เมื่อแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรใหม่มีการ

เมื่อแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรใหม่มีการเย็นตัวเป็นเวลากว่าสิบล้านปี ความหนาแน่นก็จะค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นจนมีความหนาแน่นมากกว่าชั้นหินหนืดที่อยู่ด้านล่าง จากนั้นจึงมุดตัวลงไปใต้โลกเรียกว่า Subduction การมุดตัวนี้จะเกิดขึ้นในบริเวณแนวแผ่นเปลือกโลกลู่เข้าหากัน (Convergent Plate Boundaries) ซึ่งแผ่นเปลือกโลกทั้งสองแผ่นมีการเคลื่อนที่เข้าชนกัน แผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรที่มีความหนาแน่นมากกว่าจะเข้าชนและมุดตัวใต้แผ่นเปลือกโลกภาคพื้นทวีปที่ความหนาแน่นน้อยกว่า เมื่อแผ่นเปลือกโลกมุดตัวลงไปในโลก จะเกิดการบีบอัดและหลอมเป็นบางส่วน (Partially Melting) เนื่องจากอุณหภูมิและความดันที่สูงขึ้น ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟ ขึ้นเหนือบริเวณที่มีการมุดตัว โดยการเคลื่อนที่แบบ Convergence จะทำให้เกิดลักษณะธรณีสัณฐาน 3 แบบได้แก่

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรใหม่มีการเย็นตัวเป็นเวลากว่าสิบล้านปีความหนาแน่นก็จะค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นจนมีความหนาแน่นมากกว่าชั้นหินหนืดที่อยู่ด้านล่างจากนั้นจึงมุดตัวลงไปใต้โลกเรียกว่า Subduction การมุดตัวนี้จะเกิดขึ้นในบริเวณแนวแผ่นเปลือกโลกลู่เข้าหากัน (Coขอบจาน nvergent) ซึ่งแผ่นเปลือกโลกทั้งสองแผ่นมีการเคลื่อนที่เข้าชนกันแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรที่มีความหนาแน่นมากกว่าจะเข้าชนและมุดตัวใต้แผ่นเปลือกโลกภาคพื้นทวีปที่ความหนาแน่นน้อยกว่าเมื่อแผ่นเปลือกโลกมุดตัวลงไปในโลกจะเกิดการบีบอัดและหลอมเป็นบางส่วน (บางส่วนละลาย) เนื่องจากอุณหภูมิและความดันที่สูงขึ้นทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟขึ้นเหนือบริเวณที่มีการมุดตัวโดยการเคลื่อนที่แบบบรรจบกันจะทำให้เกิดลักษณะธรณีสัณฐาน 3 แบบได้แก่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรใหม่มีการเย็นตัวเป็นเวลากว่าสิบล้านปีความหนาแน่นก็จะค่อยๆเพิ่มมากขึ้นจนมีความหนาแน่นมากกว่าชั้นหินหนืดที่อยู่ด้านล่างจากนั้นจึงมุดตัวลงไปใต้โลกเรียกว่ามุดตัวของเปลือกโลก( การซึ่งแผ่นเปลือกโลกทั้งสองแผ่นมีการเคลื่อนที่เข้าชนกันแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรที่มีความหนาแน่นมากกว่าจะเข้าชนและมุดตัวใต้แผ่นเปลือกโลกภาคพื้นทวีปที่ความหนาแน่นน้อยกว่าเขตแดนจาน )จะเกิดการบีบอัดและหลอมเป็นบางส่วน ( บางส่วนที่ละลาย ) เนื่องจากอุณหภูมิและความดันที่สูงขึ้นทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟขึ้นเหนือบริเวณที่มีการมุดตัวโดยการเคลื่อนที่แบบบรรจบจะทำให้เกิดลักษณะธรณีสัณฐาน 3