Since French was more polished than

Since French was more polished than their own language, which had declined somewhat in the centuries when it was use mainly by the uneducated classes, they naturally borrowed French words to make up deficiencies in their native tongue. Often both the French word and its English equivalent were kept, sometimes with varying shades of meaning, and this has tended to make English vocabulary rich and varied. Thus we have both “begin,” which is native English, and “commence,” which is of French origin, as well as the following examples: “sin” and “crime”, “wretched” and “miserable”, “shun” and “avoid”.
During the centuries when the distinction between Frenchman and Englishman was disappearing in England, the English vocabulary was enriched by the addition of thousands of French words. The language of this period is called Middle English, and it reached its fullest development in the writings of Geoffrey Chaucer. Notable also during the 14th century in England was the translation of the Bible into English by John Wycliffe.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตั้งแต่ฝรั่งเศสขัดยิ่งกว่าภาษาตนเอง ซึ่งได้ปฏิเสธค่อนข้างในเมื่อมันเป็นผู้ใช้ส่วนใหญ่เรียนตามีตามา พวกเขาเป็นธรรมชาติยืมคำฝรั่งเศสเพื่อชดเชยข้อบกพร่องในภาษาของพวกเขา มักคำภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษเทียบเท่าถูกเก็บ ไว้ บางครั้ง ด้วยเฉดสีที่แตกต่างกันของความหมาย และนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้คำศัพท์ภาษาอังกฤษมากมาย และหลากหลาย ดังนั้น เรามีทั้ง "การเริ่มต้น ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ และ"เริ่ม" ซึ่งเป็นต้นกำเนิดที่ฝรั่งเศส เป็นตัวอย่างต่อไปนี้: "บาป"และ"อาชญากรรม" "อนาถ" และ"ความ สุข" "ชุน" และ"หลีกเลี่ยง"ในระหว่างศตวรรษที่เมื่อความแตกต่างระหว่างผู้ชายฝรั่งเศสและชาวอังกฤษที่ถูกหายไปในอังกฤษ คำศัพท์ภาษาอังกฤษคืออุดม โดยพันคำฝรั่งเศส ภาษาของรอบระยะเวลานี้เรียกว่าภาษาอังกฤษยุคกลาง และมันถึงพัฒนาเต็มที่ในงานเขียนของเจฟฟรีย์ชอเซอร์ โดดเด่นในช่วงศตวรรษที่ 14 ในอังกฤษยังได้แปลคัมภีร์เป็นภาษาอังกฤษโดย John Wycliffe

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตั้งแต่ฝรั่งเศสขัดมากกว่าภาษาของตนเองซึ่งได้ลดลงบ้างในหลายศตวรรษที่เมื่อมันถูกใช้โดยส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาชั้นเรียนก็เป็นธรรมชาติที่ยืมคำภาษาฝรั่งเศสเพื่อให้ได้ข้อบกพร่องในภาษาพื้นเมืองของพวกเขา บ่อยครั้งที่ทั้งสองคำภาษาฝรั่งเศสและรายการเทียบเท่าภาษาอังกฤษที่ถูกเก็บไว้บางครั้งก็มีเฉดสีของความหมายที่แตกต่างกันและมีแนวโน้มที่จะทำให้คำศัพท์ภาษาอังกฤษมากมายและหลากหลาย ดังนั้นเราจึงมีทั้ง "เริ่มต้น" ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษพื้นเมืองและ "เริ่ม" ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของฝรั่งเศสเช่นเดียวกับตัวอย่างต่อไปนี้: "บาป" และ "อาชญากรรม", "ทุกข์" และ "ความสุข", "ชุน" และ "หลีกเลี่ยง".
ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาเมื่อความแตกต่างระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษก็หายไปในอังกฤษคำศัพท์ภาษาอังกฤษผสานโดยนอกเหนือจากพันคำฝรั่งเศส ภาษาของช่วงเวลานี้เรียกว่าภาษาอังกฤษยุคกลางและมันก็มาถึงการพัฒนาอย่างเต็มที่ในงานเขียนของเจฟฟรีย์ชอเซอร์ ที่โดดเด่นนอกจากนี้ในช่วงศตวรรษที่ 14 ในประเทศอังกฤษเป็นคำแปลของพระคัมภีร์เป็นภาษาอังกฤษโดยจอห์นคลิฟฟ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตั้งแต่ฝรั่งเศสสวยงามมากกว่าภาษาของตนเอง ซึ่งได้ลดลงบ้างในศตวรรษเมื่อมันถูกใช้เป็นหลักโดยเรียนการศึกษา พวกเขาเป็นธรรมชาติยืมคำภาษาฝรั่งเศสเพื่อชดเชยข้อบกพร่องในภาษาแม่ของพวกเขา บ่อยครั้งที่ทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษไว้ว่าเทียบเท่า บางครั้งแตกต่างกับร่มเงาของความหมาย และมีแนวโน้มที่จะทำให้ศัพท์ภาษาอังกฤษมากมายและหลากหลาย ดังนั้นเราจึงมีทั้ง " เริ่มต้น " ที่เป็นภาษาอังกฤษ และ " เริ่ม " ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสของแหล่งที่มา รวมทั้งตัวอย่างต่อไปนี้ : " บาป " และ " อาชญากรรม " , " เพื่อน " และ " ทุกข์ " , " ซัน " และ " หลีกเลี่ยง "ในช่วงศตวรรษที่เมื่อความแตกต่างระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสได้หายไปในอังกฤษ , ศัพท์ภาษาอังกฤษอุดมโดยนอกเหนือจากนับพันของคำภาษาฝรั่งเศส ภาษาของรอบระยะเวลานี้เรียกว่าภาษาอังกฤษยุคกลางและมันถึงพัฒนาอย่างเต็มที่ในงานเขียนของเจฟฟรีย์ชอเซอร์ . เด่นระหว่างศตวรรษที่ 14 ในอังกฤษแปลคัมภีร์ไบเบิลเป็นภาษาอังกฤษโดยจอห์นไวคลิฟ .