Interviews were oriented by a stand

Interviews were oriented by a standard questionnaire [52], which had been previously composed and contained semi-structured [56] open (49) and closed (19) questions. All interviews were conducted through dialogs (personal interviews or face-to-face) in a question–answer format designed to maximize confidence between the interviewer and interviewee and increase the reliability of data [14] and [57]. The existence of dialog between researcher and research granted freedom to the informants to present their reports. In this process of dialog, interlocutors have a shared vision of local reality, which facilitates the relationship during an interview [58]. In ethnographic studies, the reliance between a researcher and a local member acts on the decision of ‘what to ask and how to ask’. The response of the local member to the researcher may indicate the real reason why some questions remain unanswered [59]. During an interview, the subjects try to explain their views and those of other local members [60]. When the researcher breaks down the barriers (for example, language, dressing, differences between behavior and especially the fact of not belonging to the group), between him and the local member, it facilitates the process of obtaining information. Even so, the researcher will always be an outsider to the group and therefore must carefully evaluate and analyze what is captured in the discourse of local members [61].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สัมภาษณ์ได้มุ่งเน้น โดยถามมาตรฐาน [52], ซึ่งมีการประกอบก่อนหน้านี้ และประกอบด้วยเปิด [56] กึ่งโครงสร้าง (49) และปิดคำถาม (19) สัมภาษณ์ทั้งหมดได้ดำเนินการผ่านทางกล่องโต้ตอบ (สัมภาษณ์บุคคล หรือลมี) ในรูปแบบคำถามคำตอบที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความมั่นใจระหว่างทีมงานและสัมภาษณ์ และเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูล [14] และ [57] การดำรงอยู่ของกล่องโต้ตอบระหว่างนักวิจัยและการวิจัยให้เสรีภาพกับคุณค่าในการนำเสนอรายงานของพวกเขา ในกระบวนการของการโต้ตอบ interlocutors มีวิสัยทัศน์ร่วมของท้องถิ่นความเป็นจริง ที่ความสัมพันธ์ระหว่างการสัมภาษณ์ [58] ในศึกษา ethnographic ความเชื่อมั่นระหว่างนักวิจัยและสมาชิกท้องถิ่นทำหน้าที่ในการตัดสินใจของ 'สิ่งที่ต้องถามและวิธีถาม' การตอบสนองของสมาชิกในท้องถิ่นเพื่อนักวิจัยอาจระบุสาเหตุแท้จริงว่าทำไมคำถามยังคงอยู่ ยังไม่ได้ตอบ [59] ในระหว่างสัมภาษณ์ วิชาพยายามอธิบายมุมมองของพวกเขาและบรรดาสมาชิกท้องถิ่นอื่น ๆ [60] เมื่อนักวิจัยแบ่งในอุปสรรค (ตัวอย่าง ภาษา แต่งตัว ความแตกต่างระหว่างลักษณะการทำงานและโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเท็จจริงของการไม่อยู่ในกลุ่ม), ระหว่างเขาและสมาชิกท้องถิ่น ผลงานกระบวนการรับข้อมูล ถึงกระนั้น นักวิจัยจะเสมอจะเป็นบุคคลภายนอกในกลุ่มดังนั้นต้องรอบคอบประเมิน และวิเคราะห์อะไรจับภาพในวาทกรรมของสมาชิกท้องถิ่น [61]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่มุ่งเน้นการสัมภาษณ์โดยแบบสอบถามมาตรฐาน [52] ซึ่งได้รับการประกอบที่มีอยู่ก่อนหน้านี้และกึ่งโครงสร้าง [56] เปิด (49) และปิด (19) คำถาม สัมภาษณ์ทั้งหมดได้รับการดำเนินการผ่านไดอะล็อก (การสัมภาษณ์บุคคลหรือใบหน้าเพื่อใบหน้า) ในรูปแบบคำถามคำตอบที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นระหว่างผู้สัมภาษณ์และการสัมภาษณ์และเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ [14] และ [57] การดำรงอยู่ของโต้ตอบระหว่างนักวิจัยและงานวิจัยที่ได้รับอิสระในการให้ข้อมูลที่จะนำเสนอรายงานของพวกเขา ในขั้นตอนนี้การโต้ตอบเป็นต้นมีวิสัยทัศน์ร่วมกันของความเป็นจริงในท้องถิ่นซึ่งจะเอื้อต่อความสัมพันธ์ระหว่างการสัมภาษณ์ [58] ในการศึกษาชาติพันธุ์ความเชื่อมั่นระหว่างนักวิจัยและสมาชิกท้องถิ่นทำหน้าที่ในการตัดสินใจของ 'สิ่งที่จะถามและวิธีการขอ' การตอบสนองของสมาชิกในท้องถิ่นที่นักวิจัยที่อาจบ่งบอกถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมบางคำถามที่ยังคงอยู่ยังไม่ได้ตอบ [59] ในระหว่างการให้สัมภาษณ์เรื่องพยายามที่จะอธิบายมุมมองของพวกเขาและบรรดาสมาชิกในท้องถิ่นอื่น ๆ [60] เมื่อนักวิจัยแบ่งลงอุปสรรค (เช่นภาษาการแต่งกายที่แตกต่างกันระหว่างพฤติกรรมและโดยเฉพาะอย่างยิ่งความจริงที่ไม่อยู่ในกลุ่ม) ระหว่างเขาและสมาชิกในท้องถิ่นก็จะอำนวยความสะดวกในขั้นตอนของการได้รับข้อมูลที่ ดังนั้นแม้นักวิจัยจะเป็นคนนอกกลุ่มและดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการประเมินและวิเคราะห์สิ่งที่ถูกจับในวาทกรรมของสมาชิกในท้องถิ่น [61]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สัมภาษณ์โดยเน้นมาตรฐานแบบสอบถาม [ 52 ] ซึ่งได้รับก่อนหน้านี้ประกอบด้วยมีอยู่อย่างไร [ 56 ] เปิด ( 49 ) และปิด ( 19 ) คำถามการสัมภาษณ์ทั้งหมดได้ดำเนินการผ่านกล่องโต้ตอบ ( สัมภาษณ์ส่วนบุคคลหรือตัวต่อตัว ) ในคำถาม–คำตอบรูปแบบการออกแบบเพื่อเพิ่มความมั่นใจระหว่างผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ และ เพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูล [ 14 ] และ [ 57 ] การดำรงอยู่ของกล่องโต้ตอบระหว่างนักวิจัยและการวิจัยอิสระและได้รับการเสนอรายงานของพวกเขา ในกระบวนการของกล่องโต้ตอบนี้ผู้ฟังมีวิสัยทัศน์ร่วมกันของความเป็นจริงในท้องถิ่น ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างการสัมภาษณ์ [ 58 ] ในด้านการศึกษา การพึ่งพาระหว่างนักวิจัยและสมาชิกหน้าที่ท้องถิ่นในการตัดสินใจอะไรที่ถามแล้วถาม ' การตอบสนองของคนในท้องถิ่น ผู้วิจัยอาจระบุถึงเหตุผลที่คำถามยังไม่มีคำตอบ [ 59 ] ในระหว่างการสัมภาษณ์เพื่อพยายามอธิบายมุมมองของพวกเขาและบรรดาสมาชิกท้องถิ่นอื่น ๆ [ 60 ] เมื่อผู้วิจัยได้หยุดพักลงอุปสรรค เช่น ภาษา การแต่งกาย ความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมและโดยเฉพาะอย่างยิ่งความจริงไม่ได้เป็นของกลุ่ม ) ระหว่างเขาและสมาชิกท้องถิ่น ในกระบวนการของการได้รับข้อมูล ดังนั้นแม้ ,ผู้วิจัยจะเป็นคนนอกในกลุ่มจึงต้องรอบคอบ ประเมินและวิเคราะห์สิ่งที่ถูกจับในวาทกรรมท้องถิ่นของสมาชิก [ 61 ]