง และใช้ปุ๋ยฟอสฟอรัสทุก 5 วัน พวกเขายังมีการจัดการน้ำ และเอาน้ำค้างแห้งแหนแดงทุกวันเมื่ออุณหภูมิได้ต่ำ (ต่ำกว่า 15° C), ถ้า ไม่ แหนแดงจะตาย พืชตระกูลถั่วเช่นถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วเขียวพืชหรือปุ๋ยพืชสดเป็นทางเลือกสำหรับการเพาะปลูกเป็นไปภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ พืชตระกูลถั่วเหล่านี้สามารถปลูกหมุนเวียนกับข้าว หรือ intercropped กับข้าวโพดเป็นอย่างดี ข้อมูลจากการทดลองผลิตแสดงว่า ถั่วเหลืองผัก (65 วันสำหรับถั่วเหลืองเขียว 90 วันสำหรับเมล็ดถั่วเหลือง) และถั่วลิสงที่ดีสุด สำหรับวัตถุ ประสงค์ข้างต้น ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือปุ๋ยพืชสด สามารถเพิ่มผลผลิตของพืชข้าวต่อ 20-30 เปอร์เซ็นต์ หรือลดความต้องการ N โดย 30-40 กก./ฮา เมื่อเติบโตเป็นการ intercrop กับข้าวโพด ระยะห่าง 80 ซม. × 25 ซม.ควรถูกแทน โดยระยะห่างของ× 120 ซม. (25 × 40 คู่สาย), โดยการกำหนดค่าเหล่านี้ ประชากรข้าวโพดจะมีความหนาแน่นโรงเดียวของ 50,000 พืช/ตารางเมตร ซึ่งให้ผลเหมือนกัน สามบรรทัดที่ มี 40 × 20 ซม.ของพืชตระกูลถั่วที่สามารถปลูกระหว่างบรรทัดสองของข้าวโพดกับระยะห่างของ 120 ซม.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดงเกษตรกรมีประสบการณ์ในการปลูกพืชไร่ในระหว่างสองข้าว ข้าวฤดูใบไม้ผลิจะมีการเก็บเกี่ยวในเดือนมิถุนายนและต้นข้าว 'Mua' จะมีการเก็บเกี่ยวในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน พืชไร่ไปได้ที่จะตามมาในรูปแบบการปลูกพืชนี้มันฝรั่ง, ผัก, ถั่ว ฯลฯ หรือที่ส่วนท้ายของเดือนตุลาคมมันอาจจะเป็นข้าวโพดมันเทศหรือถั่วเหลือง พวกเขาจะหว่านทันทีหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อหลีกเลี่ยงอุณหภูมิต่ำในช่วงฤดูหนาว ระยะเวลาสั้น ๆ และไม่ใช่แสงพันธุ์ข้าวที่จะถูกเลือกสำหรับต้นข้าว Mua เมื่อมีความจำเป็นต้นกล้าพืชสำหรับแต่ละฮิลล์ได้จัดทำขึ้นโดยการหว่านเมล็ดพันธุ์ในการเพาะชนิดบรรจุกล่องแยกต่างหากที่ทำจากใบหรือพลาสติก บางครั้งเกษตรกรนำต้นกล้าของพืชไร่ในนาข้าวประมาณ 10 วันก่อนการเก็บเกี่ยวพืชข้าว ระบบการปลูกพืชดังกล่าว (การเพาะปลูกข้าวข้าวไร่) มีประสบการณ์ในหลายร้อยหลายพันไร่ในภาคเหนือรวมทั้งสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง เกษตรกรจะได้รับเงินเพิ่มเติมจากพืชไร่โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาวเช่นกะหล่ำปลีกะหล่ำดอกและมันฝรั่งซึ่งสามารถให้ผลผลิต 15-20 ตัน / เฮกตาร์ มีผลกระทบที่เหลือจากการปลูกพืชไร่สำหรับการเพาะปลูกข้าวในฤดูใบไม้ผลิที่ตามมาซึ่งรวมถึงการลดค่าใช้จ่ายการเตรียมดินและการควบคุมวัชพืชและการใช้จ่ายน้อยลงในปุ๋ย. ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมีปัญหาของอุณหภูมิต่ำไม่มี เกษตรกรมีการปลูกพืชไร่จำนวนมากในการหมุนด้วยข้าวยกเว้นพืชของต้นกำเนิดหนาวเช่นดอกกะหล่ำ เกษตรกรปลูกข้าวในฤดูหนาวฤดูใบไม้ผลิจากเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์แล้วตามด้วยพืชไร่ข้าวก่อนฤดูร้อนฤดูใบไม้ร่วง เป็นที่น่าสนใจที่จะทราบว่าใน Longxuyen จัตุรัสถั่วลิสงได้รับการปลูกในดินหนัก (ดินร้อยละ 60) ในพันไร่ซึ่งสามารถให้ผลผลิต 3-4 ตัน / เฮกตาร์ ดินในภูมิภาคนี้อาจจะสูงในสารอินทรีย์ (5-6 เปอร์เซ็นต์) และความแตกต่างของวันเวลากลางวัน / การคืนอุณหภูมิสูง (6-10 ° C) ในแง่ของการตกค้างสำหรับการเพาะปลูกข้าวต่อไปลิสงและถั่วเหลืองผัก (65 วัน) จะถือว่าดีที่สุด โดยทั่วไปไม่ถูกนำไปใช้เตรียมดินสำหรับพืชไร่ หลังจากการเผาไหม้ฟางข้าวเกษตรกรทำให้หลุมปลูกและการวางเมล็ดพันธุ์ หนึ่งในปัญหาของการเพาะปลูกแรงสำหรับการกระจายการลงทุนเพาะปลูกบนที่ดินข้าวเสียหายจากน้ำท่วมในฤดูฝน น้ำท่วมที่เกิดขึ้นจากตรงกลางของเดือนสิงหาคมและลดลงในเดือนพฤศจิกายน เกษตรกรมีความพยายามที่จะทดสอบกับเทคโนโลยีใหม่ที่จะเอาชนะข้อ จำกัด ดังกล่าวตัวอย่างเช่นโดยการใช้พันธุ์ข้าวที่มีระยะเวลาต่ำกว่า 90 วันหรือจะใช้วิธีการเพาะน้ำสำหรับการเพาะปลูกข้าวในฤดูหนาวฤดูใบไม้ผลิเพื่อร่นระยะเวลาของ การปลูกพืชในเขต. ในปี 1960 และปี 1970 ได้รับการปลูกฝังแหนแดงในขนาดใหญ่ในประมาณ 0.5 ล้านไร่ในภาคเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง แหนแดงสามารถใช้ทดแทนร้อยละ 30-50 ของปุ๋ยไนโตรเจนสำหรับฤดูหนาวฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ผลิข้าว แต่การปฏิบัตินี้ได้รับตั้งแต่ที่ถูกทิ้งร้าง เหตุผลก็คือว่าการเพาะปลูกแหนแดงต้องใช้แรงงานจำนวนมากที่มีเงื่อนไขที่แม่นยำมากในฤดูหนาวและเกษตรกรมีการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงและใช้ปุ๋ยฟอสฟอรัสทุก 5 วัน พวกเขายังมีการจัดการน้ำและลบน้ำค้างให้แห้งแหนแดงทุกวันเมื่ออุณหภูมิต่ำ (ต่ำกว่า 15 ° C) ถ้าไม่แหนแดงจะตาย พืชตระกูลถั่วเช่นถั่วลิสงถั่วเหลืองถั่วเขียวทั้งพืชเงินสดหรือปุ๋ยพืชสดเป็นทางเลือกการเพาะปลูกไปได้ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ พืชตระกูลเหล่านี้สามารถเจริญเติบโตในการหมุนด้วยข้าวหรือข้าวโพดแซมเช่นกัน ข้อมูลจากการทดลองแสดงให้เห็นว่าการผลิตถั่วเหลืองฝักสด (65 วันสำหรับถั่วเหลืองสีเขียว 90 วันสำหรับเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง) และถั่วลิสงที่ดีที่สุดเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นที่ปลูกพืชไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือปุ๋ยพืชสด อัตราผลตอบแทนของการเพาะปลูกข้าวต่อไปนี้สามารถเพิ่มขึ้นร้อยละ 20-30 หรือสามารถลดความต้องการ N โดย 30-40 กก. / ไร่ เมื่อโตเป็นแซมข้าวโพดระยะห่าง 80 ซม. × 25 ซม. ควรถูกแทนที่ด้วยระยะห่างของ 120 ซม. × (25 × 40 เส้นคู่) โดยกำหนดค่าเหล่านี้ประชากรข้าวโพดจะมีความหนาแน่นของโรงงานเดียวกัน 50,000 ต้น / เฮกตาร์ ซึ่งจะช่วยให้อัตราผลตอบแทนที่เดียวกัน สามบรรทัดมี 40 × 20 ซม. ของพืชตระกูลถั่วสามารถเจริญเติบโตระหว่างสองสายของข้าวโพดที่มีระยะห่าง 120 เซนติเมตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง เกษตรกรมีประสบการณ์ในการปลูกข้าวไร่ปลูกระหว่างพืช ข้าวที่เก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิและต้นมิถุนายน " มั่ว " การเพาะปลูกข้าวที่เก็บเกี่ยวในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน พืชที่สูงที่สุดที่จะปฏิบัติตามในรูปแบบการปลูกพืช คือ มันฝรั่ง ผัก ถั่ว ฯลฯ หรือ ณ สิ้นเดือนตุลาคมสามารถ ข้าวโพด มันฝรั่ง หรือถั่วเหลือง พวกเขาหว่านทันทีหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อหลีกเลี่ยงอุณหภูมิต่ำในฤดูหนาว ระยะเวลาสั้น ๆและไม่แพ้แสงข้าวเลือกมั่ว ก่อนปลูก . เมื่อจำเป็นต้องปลูกต้นกล้าแต่ละเนินที่เตรียมไว้ โดยแยก seedbeds เมล็ดในกล่องที่ทำจากใบหรือพลาสติก บางครั้งเกษตรกรใส่ต้นกล้าของพืชไร่ในนาข้าว ประมาณ 10 วัน ก่อนเก็บเกี่ยวข้าวที่ปลูก ระบบการปลูกพืช ( พืชไร่ เช่น ข้าว ) จะได้รับหลายร้อยหลายพันไร่ในภาคเหนือ รวมทั้งเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง เกษตรกรจะได้รับเงินสดจากการปลูกพืชไร่ โดยเฉพาะการปลูกผักเมืองหนาว เช่น กะหล่ําปลี กะหล่ำดอกและมันฝรั่งซึ่งสามารถให้ผลผลิต 15-20 ตัน / เฮกแตร์ ไม่มีผลตกค้างจากพืชไร่ที่ปลูกตามมาในฤดูใบไม้ผลิซึ่งรวมถึงลดต้นทุนการเตรียมดินและควบคุมวัชพืช และใช้เวลาน้อยลงในปุ๋ยในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ไม่มีปัญหาของอุณหภูมิต่ำ เกษตรกรมีการปลูกพืชไร่ที่ดอนหลายในการหมุนด้วยข้าว ยกเว้นพืชเมืองหนาว เช่น กะหล่ําของผลิตภัณฑ์ . เกษตรกรที่ปลูกข้าวในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ แล้วตามด้วยการปลูกข้าวไร่ก่อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูร้อน เป็นที่น่าสนใจที่จะทราบว่าใน longxuyen สี่เหลี่ยม ถั่วลิสงที่ได้รับการปลูกในดินหนัก ( 60 เปอร์เซ็นต์ ดิน ) อยู่หลายพันไร่ ซึ่งได้ผลผลิต 3-4 ตัน / เฮกแตร์ ดินในภูมิภาคนี้จะสูงในอินทรีย์ ( 5-6 เปอร์เซ็นต์ และความแตกต่างของอุณหภูมิกลางวัน / กลางคืนวันสูง ( 6-10 องศา C ) ในแง่ของการตกค้างในผลผลิตข้าวต่อไป ถั่วลิสง และถั่วเหลืองฝักสด ( 65 วัน ) จะถือว่าดีที่สุด โดยทั่วไป การปลูกแบบไม่ใช้กับพืชไร่ หลังจากเผาฟางข้าว เกษตรกรให้ปลูกหลุมและสถานที่ที่เมล็ด หนึ่งในปัญหาของพืชเพื่อการเพาะปลูกข้าวแรงกระจายที่ดินที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในฤดูฝน อุทกภัยที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางสิงหาคม และจะลดลงในเดือนพฤศจิกายน เกษตรกรพยายามทดลองกับเทคโนโลยีใหม่ที่จะเอาชนะข้อ จำกัด ดังกล่าว เช่น การใช้พันธุ์ข้าวที่มีระยะเวลาเกิน 90 วัน หรือต้องใช้วิธีน้ำเมล็ดในฤดูใบไม้ผลิฤดูหนาวปลูกเพื่อลดระยะเวลาของการเพาะปลูกในเขตในช่วงปี 1960 และ 1970 , แหนแดงถูกปลูกบนขนาดใหญ่ประมาณ 0.5 ล้านไร่ ในภาคเหนือ โดยเฉพาะในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง แหนแดงสามารถแทนที่ร้อยละ 30-50 ของปุ๋ยไนโตรเจนสำหรับฤดูหนาวฤดูใบไม้ผลิหรือการเพาะปลูกข้าวในฤดูใบไม้ผลิ แต่การปฏิบัตินี้มีตั้งแต่ถูก เหตุผลคือ การปลูกแหนแดงต้องการมากของแรงงานที่มีเงื่อนไขชัดเจนมากในฤดูหนาว และเกษตรกรต้องฉีดยาฆ่าแมลง และใช้ปุ๋ยฟอสฟอรัสทุก 5 วัน พวกเขายังต้องจัดการน้ำและเอาน้ำค้างแห้งแหนแดงทุกวันเมื่ออุณหภูมิต่ำ ( ต่ำกว่า 15 ° C ) , ถ้าไม่ได้ , แหนแดงจะตาย พืชเมล็ดพืช เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว เพื่อให้พืชหรือปุ๋ยพืชสด ปลูกเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ พืชเมล็ดพืชเหล่านี้สามารถปลูกข้าว หรือข้าวโพด หมุนชุดด้วยเช่นกัน ข้อมูลจากการทดลองแสดงให้เห็นว่าการผลิตถั่วเหลืองฝักสด ( 65 วัน ถั่วเหลือง เขียว 90 วัน เมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองและถั่วลิสงจะดีที่สุดสำหรับวัตถุประสงค์ข้างต้น ที่ปลูกเป็นพืชหรือปุ๋ยพืชสด ผลผลิตต่อการเพาะปลูกข้าวสามารถเพิ่มขึ้น 20-30 เปอร์เซ็นต์ หรืออาจลดความต้องการโดย 30-40 กก. N / ไร่ เมื่อปลูกเป็นพืชแซมด้วยข้าวโพด ระยะ 80 cm × 25 ซม. ควรถูกแทนที่ด้วยระยะห่าง 120 cm × ( 25 × 40 เส้นคู่ ) โดยการกำหนดค่าเหล่านี้ ข้าวโพด ประชากรจะโรงงานเดียวกัน ความหนาแน่นของ 50 , 000 ต้น / ไร่ ซึ่งจะให้ผลเหมือนกัน สามบรรทัดที่ 40 × 20 ซม. ของพืชตระกูลถั่วพืชสามารถเจริญเติบโตระหว่างสองบรรทัดของข้าวโพดกับระยะ 120 ซม.