Marine-oriented nature-based touris

Marine-oriented nature-based tourism plays an important socio-economic role, and provides an
incentive for conservation in many coastal regions. However, accelerating global change, and the associated
socio-economic and political change may have severe consequences for marine tourism at the
local level. Thus, understanding the ability of sectors within marine tourism to cope with, and adapt to,
change is paramount. Private sector enterprises are key players in marine tourism and their capacity to
adapt to change will vary across socio-economic and governance contexts. Thus, the resilience of these
enterprises (their ability to adapt to, and continue to function under changing pressures and circumstances)
is critical for the future of the marine tourism sector more broadly. This paper examines how
socioeconomic and governance contexts influence the resilience of coral reef tourism enterprises in three
settings: the formal and informal sector in Phuket, Thailand and enterprises on Australia's Great Barrier
Reef. Although there are differences between the three groups of enterprises, lifestyle factors, human
capital, perceived reef condition, and government support are associated with the resilience of enterprises
across all three groups. These findings suggest that policy-makers should consider enterprise
lifestyle benefits, and that a nuanced understanding of marine tourism enterprises is required

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เชิงทะเลท่องเที่ยวตามธรรมชาติมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจสังคม และมีการงานสิทธิประโยชน์สำหรับการอนุรักษ์ในพื้นที่ชายฝั่งจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เร่งเปลี่ยน และที่เกี่ยวข้องเปลี่ยนแปลงทาง เศรษฐกิจสังคม และการเมืองอาจท่องเที่ยวทางทะเลที่รุนแรงต่อการระดับท้องถิ่น เข้าใจความสามารถของภาคภายในท่องเที่ยวทางทะเล การรับมือ ปรับใช้ ดังนั้นเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่ง องค์กรภาคเอกชนเป็นผู้สำคัญในการท่องเที่ยวทางทะเลและความสามารถในการปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงจะแตกต่างกันทางเศรษฐกิจสังคม และบริบทการกำกับดูแลกิจการ ดังนั้น ความยืดหยุ่นเหล่านี้วิสาหกิจ (ความสามารถในการปรับใช้ และการทำงานภายใต้แรงกดดันและสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง)มีความสำคัญสำหรับอนาคตของภาคการท่องเที่ยวทางทะเลอย่างกว้างขวางขึ้น ตรวจสอบเอกสารนี้อย่างไรประชากร และบริบทการปกครองมีผลต่อความยืดหยุ่นขององค์กรการท่องเที่ยวแนวปะการังในสามการตั้งค่า: ภาคอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการในภูเก็ต ประเทศไทยและสถานประกอบการในอุปสรรคใหญ่ของออสเตรเลียรีฟ แม้ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างกลุ่มสามขององค์กร สาเหตุ มนุษย์ทุน เงื่อนไขรีฟรับรู้ และภาครัฐเกี่ยวข้องกับความยืดหยุ่นขององค์กรในกลุ่มสามทั้งหมด ผลการวิจัยเหล่านี้แนะนำว่า policy-makers ควรพิจารณาองค์กรประโยชน์ชีวิต และที่เข้าใจฉับของวิสาหกิจท่องเที่ยวทางทะเลที่จำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทางทะเลที่มุ่งเน้นการท่องเที่ยวธรรมชาติที่ใช้มีบทบาททางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญและให้
แรงจูงใจเพื่อการอนุรักษ์ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลจำนวนมาก อย่างไรก็ตามการเร่งการเปลี่ยนแปลงของโลกและร่วม
การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมและการเมืองที่อาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงสำหรับการท่องเที่ยวทางทะเลที่
ระดับท้องถิ่น ดังนั้นการทำความเข้าใจความสามารถของภาคที่อยู่ในการท่องเที่ยวทางทะเลที่จะรับมือกับการปรับตัวเข้ากับ
การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ผู้ประกอบการภาคเอกชนเป็นผู้เล่นที่สำคัญในการท่องเที่ยวทางทะเลและความสามารถในการ
ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่จะแตกต่างกันในทางเศรษฐกิจและสังคมและบริบทการกำกับดูแล ดังนั้นความยืดหยุ่นของเหล่า
ผู้ประกอบการ (ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับและยังคงทำงานภายใต้แรงกดดันและสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง)
เป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของภาคการท่องเที่ยวทางทะเลในวงกว้างมากขึ้น กระดาษนี้จะตรวจสอบวิธีการ
ทางเศรษฐกิจและสังคมและบริบทการกำกับดูแลที่มีอิทธิพลต่อความยืดหยุ่นของผู้ประกอบการการท่องเที่ยวแนวปะการังในสาม
การตั้งค่า: ภาคที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการในจังหวัดภูเก็ตและสถานประกอบการในออสเตรเลีย Great Barrier
Reef แม้ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างทั้งสามกลุ่มของผู้ประกอบการ, ปัจจัยการดำเนินชีวิตของมนุษย์
ทุนสภาพแนวรับรู้และการสนับสนุนของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับความยืดหยุ่นของผู้ประกอบการ
ทั่วทั้งสามกลุ่ม การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าการกำหนดนโยบายขององค์กรควรพิจารณา
ผลประโยชน์ของวิถีชีวิตและความเข้าใจที่เหมาะสมยิ่งของผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลที่จำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การท่องเที่ยวทางทะเลเชิงธรรมชาติมีบทบาททางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ และมีแรงจูงใจในภูมิภาคชายฝั่ง
การอนุรักษ์มากมาย อย่างไรก็ตาม การเร่งเปลี่ยนโลก , และที่เกี่ยวข้อง
ทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองเปลี่ยนอาจมีผลรุนแรงสำหรับการท่องเที่ยวทางทะเลที่
ระดับท้องถิ่น ดังนั้น การเข้าใจความสามารถของภาคในการท่องเที่ยวทางทะเล เพื่อรับมือและปรับตัวให้เข้ากับ
,เปลี่ยนเป็นมหา องค์กรภาคเอกชนที่เป็นผู้เล่นสำคัญในการท่องเที่ยวทางทะเล และการปรับเปลี่ยน

จะแตกต่างกันในบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และธรรมาภิบาล . ดังนั้น ความยืดหยุ่นขององค์กรเหล่านี้
( ความสามารถในการปรับตัว และยังคงทำงานภายใต้ความกดดันและสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง )
สำคัญต่ออนาคตของภาคการท่องเที่ยวทางทะเลอย่างกว้างขวางขึ้นบทความนี้เป็นการวิเคราะห์ว่ากิจการ
ทางด้านเศรษฐกิจและสังคมบริบทมีผลต่อความยืดหยุ่นของแนวปะการังการท่องเที่ยวผู้ประกอบการใน 3
การตั้งค่า : ภาคที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ในภูเก็ต และองค์กรในแนวปะการัง Great Barrier
ของออสเตรเลีย แม้ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างกลุ่มองค์กร ปัจจัยวิถีชีวิตทุนมนุษย์
, การรับรู้สภาพแนวปะการัง ,และการสนับสนุนของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับความยืดหยุ่นของรัฐวิสาหกิจ
ทั้งสามกลุ่ม ผลการศึกษานี้มีข้อเสนอแนะว่าควรจัดองค์กร
วิถีชีวิตที่เหมาะสม ผลประโยชน์ และความเข้าใจของผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลที่จําเป็น