IntroductionTraditionally, geograph

Introduction
Traditionally, geographers have been viewed the same way as cartographers and people who study place names and numbers. Although many geographers are trained intoponymy and cartology, this is not their main preoccupation. Geographers study the spatial and the temporal distribution of phenomena, processes, and features as well as the interaction of humans and their environment.[8] Because space and place affect a variety of topics, such as economics, health, climate, plants and animals; geography is highly interdisciplinary. The interdisciplinary nature of the geographical approach depends on an attentiveness to the relationship between physical and human phenomena and its spatial patterns.
...mere names of places...are not geography...know by heart a whole gazetteer full of them would not, in itself, constitute anyone a geographer. Geography has higher aims than this: it seeks to classify phenomena (alike of the natural and of the political world, in so far as it treats of the latter), to compare, to generalize, to ascend from effects to causes, and, in doing so, to trace out the laws of nature and to mark their influences upon man. This is 'a description of the world'—that is Geography. In a word Geography is a Science—a thing not of mere names but of argument and reason, of cause and effect.[9]
—William Hughes, 1863
Just as all phenomena exist in time and thus have a history, they also exist in space and have a geography.[10]
—United States National Research Council, 1997
Geography as a discipline can be split broadly into two main subsidiary fields: human geography and physical geography. The former largely focuses on the built environment and how humans create, view, manage, and influence space. The latter examines the natural environment, and how organisms, climate, soil, water, andlandforms produce and interact.[11] The difference between these approaches led to a third field, environmental geography, which combines the physical and the human geography, and looks at the interactions between the environment and humans.[8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำประเพณี ว่ามีแล้วดูเหมือน cartographers และผู้ที่ศึกษาชื่อสถานที่และตัวเลข แม้ว่าหลาย ฝึก intoponymy และ cartology นี้ไม่ได้ preoccupation หลักของพวกเขา ว่าศึกษาในพื้นที่และกระจายชั่วคราวของปรากฏการณ์ กระบวนการ และลักษณะการทำงานและปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมของพวกเขา [8] เนื่องจากพื้นที่และสถานที่ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายของหัวข้อ เศรษฐศาสตร์ สุขภาพ สภาพอากาศ พืช และ สัตว์ ภูมิศาสตร์สูงอาศัยอยู่ ธรรมชาติอาศัยวิธีการทางภูมิศาสตร์ขึ้นอยู่กับการนำมาเลี้ยงเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ทางกายภาพ และมนุษย์และรูปแบบของพื้นที่... ชื่อสถาน....mere ไม่ภูมิศาสตร์...รู้ใจ gazetteer ทั้งหมดของพวกเขาจะไม่ ในตัวเอง เป็นคนชนิดที่ ภูมิศาสตร์มีจุดมุ่งหมายที่สูงกว่านี้: พยายามจัดประเภทปรากฏการณ์ (เหมือน ของธรรมชาติ และ โลกทางการเมือง ในตราบปฏิบัติต่อของหลัง), เปรียบเทียบ ทั่วไป ขึ้นจากลักษณะพิเศษของ การสาเหตุ และ ใน สืบออกกฎหมายธรรมชาติไป และอิทธิพลของพวกเขาเมื่อคนทำเครื่องหมายไว้ นี่คือ 'คำอธิบายของโลก' — นั่นคือภูมิศาสตร์ คำภูมิศาสตร์เป็นศาสตร์ซึ่งเป็นสิ่ง ของไม่เพียงชื่อ แต่ ของอาร์กิวเมนต์และเหตุผล สาเหตุและผล [9]— William ฮิวจ์ส วันที่ 1863เหมือนปรากฏการณ์ทั้งหมดที่มีอยู่ในเวลา และจึง มีประวัติ พวกเขายังมีอยู่ในพื้นที่ และภูมิประเทศ [10]เช่นสภาวิจัยแห่งชาติสหรัฐอเมริกา 1997สามารถแบ่งภูมิศาสตร์เป็นวินัยอย่างกว้างขวางเป็นสองเขตข้อมูลบริษัทในเครือหลัก: ภูมิศาสตร์กายภาพและภูมิศาสตร์มนุษย์ได้ เดิมส่วนใหญ่เน้นการสร้างสภาพแวดล้อม และวิธีสร้างมนุษย์ ดู จัดการ และพื้นที่อิทธิพล หลังตรวจสอบสภาพแวดล้อมธรรมชาติ และสิ่งมีชีวิต อากาศ ดิน น้ำ andlandforms ผลิต และโต้ตอบ [11] ข้อแตกต่างระหว่างวิธีเหล่านี้นำไปสู่เขตสาม ภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมทางกายภาพและภูมิศาสตร์มนุษย์ และค้นหาการโต้ตอบระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม [8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
ตามเนื้อผ้าภูมิศาสตร์ได้รับชมเช่นเดียวกับ cartographers และผู้คนที่ศึกษาชื่อสถานที่และตัวเลข แม้ว่าภูมิศาสตร์จำนวนมากได้รับการฝึกฝนและ intoponymy cartology นี้ไม่ได้กังวลหลักของพวกเขา ภูมิศาสตร์ศึกษาเชิงพื้นที่และการกระจายของปรากฏการณ์ชั่วคราวกระบวนการและมีเช่นเดียวกับการทำงานร่วมกันของมนุษย์และสภาพแวดล้อมของพวกเขา. [8] เพราะพื้นที่และสถานที่ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายของหัวข้อเช่นเศรษฐศาสตร์สุขภาพสภาพภูมิอากาศพืชและสัตว์ ; ภูมิศาสตร์เป็นสหวิทยาการสูง ลักษณะสหวิทยาการของวิธีการทางขึ้นอยู่กับความสนใจกับความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ทางกายภาพและมนุษย์และรูปแบบการกระจายของ.
... เพียงชื่อของสถานที่ ... ไม่ได้ ... ภูมิศาสตร์รู้ด้วยหัวใจทั้งหนังสือพิมพ์เต็มรูปแบบของพวกเขาจะ ไม่ได้ในตัวเองเป็นใครภูมิศาสตร์ ภูมิศาสตร์มีจุดมุ่งหมายที่สูงกว่านี้มันพยายามที่จะจำแนกปรากฏการณ์ (เหมือนกันของธรรมชาติและการเมืองของโลกในส่วนที่ถือว่าของหลัง) เพื่อเปรียบเทียบการพูดคุยที่จะขึ้นไปจากผลกระทบสาเหตุและใน การทำเช่นนั้นจะติดตามออกกฎของธรรมชาติและการทำเครื่องหมายอิทธิพลของพวกเขาเมื่อชายคนหนึ่ง นี่คือ 'รายละเอียดของ world' นั่นคือภูมิศาสตร์ ในคำภูมิศาสตร์เป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่เพียง แต่ชื่อของการโต้แย้งและเหตุผลของเหตุและผล. [9]
วิลเลียมฮิวจ์ 1863
เช่นเดียวกับปรากฏการณ์ทั้งหมดที่มีอยู่ในเวลาและทำให้มีประวัติศาสตร์ที่พวกเขายังอยู่ใน . พื้นที่และมีสภาพทางภูมิศาสตร์ [10]
-United สหรัฐอเมริกาสภาวิจัยแห่งชาติ 1997
ภูมิศาสตร์เป็นวินัยสามารถแบ่งออกเป็นสองช่อง บริษัท ย่อยหลักภูมิศาสตร์มนุษย์และสภาพทางภูมิศาสตร์ทางกายภาพ อดีตส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การสร้างสภาพแวดล้อมและวิธีการที่มนุษย์สร้างดูจัดการและพื้นที่อิทธิพล หลังตรวจสอบสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและวิธีการที่สิ่งมีชีวิตสภาพภูมิอากาศดินน้ำ andlandforms ผลิตและโต้ตอบ. [11] ความแตกต่างระหว่างวิธีการเหล่านี้นำไปสู่การเป็นสนามที่สามภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อมซึ่งรวมทางกายภาพและภูมิศาสตร์มนุษย์และรูปลักษณ์ ที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมและมนุษย์. [8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
ผ้า นักภูมิศาสตร์ได้ดูแบบเดียวกับพฤกษศาสตร์และผู้ศึกษาที่ชื่อและหมายเลข แม้ว่าหลายนักภูมิศาสตร์และฝึก intoponymy cartology ไม่ลุ่มหลงหลักของพวกเขา นักภูมิศาสตร์ศึกษาเชิงพื้นที่และการกระจายเวลาของปรากฏการณ์ กระบวนการ และคุณลักษณะรวมทั้งการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม[ 8 ] เพราะพื้นที่และสถานที่ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายของหัวข้อเช่นเศรษฐศาสตร์ , สุขภาพ , อากาศ , พืชและสัตว์ ภูมิศาสตร์ในเชิงสหวิทยาการ . ลักษณะสหวิทยาการของวิธีการทางภูมิศาสตร์ขึ้นอยู่กับความสนใจในความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ทางกายภาพของมนุษย์และรูปแบบทางพื้นที่ของ .
. . . . . . . แค่ชื่อของสถานที่ . . . . . . . ไม่ใช่ภูมิศาสตร์ . . . . . . .รู้จักหัวใจทั้งหนังสือพิมพ์เต็มของพวกเขา จะไม่ ในตัวเอง เป็นใคร เป็นนักภูมิศาสตร์ . ภูมิศาสตร์มีเป้าหมายสูงกว่านี้ มันพยายามที่จะแยกประเภท ( เหมือนปรากฏการณ์ของธรรมชาติและของโลก การเมืองเท่าที่มันถือว่าหลัง ) , การเปรียบเทียบ , การอนุมาน , ขึ้นจากผลถึงสาเหตุ และในการทำเช่นนั้นเพื่อติดตามออกกฎของธรรมชาติ และ มาร์ค อิทธิพลของพวกเขาเมื่อพวก นี่คือรายละเอียดของโลก ' ที่เป็นทางภูมิศาสตร์ ในภูมิศาสตร์คำศัพท์เป็น science-a สิ่งที่ไม่เพียง แต่ชื่อของอาร์กิวเมนต์ และ เหตุผล ของ เหตุ และ ผล [ 9 ]
- วิลเลียมฮิวส์ 1863
เช่นเดียวกับปรากฏการณ์ทั้งหมดที่มีอยู่ในเวลาและดังนั้นจึง มีประวัติ พวกเขายังอยู่ในพื้นที่และมีภูมิศาสตร์ [ 10 ]
- สภาวิจัยแห่งชาติสหรัฐอเมริกา 1997
ภูมิศาสตร์เป็นวินัยสามารถแบ่งกว้างเป็นสอง บริษัท เขตข้อมูลหลัก : ภูมิศาสตร์มนุษย์ภูมิศาสตร์ทางกายภาพ อดีตส่วนใหญ่เน้นการสร้างสภาพแวดล้อมและสิ่งที่มนุษย์สร้าง ดูจัดการและอิทธิพลในพื้นที่ หลังตรวจสอบสภาพแวดล้อมธรรมชาติ และสิ่งมีชีวิต ภูมิอากาศ ดิน น้ำ andlandforms ผลิตและโต้ตอบ[ 11 ] ความแตกต่างระหว่างวิธีการเหล่านี้เป็นสามด้าน ภูมิศาสตร์ สิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมทางกายภาพและภูมิศาสตร์มนุษย์ และดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสภาพแวดล้อม . [ 8 ]