Soil degraded and lostWhen natural

Soil degraded and lost
When natural vegetation is cleared and when farmland is ploughed, the exposed topsoil is often blown away by wind or washed away by rain.

Erosion due to soy production, for example, sees Brazil lose 55 million tons of topsoil every year.1 This leads to reduced soil fertility and degraded land.

Other major crops that cause soil erosion include coffee, cassava, cotton, corn, palm oil, rice, sorghum, tea, tobacco, and wheat.2


Waterways clogged & polluted
Soil carried off in rain or irrigation water can lead to sedimentation of rivers, lakes and coastal areas.

The problem is exacerbated if there is no vegetation left along the banks of rivers and other watercourses to hold the soil.4

Sedimentation causes serious damage to freshwater and marine habitats, as well as the local communities that depend on on these habitats.

For example, people living in Xingu Indigenous Park in Brazil report declines in fish numbers. This trend is attributed to changes in the courses of waterways resulting from farming-related erosion and the silt deposition this causes.5

In Central America, plantation soil run-off ends up in the sea, where it affects the Meso American Reef.

It's not just the eroded soil that is damaging: pesticides and fertilizers carried in rainwater and irrigation runoff can pollute waterways and harm wildlife.


Arable land destroyed
It is estimated that since 1960, one-third of the world’s arable land has been lost through erosion and other degradation.

The problem persists, with a reported loss rate of about 10 million hectares per year.

In reality, the situation may be much more worrying. Over the last 5 decades, increases in agricultural productivity have made it possible to produce more crops on the same amount of land.

But the problem is that because agricultural land is often degraded and almost useless, producers keep on moving to more productive land. Globally, the land used and abandoned in the last 50 years may be equal to the amount of land used today.3


Flooding increased
Erosion caused by deforestation can also lead to increased flooding. In banana plantations, for example, flooding occurs partly because of deforestation (soil is no longer there to absorb the water) and partly because of poorly constructed plantation drainage systems.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดินเสื่อมโทรม และสูญเสียเมื่อธรรมชาติไว้ และ เมื่อ ploughed พื้นที่การเกษตร topsoil สัมผัสถูกพัดไป โดยลมมัก หรือน้ำ โดยฝน พังทลายเนื่องจากการผลิตถั่วเหลือง เช่น เห็นบราซิลแพ้ 55 ล้านตันของ topsoil ทุก year.1 นี้นำไปสู่ความอุดมสมบูรณ์ของดินลดลง และเสื่อมโทรมแผ่นดิน พืชสำคัญอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดการพังทลายของดินรวมถึงกาแฟ มันสำปะหลัง ฝ้าย ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ข้าว ข้าวฟ่าง ชา ยาสูบ และ wheat.2จุดอุดตัน และเสียดินทำออกในฝน หรือน้ำชลประทานสามารถทำให้ตกตะกอนของแม่น้ำ ทะเลสาบ และพื้นที่ชายฝั่งทะเล ปัญหาเลวร้ายถ้าไม่มีพืชไม่ซ้ายของแม่น้ำและเรือนอื่น ๆ จะเก็บไว้ soil.4 ตกตะกอนทำให้เกิดความเสียหายอยู่อาศัยน้ำจืด และทะเล รวมทั้งชุมชนที่อาศัยอยู่อาศัยเหล่านี้ ตัวอย่าง คนที่อาศัยอยู่ในสวน Indigenous Xingu ในบราซิลรายงานปฏิเสธตัวเลขปลา แนวโน้มนี้จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในหลักสูตรของจุดที่เกิดจากการกัดเซาะที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงและสะสมตะกอน causes.5 นี้ ในอเมริกากลาง ไร่ดิน run-off ปลายขึ้นในทะเล ซึ่งมันมีผลต่อปะการังอเมริกันเมโสหน้า มันไม่ใช่เพียงดิน eroded ที่ถูกทำลาย: ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยดำเนินในแบบสายฝน และชลประทานที่ไหลบ่าสามารถจุดก่อให้เกิดมลพิษ และเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าที่ดินเพาะปลูกถูกทำลายมีประเมินว่า ตั้งแต่ 1960 หนึ่งในสามของที่ดินเพาะปลูกของโลกมีสูญหายพังทลายและย่อยสลายอื่น ๆ ปัญหายังคงอยู่ ด้วยอัตรารายงานขาดทุนประมาณ 10 ล้านเฮกเตอร์ต่อปี ในความเป็นจริง สถานการณ์อาจกังวลมาก ทศวรรษ 5 เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้ทำการผลิตพืชเพิ่มเติมตามจำนวนที่ดินเดียวกัน แต่ปัญหาอยู่ที่ เพราะมักจะมีการเสื่อมโทรมเกษตร และเกือบไม่มีประโยชน์ ผู้ผลิตให้คงย้ายไปที่ดินมากขึ้น ทั่วโลก ใช้ และยกเลิกในปี 50 อาจจะเท่ากับจำนวนที่ดินที่ใช้ today.3น้ำท่วมเพิ่มขึ้นยังพังทลายที่เกิดจากการทำลายป่าอาจทำให้น้ำท่วมเพิ่มขึ้น ในปลูกกล้วย ตัวอย่าง น้ำท่วมเกิดขึ้นบางส่วนเนื่องจากการทำลายป่า (ดินไม่มีน้ำซึม) และเนื่อง จากระบบระบายน้ำไม่ดีสร้างสวนบางส่วน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดินเสื่อมโทรมและสูญเสีย
เมื่อพืชพรรณธรรมชาติถูกล้างและเมื่อพื้นที่เพาะปลูกมีการไถดินสัมผัสมักจะถูกเป่าออกไปโดยลมหรือล้างออกด้วยน้ำฝน. การกัดเซาะเนื่องจากการผลิตถั่วเหลืองเช่นเห็นบราซิลสูญเสีย 55 ล้านตันของดินทุกปี 1 นี้นำไปสู่ความอุดมสมบูรณ์ของดินลดลงและที่ดินเสื่อมโทรม. พืชผลสำคัญอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดการพังทลายของดินรวมถึงเครื่องชงกาแฟ, มันสำปะหลัง, ผ้าฝ้าย, ข้าวโพด, น้ำมันปาล์ม, ข้าว, ข้าวฟ่าง, ชายาสูบและ wheat.2 น้ำอุดตันและปนเปื้อนดินพาไปใน ฝนหรือน้ำชลประทานสามารถนำไปสู่การตกตะกอนของแม่น้ำทะเลสาบและพื้นที่ชายฝั่งทะเล. ปัญหาคือที่มาถ้ามีพืชไม่เหลือตามริมฝั่งแม่น้ำและทางน้ำอื่น ๆ ที่จะถือ soil.4 ตกตะกอนทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อน้ำจืดและแหล่งที่อยู่อาศัยทางทะเล เช่นเดียวกับชุมชนในท้องถิ่นที่ขึ้นอยู่กับแหล่งที่อยู่อาศัยเหล่านี้บน. ตัวอย่างเช่นคนที่อาศัยอยู่ใน Xingu พื้นเมืองปาร์คในรายงานบราซิลลดลงในจำนวนปลา แนวโน้มนี้มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงในหลักสูตรของน้ำที่เกิดจากการกัดเซาะที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและการสะสมตะกอน causes.5 นี้ในอเมริกากลางดินเพาะปลูกไหลลงจบลงในทะเลซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแนวปะการัง Meso อเมริกัน. มันไม่ได้ เพียงดินกัดเซาะที่เป็นความเสียหาย: สารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยดำเนินการในน้ำฝนและน้ำชลประทานสามารถก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำและสัตว์ป่าอันตราย. ที่ดินทำกินทำลายมันเป็นที่คาดว่าตั้งแต่ปี 1960 หนึ่งในสามของที่ดินทำกินของโลกที่ได้รับการสูญเสียผ่านการกัดเซาะและการเสื่อมสภาพอื่น ๆ . ปัญหายังคงมีอัตราการสูญเสียรายงานประมาณ 10 ล้านไร่ต่อปี. ในความเป็นจริงสถานการณ์ที่อาจจะกังวลมากขึ้น ในช่วง 5 ทศวรรษที่ผ่านมาการเพิ่มขึ้นของผลผลิตทางการเกษตรได้ทำให้มันเป็นไปได้ในการผลิตพืชเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนเงินเดียวกันของแผ่นดิน. แต่ปัญหาคือว่าเพราะที่ดินการเกษตรมักจะเสื่อมโทรมและไร้ประโยชน์เกือบโปรดิวเซอร์ให้กับการย้ายไปยังดินแดนที่มีประสิทธิผลมากขึ้น ทั่วโลกที่ใช้ที่ดินและถูกทอดทิ้งในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาอาจจะเท่ากับจำนวนเงินของที่ดินที่ใช้ today.3 น้ำท่วมที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการกัดเซาะตัดไม้ทำลายป่ายังสามารถนำไปสู่การเกิดน้ำท่วมเพิ่มขึ้น ในสวนกล้วยเช่นน้ำท่วมที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะการตัดไม้ทำลาย (ดินไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อดูดซับน้ำ) และส่วนหนึ่งเป็นเพราะสร้างไม่ดีระบบระบายน้ำการเพาะปลูก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดินเสื่อมโทรม และสูญเสีย
เมื่อพืชพรรณธรรมชาติแล้วเมื่อไร่จะไถ , ตากดินมักจะปลิวไปตามลมหรือล้างด้วยน้ำฝน

การกัดเซาะเนื่องจากถั่วเหลืองผลิต ตัวอย่างเช่น เห็นบราซิลแพ้ 55 ล้านตันของดินทุก ๆ ปี ที่ 1 นี้นำไปสู่การลดความอุดมสมบูรณ์ของดินและที่ดินเสื่อมโทรม

หลักๆ ที่ทำให้เกิดการชะล้างพังทลายของดิน พืช ได้แก่ มันสำปะหลัง ฝ้าย กาแฟข้าวโพด , น้ำมัน , ข้าว , ข้าวฟ่าง , ชา ยาสูบ และข้าวสาลี ปาล์ม 2


น้ำอุดตัน&มลพิษ
ดินนำออกไปในฝนหรือน้ำชลประทานสามารถทำให้เกิดการตกตะกอนของแม่น้ำ ทะเลสาบ และพื้นที่ชายฝั่ง

มีปัญหาขึ้นถ้าไม่มีพืชริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำและลำน้ำอื่น ๆเพื่อยึดดิน 4

การตกตะกอนทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อปลาในทะเล และถิ่นอาศัยเช่นเดียวกับชุมชนท้องถิ่นที่ขึ้นอยู่ในพื้นที่เหล่านี้

เช่น ผู้คนที่อาศัยอยู่ใน xingu พื้นเมือง ปาร์ค ในรายงานบราซิลลดลงในตัวเลขของปลา แนวโน้มนี้จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในหลักสูตรของแหล่งน้ำที่เกิดจากตะกอนดินและการเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิด 5

ในอเมริกากลาง , - ดินปลูกสิ้นสุดขึ้นในทะเลที่มีผลต่อเมโสอเมริกันแนว

ไม่ใช่แค่การกัดเซาะดิน ที่เสียหาย : ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยอุ้มในน้ำฝนและชลประทาน น้ำท่าสามารถก่อให้เกิดมลพิษน้ำและสัตว์ป่าอันตราย


ที่ดินเพาะปลูกทำลาย
คาดว่าตั้งแต่ 1960 , หนึ่งในสามของที่ดินเพาะปลูกของโลกผ่านการกัดเซาะและได้สูญหายไป การย่อยสลายอื่น ๆ

ปัญหายังคงมีอยู่มีรายงานว่า อัตราการสูญเสียประมาณ 10 ล้านไร่ต่อปี

ในความเป็นจริง สถานการณ์อาจจะกังวลมากขึ้น . ในช่วง 5 ทศวรรษ เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้ทำให้มันเป็นไปได้ในการผลิตพืชใน ปริมาณเดียวกันของที่ดิน

แต่ปัญหาคือว่า เพราะว่าที่ดินมักจะทราม และเกือบจะไร้ประโยชน์ ผู้ผลิต ให้ย้ายไปที่ดินมากขึ้นทั่วโลก , การใช้ที่ดินและถูกทอดทิ้งในช่วง 50 ปี อาจจะเท่ากับปริมาณการใช้ที่ดินวันนี้ 3



การกัดเซาะที่เกิดจากน้ำท่วมเพิ่มขึ้น การตัดไม้ทำลายป่ายังสามารถนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของน้ำ ในแปลงปลูกกล้วย เช่น อุทกภัยที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะการตัดไม้ทำลายป่า ( ดินไม่มี ซับน้ำได้ ) และเป็นส่วนหนึ่งของงานประดิษฐ์ปลูกระบายน้ำระบบ