There have been efforts to further

There have been efforts to further increase the accuracy
of ERCLMDs. One concept was to measure the impedance
characteristics using more than two frequencies.
In the Endo Analyzer
8005 (Analytic Endodontics,
Sybron Dental, Orange, CA, USA) and AFA Apex
Finder
7005 (Analytic Endodontics) five different
frequencies have been used and the device measures
both components (phase and amplitude) of impedance
at each frequency. These figures are then analysed in a
procedure to determine the location of the minor
diameter (constriction) (Welk et al. 2003). The principle
behind this device, however, is similar to the impedance
ratio-based ERCLMDs. It detects the canal terminus by
determining a sudden change in the dominant characteristic
(capacitive or resistive) of the impedance. Welk
et al. (2003) compared the accuracy of an impedance
ratio-based ERCLMD (Root ZX
) and the Endo Analyzer

and found that the mean distance between the
electronically located canal terminus and minor diameter
was 1.03 mm for the Endo Analyzer and 0.19 mm
for the Root ZX
; the ability of the devices to locate the
apical constriction was 34.4 and 90.7% of cases
respectively. Pommer et al. (2002) evaluated the effect
of pulp vitality on the accuracy of the AFA Apex
Finder
7005 and reported that the difference between
measurements in canals with vital or necrotic pulps was
significantly different and concluded that the AFA Apex
Finder
was more accurate in vital cases.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ได้มีความพยายามที่จะเพิ่มความแม่นยำเพิ่มเติม
ของ ERCLMDs แนวคิดหนึ่งคือการ วัดความต้านทานที่
ลักษณะที่ใช้ความถี่มากกว่าสอง.
ในเดอะ Endo วิเคราะห์ 8005 (คู่รักษารากฟัน,
Sybron ทันตกรรม ส้ม CA, USA) และ AFA Apex
7005 Finder (คู่รักษารากฟัน) แตกต่างกัน 5
ใช้ความถี่ และอุปกรณ์วัด
ทั้งสององค์ประกอบ (ระยะและความกว้าง) ของความต้านทาน
ที่แต่ละความถี่ ตัวเลขเหล่านี้อยู่แล้ว analysed ในการ
กระบวนงานเพื่อกำหนดตำแหน่งของผู้เยาว์
เส้นผ่าศูนย์กลาง (เชื่อม) (Welk et al. 2003) หลัก
หลังอุปกรณ์นี้ อย่างไรก็ตาม จะคล้ายกับการต้านทาน
ERCLMDs ตามอัตราส่วน ตรวจพบนัสคลองโดย
กำหนดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในลักษณะหลัก
(ควบคุม หรือหน้า) ของตัวต้านทาน Welk
et al. (2003) เปรียบเทียบความถูกต้องของความต้านทาน
ERCLMD ตามอัตราส่วน (ราก ZX) และวิเคราะห์วงจร
พบว่าระยะห่างเฉลี่ยระหว่าง
อิเล็กทรอนิกส์อยู่คลองนัสและเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กน้อย
1.03 mm สำหรับวิเคราะห์วงจรและ 0.19 mm
สำหรับ ZX ราก ความสามารถของอุปกรณ์การค้นหาการ
เชื่อมปลายยอดเป็น 34.4 และ 907% ของกรณี
ตามลำดับ Pommer et al. (2002) มีประเมินผล
ของเยื่อพลังบนความถูกต้องของ AFA Apex
7005 ตัวค้นหา และรายงานว่า ความแตกต่างระหว่าง
ถูกวัดในคลองที่มีความสำคัญ หรือ necrotic pulps
อย่างมีนัยสำคัญแตกต่างกัน และสรุปที่ AFA Apex
หาได้ถูกต้องมากขึ้นในกรณีสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีความพยายามในการเพิ่มความถูกต้องของ erclmds
. แนวคิดหนึ่งคือการวัดอิมพีแดนซ์ลักษณะการใช้มากกว่าสองความถี่
.
ในวิเคราะห์โด
8005 (
sybron วิเคราะห์ทางการแพทย์ , ทันตกรรม , ส้ม , CA , USA ) และสำหรับ APEX
Finder
7005 ( วิเคราะห์วิทยาเอ็นโดดอนต์ )
5 ความถี่ที่แตกต่างกันมีการใช้มาตรการ
และอุปกรณ์องค์ประกอบทั้งสอง ( เฟสและแอมพลิจูดของอิมพีแดนซ์
ที่แต่ละความถี่ ตัวเลขเหล่านี้จะใช้ในขั้นตอนการตรวจสอบสถานที่ตั้งของ

ขนาดเล็ก ( ตีบ ) ( Welk et al . 2003 ) หลักการ
หลังอุปกรณ์นี้ , อย่างไรก็ตาม , จะคล้ายกับค่า
อัตราส่วนตาม erclmds . ตรวจพบคลองปลายทางโดยการเปลี่ยนแปลงกระทันหัน

ลักษณะเด่น( หรือ resistive capacitive ) ของอิมพีแดนซ์ . Welk
et al . ( 2546 ) เมื่อเปรียบเทียบความถูกต้องของค่าอัตราส่วนตาม
erclmd ( ราก ZX
) และเอ็นโดวิเคราะห์

และพบว่าค่าเฉลี่ยของระยะห่างระหว่าง
ทางอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งอยู่คลองปลายทางและผู้เยาว์เป็น 1.03 มิลลิเมตรเส้นผ่านศูนย์กลาง
สำหรับโด้ วิเคราะห์และ 0.19 มม.
สำหรับราก ZX
; ความสามารถของอุปกรณ์ ค้นหา
รัดปลายคือ 34.4 และ 90 .7 % กรณี
ตามลำดับ pommer et al . ( 2002 ) ประเมินผล
พลังเยื่อเกี่ยวกับความถูกต้องของ APEX
Finder สำหรับ
7005 และรายงานว่า ความแตกต่างระหว่าง
วัดในคลองกับสําคัญ หรือเยื่อที่แตกต่างกัน และสรุปว่าเป็น

สำหรับ APEX Finder
คือยิ่งในคดีสำคัญ