care of patients with one disease a

care of patients with one disease aetiology. It is
important that all hepatology nurses, regardless of
their clinical setting or speciality, are aware of the
nursing management of hepatitis B, hepatitis C,
ALD and HCC to ensure a holistic approach and
continuity of care throughout the spectrum of liver
disease. As such, the four disease-specific documents
are designed to be considered concurrently.
Limitations to the implementation of the AHA
Guidelines arise at the individual level and consideration
of the organisational culture in which the
individual nurse works. The hepatology nurse’s
employing organisation must be open to changes in
clinical practice and foster an environment in which
nurses feel empowered to instigate changes to reflect
the evolution of evidence-based care, or where evidence
is lacking the evolution of thinking documented
in consensus-based guidelines. Although
the AHA Guidelines were developed through
national consultation and are broadly representative,
the settings in which nurses care for patients
with hepatitis B, hepatitis C, ALD and HCC
are diverse, and it is unrealistic to summarise the
expected responsibilities of nurses in each of these
settings. These issues rely on the capacity of individual
hepatology nurses to institute change and
consider the AHA Guidelines from the perspective
of their own setting and organisational culture.
An important finding of this study was the
lack of empirical evidence to support hepatology
nursing practice. This deficit highlights the urgent
need for nurse-led research to ensure optimal
healthcare for patients with liver disease, appropriate
resourcing and workforce development initiatives,
are documented and shared internationally.
Implementation of the AHA Guidelines will
be supported by the development of practicerelated
tools such as nursing care plans, or locally
relevant policies and procedures for individual
clinics/services. From a broader perspective, the
AHA Guidelines will inform the development of
educational activities and guide hepatology nurses
to identify their professional development needs.
In addition, colleagues working in other clinical
settings, and outside the clinical arena, will
find the AHA Guidelines useful in clarifying and
understanding the role of hepatology nurses in
T
caring for patients with liver disease.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีโรคหนึ่ง aetiology มันเป็นสิ่งสำคัญที่พยาบาลเวชกรรมทั้งหมด ไม่ตั้งคลินิกหรือพิเศษ ของพวกเขาจะตระหนักถึงการตับอักเสบบี ตับอักเสบ C การจัดการพยาบาลALD และคาร์โลให้เป็นแนวทางแบบองค์รวม และความต่อเนื่องของสเปกตรัมของตับตลอดโรค เป็นเช่น เอกสารเฉพาะโรค 4ถูกออกแบบให้เป็นพร้อมข้อจำกัดของการปฏิบัติลเอแนวทางที่เกิดขึ้นในแต่ละระดับและพิจารณาวัฒนธรรม organisational ซึ่งการพยาบาลแต่ละงาน ของพยาบาลเวชกรรมใช้องค์กรต้องเปิดรับการเปลี่ยนแปลงในทางคลินิกปฏิบัติ และส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่พยาบาลรู้สึก empowered เสี้ยมเพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการของหลักฐานที่ใช้ หรือหลักฐานที่ขาดวิวัฒนาการความคิดในการจัดทำเอกสารในมติตามแนวทาง ถึงแม้ว่าแนวทางลเอถูกพัฒนาผ่านแห่งชาติให้คำปรึกษาและมีพนักงานทั่วไปการตั้งค่าในการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยมีตับอักเสบบี ตับอักเสบ C, ALD และคาร์โลมีหลากหลาย และมันจะไม่ summariseคาดรับผิดชอบของพยาบาลในแต่ละเหล่านี้การตั้งค่า ปัญหาเหล่านี้อาศัยกำลังการผลิตของแต่ละบุคคลพยาบาลเวชกรรมเพื่อสถาบันเปลี่ยนแปลง และพิจารณาแนวทางลเอจากมุมมองวัฒนธรรมของตนเอง organisational และตั้งค่าค้นหาความสำคัญของการศึกษานี้เป็นการขาดหลักฐานประจักษ์สนับสนุนเวชกรรมพยาบาลฝึกหัด ดุลนี้เน้นที่เร่งด่วนต้องนำพยาบาลวิจัยให้เหมาะสมการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคตับ ความเหมาะสมโครงการพัฒนาบุคลากรและจัดจัดทำเอกสาร และใช้ร่วมกันในระดับสากลจะดำเนินการตามแนวทางลเอได้รับการสนับสนุนจากการพัฒนาของ practicerelatedเครื่องมือเช่นพยาบาลดูแลแผน หรือในท้องถิ่นนโยบายที่เกี่ยวข้องและกระบวนงานสำหรับแต่ละบุคคลคลินิก/บริการ จากมุมมองที่กว้างขึ้น การแนวทางลเอจะแจ้งการพัฒนากิจกรรมและคู่มือพยาบาลเวชกรรมระบุการพัฒนามืออาชีพต้องการนอกจากนี้ เพื่อนร่วมงานที่ทำงานในคลินิกอื่น ๆการตั้งค่า และนอกเวทีคลินิก จะค้นหาแนวทางลเอมีประโยชน์ในการทำ และเข้าใจบทบาทของพยาบาลเวชกรรมในTดูแลผู้ป่วยที่มีโรคตับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การดูแลผู้ป่วยที่มีสาเหตุโรคหนึ่ง มันเป็น
สิ่งสำคัญที่หอผู้ป่วยตับโดยไม่คำนึงถึง
การตั้งค่าของพวกเขาหรือคลินิกพิเศษมีความตระหนักใน
การจัดการการพยาบาลของไวรัสตับอักเสบบี, ไวรัสตับอักเสบซี,
มรกตและ HCC เพื่อให้แน่ใจว่าวิธีการแบบองค์รวมและ
ความต่อเนื่องของการดูแลตลอดสเปกตรัมของตับ
โรค เช่นเอกสารสี่เฉพาะโรค
ได้รับการออกแบบที่จะต้องพิจารณาควบคู่กันไป.
ข้อ จำกัด ในการดำเนินงานของ AHA
แนวทางที่เกิดขึ้นในระดับบุคคลและการพิจารณา
ของวัฒนธรรมองค์กรในการที่
งานพยาบาลของแต่ละบุคคล พยาบาลตับของ
องค์กรจ้างจะต้องเปิดการเปลี่ยนแปลงใน
การปฏิบัติทางคลินิกและการส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมที่
หอผู้ป่วยรู้สึกว่าอำนาจจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะสะท้อนให้เห็นถึง
วิวัฒนาการของการดูแลตามหลักฐานหรือที่หลักฐาน
ขาดวิวัฒนาการของการคิดการบันทึกไว้
ในแนวทางฉันทามติตาม . แม้ว่า
แนวทาง AHA ได้รับการพัฒนาผ่าน
การปรึกษาหารือระดับชาติและเป็นตัวแทนในวงกว้าง
การตั้งค่าในการที่ดูแลพยาบาลสำหรับผู้ป่วย
ที่มีโรคตับอักเสบบี, ไวรัสตับอักเสบซี, มรกตและมะเร็งตับ
มีความหลากหลายและมันจะไม่สมจริงที่จะสรุป
ความรับผิดชอบของพยาบาลคาดว่าในแต่ละเหล่านี้
การตั้งค่า ปัญหาเหล่านี้พึ่งพาความสามารถของแต่ละบุคคล
พยาบาลตับจะจัดตั้งการเปลี่ยนแปลงและการ
พิจารณาแนวทาง AHA จากมุมมอง
ของการตั้งค่าและวัฒนธรรมองค์กรของตัวเอง.
การค้นพบที่สำคัญของการศึกษานี้คือ
การขาดหลักฐานเชิงประจักษ์เพื่อสนับสนุนตับ
ปฏิบัติการพยาบาล การขาดดุลนี้เน้นเร่งด่วน
ที่จำเป็นสำหรับการวิจัยพยาบาลนำที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่า
การดูแลสุขภาพสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคตับที่เหมาะสม
ทรัพยากรและความคิดริเริ่มพัฒนาแรงงาน
และมีเอกสารที่ใช้ร่วมกันในระดับสากล.
การดำเนินการตามแนวทาง AHA จะ
ได้รับการสนับสนุนโดยการพัฒนา practicerelated
เครื่องมือเช่น วางแผนการดูแลพยาบาลหรือท้องถิ่น
นโยบายที่เกี่ยวข้องและวิธีการในแต่ละ
คลินิก / บริการ จากมุมมองที่กว้างขึ้น,
แนวทาง AHA จะแจ้งการพัฒนา
กิจกรรมการศึกษาและแนวทางการพยาบาลตับ
ในการระบุความต้องการการพัฒนาของพวกเขาเป็นมืออาชีพ.
นอกจากนี้ยังมีเพื่อนร่วมงานที่ทำงานในคลินิกอื่น ๆ
การตั้งค่าและนอกเวทีทางคลินิกจะ
หาแนวทาง AHA มีประโยชน์ในการทำความเข้าใจ และ
การทำความเข้าใจบทบาทของพยาบาลในตับ
T
การดูแลผู้ป่วยที่มีโรคตับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การดูแลผู้ป่วยด้วยโรคการศึกษาที่เกี่ยวกับสาเหตุ . มันเป็นสิ่งสำคัญว่าพยาบาลกิลกาลัด

ทั้งหมด ไม่ว่าการตั้งค่าทางคลินิกของพวกเขาหรือพิเศษ , ตระหนักถึง
การจัดการทางการพยาบาลของไวรัสตับอักเสบบี , ไวรัสตับอักเสบ C
ald HCC ให้และความต่อเนื่องของการดูแลแบบองค์รวมและ
ทั่วทั้งสเปกตรัมของโรคตับ

เช่น สี่ disease-specific เอกสาร
ถูกออกแบบมาเพื่อพิจารณาควบคู่กันไป .
ข้อจำกัดเพื่อการดําเนินงานของ AHA
แนวทางเกิดขึ้นในระดับบุคคลและการพิจารณา
ของวัฒนธรรมองค์กรที่
งานพยาบาลบุคคล ส่วนกิลกาลัดพยาบาล
พนักงานองค์กรจะต้องเปิดการเปลี่ยนแปลง
การปฏิบัติทางคลินิก และเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่
พยาบาลรู้สึก empowered บงการการเปลี่ยนแปลงเพื่อสะท้อน
วิวัฒนาการของการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ หรือที่ขาดหลักฐาน

ในวิวัฒนาการของความคิดเอกสารมติตามแนวทาง แม้ว่า
AHA ได้กำหนดแนวทางพัฒนาผ่านการปรึกษาหารือระดับชาติและกว้าง

การตั้งค่าในตัวแทนของพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วย
กับตับอักเสบบี ตับอักเสบ ซี และ ald HCC
ได้หลากหลาย และมีการสรุป
สมจริงคาดหวังความรับผิดชอบของพยาบาลในแต่ละการตั้งค่าเหล่านี้

ปัญหาเหล่านี้ต้องพึ่งพาความสามารถของบุคคล
กิลกาลัดพยาบาลสถาบันการเปลี่ยนแปลงและพิจารณาแนวทาง

AHA จากมุมมองของการตั้งค่าของพวกเขาเอง และวัฒนธรรมองค์กร .
การค้นหาที่สำคัญของการศึกษานี้
ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนการปฏิบัติการพยาบาลกิลกาลัด

อย่างไรก็ตาม ไฮไลท์ ด่วน
ต้องการพยาบาล LED วิจัยเพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสม
ดูแลสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคตับ การจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสมและการริเริ่มการพัฒนาแรงงาน

, มีเอกสารและร่วมกันในการดำเนินงานของ AHA แนวทางจะ

ได้รับการสนับสนุนโดยการพัฒนา practicerelated
เครื่องมือ เช่น การวางแผนการพยาบาล หรือในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง นโยบายและวิธีการที่บุคคล

คลินิก / บริการจากมุมมองที่กว้างขึ้น ,
AHA จะแจ้งแนวทางการพัฒนากิจกรรมการศึกษาและคู่มือกิลกาลัดพยาบาล

เพื่อระบุความต้องการการพัฒนาอาชีพของพวกเขา .
นอกจากนี้ เพื่อนร่วมงานที่ทำงานในการตั้งค่าทางคลินิก
อื่นๆ และนอกเวที ทางคลินิกจะ
หาแนวทางที่เป็นประโยชน์ในการอธิบาย
AHA และเข้าใจบทบาทของพยาบาลกิลกาลัดใน

tการดูแลผู้ป่วยโรคตับ .