Andersen’s empirical study (Anderse

Andersen’s empirical study (Andersen, 2000, p. 196) provides evidence that strategic planning
(that emphasizes elements of the conventional strategic management process) is associated with
higher performance in all the industrial environments studied. The performance effect of strategic
planning does not vary significantly between the different industry groups. Hence, strategic
planning is an important performance driver in all industrial settings, and enhances both
economic performance and organizational innovation. According to Song (2011) the empirical
evidence suggests that more strategic planning and more new product development projects
lead to better firm performance. Although strategic planning is a process for anticipating environmental
turbulence, the logical sequential process often prescribed in the literature is not sufficient
to influence performance. Flexibility in decisions is needed to change operational issues,
such as products and services or their production and to change financial issues, such as capital
and gearing in order to impact on financial performance (Rudd et all, 2008). We accept this commentary
and search also in enterprises for last strategy update.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาเชิงประจักษ์ของแอนเดอร์เซ็น (แอนเดอร์เซ็น 2000, p. 196) มีหลักฐานว่าการวางแผนกลยุทธ์(ที่เน้นองค์ประกอบของกระบวนการจัดการเชิงกลยุทธ์แบบเดิม) เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพสูงในทุกสภาพแวดล้อมที่อุตสาหกรรมศึกษา ผลกระทบต่อประสิทธิภาพของกลยุทธ์การวางแผนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ กลยุทธ์การวางแผนเป็นโปรแกรมควบคุมประสิทธิภาพการทำงานที่สำคัญในทุกอุตสาหกรรมการตั้งค่า และช่วยเพิ่มทั้งเศรษฐกิจและนวัตกรรมองค์กร ไปตามเพลง (2011) ที่เชิงประจักษ์หลักฐานแสดงให้เห็นว่า การวางแผนเชิงกลยุทธ์มากขึ้นและโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมนำไปสู่ประสิทธิภาพของบริษัทที่ดีขึ้น แม้ว่าการวางแผนกลยุทธ์เป็นกระบวนการสำหรับการคาดการณ์สิ่งแวดล้อมความปั่นป่วน กระบวนการลำดับทางตรรกะกำหนดในวรรณคดีมักจะไม่เพียงพอมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการทำงาน จำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นในการตัดสินใจเพื่อเปลี่ยนแปลงปัญหาการดำเนินงานดังกล่าว เป็นผลิตภัณฑ์ และบริการ หรือการผลิต และ การเปลี่ยนแปลงทางการเงินต่าง ๆ ทุนและใส่เกียร์เพื่อที่จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพทางการเงิน (รัดด์ et all, 2008) เรายอมรับบทวิจารณ์นี้และปรับปรุงกลยุทธ์ล่าสุดหายังอยู่ในองค์กร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาเชิงประจักษ์เซน (เซน, 2000, น. 196) ให้หลักฐานที่แสดงว่าการวางแผนเชิงกลยุทธ์
(ที่เน้นองค์ประกอบของกระบวนการการจัดการเชิงกลยุทธ์ธรรมดา) มีความเกี่ยวข้องกับ
ประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้นในทุกสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมการศึกษา ผลการปฏิบัติงานของยุทธศาสตร์
การวางแผนไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน ดังนั้นกลยุทธ์
การวางแผนเป็นโปรแกรมควบคุมการปฏิบัติงานที่สำคัญในการตั้งค่าอุตสาหกรรมทั้งหมดและช่วยเพิ่มทั้ง
ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมขององค์กร ตามที่เพลง (2011) เดอะเชิงประจักษ์
หลักฐานแสดงให้เห็นว่าการวางแผนเชิงกลยุทธ์มากขึ้นและโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่
นำไปสู่ประสิทธิภาพของ บริษัท ที่ดีขึ้น แม้ว่าการวางแผนเชิงกลยุทธ์เป็นกระบวนการสำหรับการคาดการณ์สิ่งแวดล้อม
ปั่นป่วนกระบวนการลำดับตรรกะมักจะกำหนดไว้ในวรรณคดีไม่เพียงพอที่
จะมีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงาน ความยืดหยุ่นในการตัดสินใจเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเปลี่ยนปัญหาการดำเนินงาน,
เช่นผลิตภัณฑ์และบริการหรือการผลิตของพวกเขาและที่จะเปลี่ยนปัญหาทางการเงินเช่นเงินทุน
และการใส่เกียร์เพื่อที่จะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน (รัดด์ et ทั้งหมด 2008) เรายอมรับความเห็นนี้
และค้นหายังอยู่ในสถานประกอบการสำหรับการปรับปรุงกลยุทธ์สุดท้าย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาเชิงประจักษ์ของ Andersen ( Andersen , 2543 , หน้า 196 ) มีหลักฐานว่า การวางแผนเชิงกลยุทธ์( แบบที่เน้นองค์ประกอบของกระบวนการจัดการเชิงกลยุทธ์ ) มีความเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพสูงในทุกสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมศึกษา การแสดงผลของกลยุทธ์การวางแผนไม่แตกต่างกันทางสถิติระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ดังนั้น ยุทธศาสตร์การวางแผนเป็นไดรเวอร์ที่สำคัญประสิทธิภาพในการตั้งค่าอุตสาหกรรมทั้งหมด และช่วยเพิ่มทั้งเศรษฐกิจและนวัตกรรมในองค์การ จากเพลง ( 2011 ) เชิงประจักษ์หลักฐานแสดงให้เห็นว่ามากกว่ากลยุทธ์การวางแผนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ตะกั่วเพื่อประสิทธิภาพที่ดีของบริษัท แม้ว่าการวางแผนกลยุทธ์เป็นกระบวนการสำหรับการคาดการณ์สิ่งแวดล้อมความวุ่นวาย , กระบวนการลำดับขั้นเชิงตรรกะที่กำหนดในวรรณคดีมักจะไม่เพียงพอที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงาน มีความยืดหยุ่นในการตัดสินใจต้องเปลี่ยน ปัญหาการดำเนินงานเช่นผลิตภัณฑ์และบริการหรือการผลิตของพวกเขาที่จะเปลี่ยนปัญหาทางการเงิน เช่น ทุนและการใส่เกียร์เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานทางการเงิน ( รัดด์ et ทั้งหมด , 2008 ) เรายอมรับความเห็นนี้ค้นหาในองค์กรเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ล่าสุด