The actual date of construction of

The actual date of construction of the first mosque in Djenné is unknown, but dates as early as 1200 and as late as 1330 have been suggested.[1] The earliest document mentioning the mosque is Abd al-Sadi's Tarikh al-Sudan which gives the early history, presumably from the oral tradition as it existed in the mid seventeenth century. The tarikh states that a Sultan Kunburu became a Muslim and had his palace pulled down and the site turned into a mosque. He built another palace for himself near the mosque on the east side.[2] His immediate successor built the towers of the mosque while the following Sultan built the surrounding wall.[3]

There is no other written information on the Great Mosque until the French explorer René Caillié visited Djenné in 1828 and wrote "In Jenné is a mosque built of earth, surmounted by two massive but not high towers; it is rudely constructed, though very large. It is abandoned to thousands of swallows, which build their nests in it. This occasions a very disagreeable smell, to avoid which, the custom of saying prayers in a small outer court has become common."[4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วันจริงของการก่อสร้างมัสยิดแรกใน Djenné เป็นที่รู้จัก แต่วันก่อน เป็น 1200 และสาย 1330 มีการแนะนำ [1]เอกสารแรกสุดที่กล่าวถึงมัสยิดเป็นชิวชิวอัล-Sadi ของ Tarikh อัลซูดานซึ่งประวัติต้น สันนิษฐานว่าจากประเพณีทางปากเป็นมันมีอยู่ในกลางศตวรรษที่สิบเจ็ด Tarikh ระบุว่า เป็นสุลต่าน Kunburu กลายเป็น มุสลิม และมีพระราชวังดึงลงและไซต์เปิดเป็นสุเหร่า เขาสร้างพระราชวังอื่นสำหรับตัวเองใกล้มัสยิดทางด้านตะวันออก [2] ทายาททันทีสร้าง towers ของมัสยิดในขณะที่สุลต่านต่อสร้างผนังรอบข้าง [3]ไม่มีอื่น ๆ เขียนข้อมูลบนมัสยิดดีจน explorer ฝรั่งเศส René Caillié Djenné เยี่ยมชม 1828 และเขียน "ใน Jenné มัสยิดสร้างโลก ยุทธการขนาดใหญ่ แต่ไม่สูงเทียบ สร้างหยาบคาย แต่มีขนาดใหญ่มากได้ ยกเลิกหลายพันของผมเปีย ที่สร้างรังของมัน กลิ่นไม่มาก เพื่อหลีกเลี่ยงซึ่งโอกาสนี้ เป็นการพูดอธิษฐานในศาลนอกขนาดเล็กทั่วไป" [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วันที่แท้จริงของการก่อสร้างของมัสยิดแห่งแรกในDjennéไม่เป็นที่รู้จัก แต่วันเป็นช่วงต้น 1200 เป็นปลาย 1330 ได้รับการแนะนำ. [1] เอกสารที่เก่าแก่ที่สุดกล่าวขวัญมัสยิดอับดุลอัลซาดี้ของริคห์อัลซูดานซึ่งจะช่วยให้ สมัยก่อนประวัติศาสตร์สันนิษฐานจากปากที่มีอยู่ในศตวรรษที่สิบเจ็ดกลาง ริคห์ระบุว่าสุลต่าน Kunburu กลายเป็นมุสลิมและพระราชวังดึงลงและเว็บไซต์ที่เปิดเข้าไปในมัสยิด พระองค์ทรงสร้างพระราชวังอีกสำหรับตัวเองอยู่ใกล้กับมัสยิดในด้านทิศตะวันออก. [2] ของทายาททันทีสร้างอาคารของมัสยิดในขณะที่สุลต่านต่อไปสร้างกำแพงรอบ. [3]

ไม่มีข้อมูลที่เขียนอื่น ๆ ในมัสยิดใหญ่เป็นจน สำรวจชาวฝรั่งเศสRenéCailliéเยี่ยมชมDjennéใน 1828 และเขียน "ในJennéเป็นมัสยิดที่สร้างขึ้นจากดินกอปรด้วยสองอาคารขนาดใหญ่ แต่ไม่สูง. มันถูกสร้างหยาบคายแม้ว่าจะมีขนาดใหญ่มากมันถูกยกเลิกไปเป็นพันของนกนางแอ่นซึ่งสร้างรังของพวกเขา ในนั้น. ครั้งนี้เป็นกลิ่นที่ถูกใจมากเพื่อหลีกเลี่ยงการที่กำหนดเองการพูดคำอธิษฐานในศาลด้านนอกขนาดเล็กได้กลายเป็นเรื่องธรรมดา. "[4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วันจริงของการก่อสร้างของมัสยิดแห่งแรกในดเจนเน ) ไม่รู้จัก แต่วันที่เร็ว 1200 และเป็นปลาย 1330 ได้แนะนำ [ 1 ] เอกสารที่เก่าแก่ที่สุดการกล่าวขวัญมัสยิดเป็นอับดุลอัลซาดี tarikh อัลซูดาน ซึ่งจะช่วยให้ประวัติ สันนิษฐานจากประเพณีในช่องปากขณะที่มันมีอยู่ในศตวรรษที่ สิบเจ็ดกับกลาง การ tarikh รัฐสุลต่าน kunburu เป็นมุสลิมและมีพระราชวังดึงลงและเว็บไซต์เปลี่ยนเป็นมัสยิด เขาสร้างพระราชวังอีกตัวใกล้มัสยิดในฝั่งตะวันออก [ 2 ] ผู้สืบทอดของเขาทันทีสร้างหอคอยของสุเหร่าสุลต่านต่อไปนี้ในขณะที่สร้างผนังโดยรอบ [ 2 ]ไม่มีอื่น ๆที่เขียนข้อมูลเกี่ยวกับมัสยิดที่ยิ่งใหญ่จน Explorer ฝรั่งเศส Ren ééเข้าชม cailli ดเจนเน ) ใน 1828 และเขียน " ใน Kenn เป็นมัสยิดที่สร้างขึ้นใหม่ของโลก , surmounted โดยสองใหญ่แต่ไม่สูงหอคอย ก็ไม่ดีขึ้น แต่ใหญ่มาก มันทิ้งหลายพันของนกนางแอ่นที่ทำรังของพวกเขาใน นี้โอกาสกลิ่นคนที่อารมณ์ร้ายมาก เพื่อหลีกเลี่ยง ซึ่งธรรมเนียมว่าคำอธิษฐานในขนาดเล็กนอกศาลได้กลายเป็นสามัญ . " [ 5 ]