Chloramphenicol was originally deri

Chloramphenicol was originally derived from the bacterium Streptomyces venezuelae, isolated by David Gottlieb, and introduced into clinical practice in 1949, under the trade name Chloromycetin. It was the first antibiotic to be manufactured synthetically on a large scale.

The topical formulation of chloramphenicol was commonly used as eye drops as first-line treatment of conjunctivitis. The first fatality from eye drops was reported in 1955.[40]

In 2007, the accumulation of reports associating aplastic anemia and blood dyscrasia with chloramphenicol eye drops lead to the classification of “probable” according to World Health Organization criteria, based on the known published case reports and the spontaneous reports submitted to the National Registry of Drug-Induced Ocular Side Effects.[41]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คคัสเดิมได้มาจากการแบคทีเรีย Streptomyces venezuelae แยก โดย Gottlieb ดาวิด และนำไปสู่การปฏิบัติทางคลินิกใน 1949 ภายใต้ชื่อทางการค้า Chloromycetin ยาปฏิชีวนะครั้งแรกในการผลิตสังเคราะห์ในขนาดใหญ่ได้สูตรเฉพาะของคคัสมักถูกใช้เป็นยาหยอดตารักษาบรรทัดแรกของโรคตาแดง มีรายงานการตายครั้งแรกจากยาหยอดตาในปี 1955 [40]ใน 2007 การสะสมของรายงานที่เชื่อมโยงโรคโลหิตจาง aplastic และ dyscrasia เลือด ด้วยตาคคัสหยดนำการจัดประเภทของ "น่าจะ" ตามเกณฑ์องค์การอนามัยโลก ตามรายงานกรณีรู้จักเผยแพร่และรายงานแบบทันทีที่ส่งไป National Registry of Drug-Induced จักษุผลข้างเคียง [41]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

chloramphenicol ได้มามีพื้นเพมาจากแบคทีเรีย Streptomyces venezuelae โดดเดี่ยวโดยเดวิด Gottlieb และนำเข้าสู่การปฏิบัติทางคลินิกในปี 1949 ภายใต้ชื่อการค้า Chloromycetin มันเป็นยาปฏิชีวนะเป็นครั้งแรกที่จะผลิตสังเคราะห์ในขนาดใหญ่. สูตรเฉพาะของ chloramphenicol ถูกใช้เป็นยาหยอดตารักษาบรรทัดแรกของเยื่อบุตาอักเสบ อุบัติเหตุครั้งแรกจากยาหยอดตามีรายงานในปี 1955 [40] ในปี 2007 รายงานการสะสมของการเชื่อมโยง aplastic จางและ dyscrasia เลือดที่มี chloramphenicol ยาหยอดตานำไปสู่การจัดหมวดหมู่ของ "น่าจะ" เป็นไปตามเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกบนพื้นฐานของการเป็นที่รู้จัก ตีพิมพ์รายงานกรณีและรายงานที่เกิดขึ้นเองส่งไปยัง Registry แห่งชาติของยากระตุ้นตาผลข้างเคียง. [41]