The circuit above shows a standard

The circuit above shows a standard Class B Amplifier circuit that uses a balanced center-tapped input transformer, which splits the incoming waveform signal into two equal halves and which are 180o out of phase with each other. Another center-tapped transformer on the output is used to recombined the two signals providing the increased power to the load. The transistors used for this type of transformer push-pull amplifier circuit are both NPN transistors with their emitter terminals connected together.

Here, the load current is shared between the two power transistor devices as it decreases in one device and increases in the other throughout the signal cycle reducing the output voltage and current to zero. The result is that both halves of the output waveform now swings from zero to twice the quiescent current thereby reducing dissipation. This has the effect of almost doubling the efficiency of the amplifier to around 70%.

Assuming that no input signal is present, then each transistor carries the normal quiescent collector current, the value of which is determined by the base bias which is at the cut-off point. If the transformer is accurately center tapped, then the two collector currents will flow in opposite directions (ideal condition) and there will be no magnetization of the transformer core, thus minimizing the possibility of distortion.

When an input signal is present across the secondary of the driver transformer T1, the transistor base inputs are in “anti-phase” to each other as shown, thus if TR1 base goes positive driving the transistor into heavy conduction, its collector current will increase but at the same time the base current of TR2 will go negative further into cut-off and the collector current of this transistor decreases by an equal amount and vice versa. Hence negative halves are amplified by one transistor and positive halves by the other transistor giving this push-pull effect.

Unlike the DC condition, these alternating currents are ADDITIVE resulting in the two output half-cycles being combined to reform the sine-wave in the output transformers primary winding which then appears across the load.

Class B Amplifier operation has zero DC bias as the transistors are biased at the cut-off, so each transistor only conducts when the input signal is greater than the base-emitter voltage. Therefore, at zero input there is zero output and no power is being consumed. This then means that the actual Q-point of a Class B amplifier is on the Vce part of the load line as shown below.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วงจรข้างต้นแสดงวงจรขยายคลาส B มาตรฐานที่ใช้เป็นสมดุลเคาะศูนย์ป้อนเข้าหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งแบ่งรูปคลื่นสัญญาณขาเข้าเป็นสองซีกเท่ากัน และรายการที่ 180o จากเฟสกัน หม้อเคาะศูนย์อื่นบนผลลัพธ์ใช้ recombined สัญญาณสองให้อำนาจเพิ่มขึ้นให้โหลด Transistors ใช้สำหรับวงจรขยายเสียงผลักดันดึงหม้อแปลงไฟฟ้าชนิดนี้มีทั้ง transistors NPN กับเทอร์มินัลของตัวส่งที่เชื่อมต่อกันที่นี่ โหลดปัจจุบันถูกใช้ร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ทรานซิสเตอร์สองพลังมันลดลงในอุปกรณ์หนึ่ง และเพิ่มอื่น ๆ ตลอดทั้งวงจรสัญญาณการลดแรงดันไฟออก และปัจจุบันเป็นศูนย์ ผลคือ ว่า ทั้งสองด้านของรูปคลื่นเอาท์พุทขณะนี้ชิงช้าจากศูนย์ไปสองที่ไม่มีการทำปัจจุบันจึงลดกระจาย นี้มีผลเกือบจะประสิทธิภาพของเพาเวอร์แอมป์ประมาณ 70%สมมติว่าไม่มีสัญญาณเข้าอยู่ แล้วทรานซิสเตอร์แต่ละดำเนินการปกติไม่มีการทำเก็บปัจจุบัน ค่าที่ถูกกำหนด โดยความโน้มเอียงพื้นฐานซึ่งเป็นจุดตัด ถ้าหม้อแปลงอย่างถูกต้อง ศูนย์ เคาะ แล้วกระแสเก็บสองจะไหลในทิศทางตรงกันข้าม (เงื่อนไขเหมาะ) และจะไม่ magnetization ของแกนหม้อแปลงไฟฟ้า ลดความผิดเพี้ยนที่อาจเกิดขึ้นดังนั้นเมื่อสัญญาณอินพุตอยู่ข้ามรองของโปรแกรมควบคุมหม้อแปลง T1 อินพุตพื้นฐานของทรานซิสเตอร์อยู่ "ต่อต้านตระ" การแสดง ดังนั้นถ้าฐาน TR1 ไปบวกขับทรานซิสเตอร์ที่เป็นนำหนัก เก็บของปัจจุบันจะเพิ่มขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ปัจจุบันพื้นฐานของ TR2 จะไปลบเพิ่มเติมตัด และปัจจุบันเก็บรวบรวมของทรานซิสเตอร์นี้ลดลง ด้วยจำนวนเงินเท่ากัน และในทางกลับกัน ดังนั้น ซีกลบจะขยาย โดยทรานซิสเตอร์หนึ่งและครึ่งหนึ่งบวก ด้วยทรานซิสเตอร์อื่น ๆ ที่ให้ผลนี้ผลักดันดึงซึ่งแตกต่างจากเงื่อนไข DC กระแสสลับนี้เป็นการบวกในครึ่งรอบสองผลลัพธ์ที่ได้รวมการปฏิรูปคลื่นไซน์ในที่ผลผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าหลักขดลวดซึ่งปรากฏขึ้นในการโหลดคลาส B ขยายการดำเนินงานมีความโน้มเอียงศูนย์ DC เป็น transistors เป็นภาพที่ตัด ดังนั้นทรานซิสเตอร์แต่ละเฉพาะดำเนินเมื่อสัญญาณอินพุตมีค่ามากกว่าแรงดันตัวส่งฐาน ดังนั้น ที่เข้าศูนย์ มีผลลัพธ์เป็นศูนย์ และไม่มีการใช้ แล้วซึ่งหมายความ ว่า จริง Q-จุดของขยายคลาส B อยู่ส่วน Vce ของการโหลดบรรทัดดังต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วงจรดังกล่าวข้างต้นแสดงให้เห็นถึงมาตรฐาน Class B วงจรเครื่องขยายเสียงที่ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าที่ป้อนเข้าศูนย์เคาะสมดุลซึ่งแยกสัญญาณรูปคลื่นที่เข้ามาเป็นสองส่วนเท่า ๆ กันและที่ 180o ออกจากเฟสกับแต่ละอื่น ๆ หม้อแปลงศูนย์เคาะในการส่งออกก็จะใช้ในการ recombined สองสัญญาณให้พลังงานที่เพิ่มขึ้นในการโหลด ทรานซิสเตอร์ที่ใช้สำหรับประเภทของหม้อแปลงผลักดึงวงจรเครื่องขยายเสียงนี้มีทั้งทรานซิสเตอร์ NPN กับขั้วอีซีแอลของพวกเขาเชื่อมต่อกัน. ที่นี่ในปัจจุบันภาระร่วมกันระหว่างสองอุปกรณ์ทรานซิสเตอร์พลังงานในขณะที่มันลดลงในอุปกรณ์หนึ่งและการเพิ่มขึ้นของอื่น ๆ ทั่ว สัญญาณวงจรลดแรงดัน output และปัจจุบันให้เป็นศูนย์ ผลที่ได้คือทั้งสองของสัญญาณ output ตอนชิงช้าจากศูนย์ถึงสองเท่าของปัจจุบันนิ่งจะช่วยลดการกระจาย นี้มีผลกระทบเกือบสองเท่าของประสิทธิภาพของเครื่องขยายเสียงที่ประมาณ 70%. สมมติว่าสัญญาณไม่เป็นปัจจุบันแล้วแต่ละทรานซิสเตอร์ดำเนินการเก็บนิ่งปกติในปัจจุบันมูลค่าของซึ่งจะถูกกำหนดโดยอคติฐานซึ่งอยู่ในการตัด จุด -Off หากหม้อแปลงเป็นศูนย์อย่างถูกต้องเคาะจากนั้นทั้งสองเก็บกระแสจะไหลไปในทิศทางที่ตรงข้าม (สภาพเหมาะ) และจะมีการสะกดจิตของแกนหม้อแปลงไม่มีจึงลดความเป็นไปได้ของการบิดเบือน. เมื่อสัญญาณอินพุทที่มีอยู่ทั่วรองของ หม้อแปลงขับ T1, ปัจจัยการผลิตฐานทรานซิสเตอร์อยู่ใน "ป้องกันเฟส" เพื่อแต่ละอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นดังนั้นหากฐาน TR1 ไปบวกทรานซิสเตอร์ขับรถเข้าไปในการนำหนักปัจจุบันเก็บของมันจะเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันในปัจจุบันฐานของ TR2 จะไปในเชิงลบต่อไปในการตัดและปัจจุบันนักสะสมของทรานซิสเตอร์นี้จะลดลงตามจำนวนเงินที่เท่ากันและในทางกลับกัน ดังนั้นส่วนที่เป็นลบจะขยายโดยหนึ่งในทรานซิสเตอร์และครึ่งบวกทรานซิสเตอร์อื่น ๆ ให้นี้มีผลผลักดันดึง. ซึ่งแตกต่างจากสภาพ DC กระแสสลับเจือปนเหล่านี้เป็นผลในการส่งออกสองครึ่งรอบถูกรวมกันเพื่อการปฏิรูปไซน์คลื่น หม้อแปลงเอาท์พุทขดลวดหลักซึ่งก็ปรากฏทั่วโหลด. ชั้น B Amplifier การดำเนินงานได้เป็นศูนย์อคติซีเป็นทรานซิสเตอร์จะลำเอียงที่ตัดดังนั้นทรานซิสเตอร์แต่ละดำเนินการเมื่อสัญญาณอินพุทที่มีค่ามากกว่าแรงดันไฟฟ้าฐานอีซีแอล ดังนั้นการที่ศูนย์การป้อนข้อมูลที่มีเป็นศูนย์ส่งออกและไม่มีอำนาจจะถูกบริโภค นี้ก็หมายความว่า Q-จุดที่เกิดขึ้นจริงของเครื่องขยายเสียง Class B คือในส่วนของสาย VCE โหลดที่แสดงด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วงจรข้างต้นแสดงให้เห็นมาตรฐาน Class B วงจรขยายสัญญาณที่ใช้ศูนย์สมดุลเคาะหม้อแปลงอินพุตซึ่งแยกรูปสัญญาณขาเข้าเป็น 2 เท่าครึ่ง และที่ 180 จากระยะกับแต่ละอื่น ๆ ศูนย์อื่นทาบทามหม้อแปลงเอาต์พุตใช้น้ำนมสองสัญญาณที่ให้พลังงานเพิ่มขึ้นที่จะโหลดที่ใช้ทรานซิสเตอร์วงจรขยายสัญญาณการดึงดันของหม้อแปลงชนิดนี้เป็นทั้ง NPN ทรานซิสเตอร์กับอีซีขั้วเชื่อมต่อด้วยกัน

ที่นี่โหลดปัจจุบันร่วมกันระหว่างสองพลังงานทรานซิสเตอร์อุปกรณ์มันลดลงในหนึ่งอุปกรณ์และเพิ่มในอื่น ๆตลอดสัญญาณวงจรลดแรงดันและกระแสศูนย์ผลก็คือ ทั้งส่วนของเอาท์พุทสัญญาณตอนนี้ชิงช้าจากศูนย์สองครั้งที่มีในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยลดการกระจาย นี้มีผลของเกือบสองเท่าประสิทธิภาพของแอมป์ไปประมาณ 70 %

ถ้าไม่มีสัญญาณเข้าปัจจุบัน จากนั้นแต่ละทรานซิสเตอร์เป็นปกติที่มีนักสะสมในปัจจุบันมูลค่าซึ่งถูกกำหนดโดยฐานอคติซึ่งเป็นจุดตัด ถ้าหม้อแปลงคือแม่นศูนย์เคาะแล้วสองตัว กระแสจะไหลในทิศทางตรงกันข้าม ( สภาพดีเยี่ยม ) และจะไม่มีการสะกดจิตของหม้อแปลงแกนจึงลดความเป็นไปได้ของการบิดเบือน

เมื่อมีสัญญาณอยู่ในระดับควบคุมหม้อแปลง T1 , ฐานทรานซิสเตอร์กระผมอยู่ใน " ป้องกันเฟส " กับแต่ละอื่น ๆดังแสดง ดังนั้นถ้า tr1 ฐานไปขับทรานซิสเตอร์ลงนำหนักที่เป็นบวกของนักสะสมในปัจจุบันจะเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันฐานปัจจุบันของ tr2 จะไปลบต่อไปในการตัดและการสะสมกระแสของทรานซิสเตอร์นี้ลดลงโดยเท่าๆกัน และในทางกลับกัน ดังนั้นลบส่วนจะขยายด้วยทรานซิสเตอร์และซีกบวก โดยอื่น ๆทรานซิสเตอร์ให้พุชพูลผล

ซึ่งแตกต่างจาก DC สภาพเหล่านี้ไฟฟ้ากระแสสลับตำแหน่งส่งผลให้สองครึ่งออกรอบการรวมกันเพื่อการปฏิรูปไซน์คลื่นในผลผลิตปฐมภูมิขดลวดหม้อแปลงที่ปรากฏขึ้นทั่วโหลด

ชั้น B เครื่องขยายเสียงปฏิบัติการมีศูนย์ DC bias เป็นทรานซิสเตอร์เป็นอคติที่ตัด เพื่อให้แต่ละทรานซิสเตอร์เท่านั้นทั้งนี้ เมื่อสัญญาณอินพุตได้สูงกว่า อีซี เบสไฟฟ้า ดังนั้นศูนย์นำเข้ามีศูนย์ส่งออกและไม่มีอำนาจจะถูกใช้ นี้ก็หมายความว่า q-point ที่แท้จริงของเครื่องขยายเสียงคลาส B บน vce ส่วนหนึ่งของภาระสายตามที่แสดงด้านล่าง