self-pity is feeling sorry for your

self-pity is feeling sorry for yourself without looking at the good things in your life. Although it is normal now and then to feel sorry for yourself, con. tinually talking about your problems and dwelling on them causes others to avoid you. Your coworkers would soon tire of hearing a "poor me" mono. logue such as: "I'm so tired. I work here all day. Then I go home and meet the challenges of my house and family. The next morning, I get up and start all over again. My stays home all day and has time to shop and play golf. I'll never have that kind of luxury." This kind of self-pitying talk is exhausting to you and to those around you. Self-pity is not a productive behavior. Pity parties" can result when this trait takes over. The bad thing about a pity party is that no one else wants to attend. Recognize self-pity for what it is, then turn your thoughts to the things in your life that are working well, and move forward.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สงสารตัวเองมีความรู้สึกเสียใจด้วยตัวคุณเองโดยไม่ดูสิ่งดีในชีวิตของคุณ แม้ว่าเป็นเรื่องปกติตอนนี้แล้วที่สงสารตัวเอง ปรับ เพื่อให้การพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาของคุณ และอยู่อาศัยที่พวกเขาทำให้ผู้อื่นหลีกเลี่ยงคุณ เพื่อนร่วมงานของคุณจะเร็วยางได้ยินเป็น "ดีฉัน" โมโน logue เช่น: "ฉันเหนื่อย ผมทำงานที่นี่ทุกวัน จากนั้นผมกลับบ้าน และพบกับความท้าทายของบ้านและครอบครัวของฉัน เช้าวันถัดไป ฉันได้รับขึ้น และเริ่มต้นอีกครั้ง ฉันเข้าบ้านตลอดทั้งวัน และมีเวลาในการเลือกซื้อ และเล่นกอล์ฟ ฉันจะไม่เคยมีของหรู" Pitying ตนเองพูดชนิดนี้คือเหน็ดเหนื่อย เพื่อคุณ และคนรอบข้างคุณ สงสารตัวเองไม่ใช่ลักษณะการทำงานมีประสิทธิภาพ สงสารฝ่าย"สามารถส่งผลให้เมื่อเข้าลักษณะนี้ สิ่งไม่ดีเกี่ยวกับบุคคลสงสารคือ ไม่มีใครอยากเข้าร่วม รู้จักสงสารตัวเองสำหรับมันคืออะไร แล้ว เปิดความคิดของคุณสิ่งที่ในชีวิตของคุณที่ใช้งานได้ดี และก้าวไปข้างหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สงสารตัวเองมีความรู้สึกเสียใจสำหรับตัวเองโดยไม่ได้มองไปที่สิ่งที่ดีในชีวิตของคุณ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องปกติตอนนี้แล้วจะรู้สึกเสียใจสำหรับตัวเอง, Con tinually พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาของคุณและที่อยู่อาศัยที่พวกเขาทำให้เกิดคนอื่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการคุณ เพื่อนร่วมงานของคุณจะมีเร็ว ๆ นี้ยางของการได้ยินเป็น "ฉันน่าสงสาร" โมโน Logue เช่น.... "ฉันเหนื่อยดังนั้นฉันทำงานที่นี่ทุกวันแล้วผมก็ไปที่บ้านและพบกับความท้าทายของบ้านและครอบครัวของฉันเช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นมาและเริ่มต้นอีกครั้งของฉันการเข้าพักที่บ้านตลอดทั้งวันและ มีเวลาที่จะซื้อและเล่นกอล์ฟ. ฉันไม่เคยจะมีชนิดของความหรูหราที่. " ชนิดของการพูดคุยเวทนาตนเองนี้เป็นที่หลบหนีอยู่กับคุณและคนรอบข้างคุณ สงสารตัวเองไม่ได้เป็นพฤติกรรมที่มีประสิทธิผล ฝ่ายสงสาร "จะส่งผลให้เมื่อลักษณะนี้จะใช้เวลามากกว่า. สิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับงานเลี้ยงที่น่าเสียดายก็คือว่าไม่มีใครต้องการที่จะเข้าร่วม. ยอมรับสงสารตัวเองว่ามันคืออะไรแล้วเปิดความคิดของคุณเพื่อสิ่งที่อยู่ในชีวิตของคุณที่จะทำงานได้ดี และก้าวไปข้างหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สงสารตนเองรู้สึกเสียใจสำหรับตัวคุณเองโดยไม่ต้องมองหาสิ่งที่ดีในชีวิตของคุณ แม้ว่าปกติแล้วรู้สึกเสียใจสำหรับตัวคุณเอง , หลอกลวง tinually พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่อยู่อาศัยของพวกเขาทำให้คนอื่นหลีกเลี่ยงคุณ เพื่อนร่วมงานของคุณจะเร็ว ๆนี้ยางได้ยิน " จนฉัน " โมโน " เช่น " ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ผมทำงานมาทั้งวัน จากนั้นฉันกลับบ้านและตอบสนองความท้าทายของบ้านและครอบครัว เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันตื่นขึ้นมาและเริ่มต้นอีกครั้ง อยู่บ้านทั้งวัน และมีเวลาที่จะซื้อและเล่นกอล์ฟ ผมจะไม่เคยมีหรูหรา " ชนิดนี้ของตนเองพูดสงสารคือเหนื่อยกับคุณและคนรอบข้างคุณ สงสารตนเองไม่ใช่พฤติกรรมที่มีประสิทธิภาพ สงสารฝ่ายที่ " ได้ผลเมื่อคุณลักษณะนี้จะใช้เวลามากกว่า สิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับบุคคลที่น่าสงสารที่ไม่มีใครต้องการที่จะเข้าร่วม รู้จักสงสารตนเองสิ่งที่มันเป็นแล้วเปลี่ยนความคิดของคุณในสิ่งที่ในชีวิตของคุณจะทำงานได้ดี และย้ายไปข้างหน้า