Previous reports have shown that re

Previous reports have shown that reproductive tract score (RTS) can predict reproduction outcomes in seasonally bred beef heifers, although the accuracy can vary. Some ultrasonographic measures of the female reproductive tract and pelvis area have also been associated with reproductive outcome in young heifers. The objectives of this study were to determine which transrectal ultrasound or pelvis measures taken at a single examination are independent predictors of reproductive failure and whether the RTS system can be optimized with this information. In this observational study, year-old beef heifers (n = 488) in 2 birth cohorts were followed from just before the first breeding until confirmation of pregnancy. A single pre-breeding examination included body condition score, RTS, ultrasound measures of the reproductive tract (length and diameter of the left and right ovaries, presence and diameter of a CL, largest follicle diameter and left uterus horn diameter) and transverse and vertical diameters of the pelvis. Additional farm records including dam parity, sire, birth weight and birth date, weaning weight, weaning date, prebreeding body weight, AI dates, and semen used were available. Breeding consisted of 50 days of AI, followed 5 to 7 days later by a 42-day bull breeding period. Pregnancy failure was defined as the failure to become pregnant after the AI and bull breeding periods, while anestrus was defined as the failure to be detected in estrus during the 50-day AI period. From the prebreeding data and farm records, independent predictors of pregnancy failure and anestrus were identified using stepwise reduction in multiple logistic regression models. Age at the onset of breeding was the only consistent independent predictor of pregnancy failure and anestrus in both cohorts of this study (P < 0.05). Body condition score, uterus horn diameter, absence of a CL, largest follicle of less than 13 mm, and pelvis area (PA) were the prebreeding examination variables that remained in prognostic models (P < 0.1). Combining either the model based on the 3 remaining ultrasound measures or RTS with PA provided more accurate prognostic models for pregnancy failure and anestrus than using RTS alone (P < 0.05). It is concluded that ultrasound measures have prognostic value for pregnancy failure in restricted bred yearling heifers as a result of their association with anestrus, and that smaller PA has additional prognostic value for poorly performing heifers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รายงานก่อนหน้านี้ได้แสดงว่าคะแนนทางเดินสืบพันธุ์ (RTS) สามารถทำนายผลลัพธ์ที่ทำซ้ำในวัวสาววัวพันธุ์ตามฤดูกาล แม้ว่าความแม่นยำแตกต่างกันได้ มาตรการบางอย่าง ultrasonographic ทางเดินสืบพันธุ์หญิงและบริเวณเชิงกรานได้เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ผลในวัวหนุ่มสาว วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้มีการ ตรวจสอบที่ซาวด์ transrectal หรือมาตรการเชิงกรานสอบเดียว ทำนายอิสระสืบพันธุ์ล้มเหลวและว่าสามารถปรับระบบ RTS ด้วยข้อมูลนี้ ในการศึกษาเชิงสังเกตการณ์นี้ วัวสาววัวปี (n = 488) ในเกิด 2 รุ่นแล้วจากก่อนการผสมพันธุ์ครั้งแรกจนถึงการยืนยันการตั้งครรภ์ การตรวจสอบก่อนผสมพันธุ์เดียวรวมคะแนนสภาพร่างกาย RTS ซาวด์มาตรการของทางเดินสืบพันธุ์ (ความยาวและเส้นผ่าศูนย์กลาง ของรังไข่ด้านซ้าย และขวา มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด CL เส้นผ่าศูนย์กลางรูขุมขนที่ใหญ่ที่สุด และมดลูกซ้ายฮอร์น) และเส้นผ่าศูนย์กลางตามขวาง และแนวตั้งของกระดูกเชิงกราน ฟาร์มเพิ่มเติมระเบียนรวมทั้งเขื่อนพาริตี้ ถือ น้ำหนักเกิด และ วันเกิด วัน หย่านม น้ำหนักหย่านมน้ำหนัก prebreeding, AI วัน และน้ำเชื้อที่ใช้ได้มี พันธุ์ของ AI 50 วัน ตาม 5-7 วันภายหลังระยะเวลาผสมพันธุ์วัว 42 วัน ความล้มเหลวของการตั้งครรภ์ถูกกำหนดเป็นความล้มเหลวการตั้งครรภ์หลังจาก AI และวัวพันธุ์ระยะเวลา ขณะ anestrus ถูกกำหนดเป็นความล้มเหลวการตรวจพบใน estrus ในช่วง 50 วัน AI จากข้อมูล prebreeding และระเบียนฟาร์ม ทำนายอิสระของความล้มเหลวของการตั้งครรภ์และ anestrus ได้ระบุการใช้ยังคงลดหลายโมเดลถดถอยโลจิสติก อายุที่เริ่มเพาะพันธุ์เป็น predictor อิสระเท่านั้นที่สอดคล้องกันของความล้มเหลวของการตั้งครรภ์และ anestrus ในทั้งสองรุ่นของการศึกษานี้ (P < 0.05) ร่างกายสภาพคะแนน เส้นผ่าศูนย์กลางของแตรมดลูก ของ CL รูขุมขนที่ใหญ่ที่สุดที่น้อยกว่า 13 มม. และบริเวณเชิงกราน (PA) ตัวแปรตรวจ prebreeding ที่ยังคงอยู่ในรุ่น prognostic (P < 0.1) รวมทั้งแบบอิง 3 เหลือ มาตรการซาวด์ หรือ RTS กับ PA ให้ยิ่ง prognostic รุ่นสำหรับความล้มเหลวของการตั้งครรภ์และ anestrus ใช้ RTS คนเดียว (P < 0.05) มันคือสรุปว่า มาตรการซาวด์มีค่า prognostic สำหรับความล้มเหลวของการตั้งครรภ์ในจำกัดพันธุ์ขวบวัวสาวเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ anestrus และ PA ขนาดเล็กมีมูลค่า prognostic เพิ่มเติมการดีวัวสาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รายงานก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าคะแนนระบบสืบพันธุ์ (RTS) สามารถทำนายผลการสืบพันธุ์ในฤดูกาลพันธุ์โคเนื้อแม้ว่าความถูกต้องสามารถแตกต่างกัน บางมาตรการคลื่นเสียงความถี่สูงของระบบทางเดินสืบพันธุ์เพศหญิงและพื้นที่กระดูกเชิงกรานยังได้รับการที่เกี่ยวข้องกับผลการเจริญพันธุ์ในหนุ่มสาว วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้มีการตรวจสอบว่าอัลตราซาวนด์ transrectal หรือกระดูกเชิงกรานมาตรการดำเนินการในการตรวจสอบเดียวพยากรณ์อิสระของความล้มเหลวของระบบสืบพันธุ์และไม่ว่าระบบ RTS สามารถเพิ่มประสิทธิภาพกับข้อมูลนี้ ในการศึกษานี้เชิงสาวเนื้อปี (n = 488) 2 cohorts เกิดตามมาจากการเพาะพันธุ์ก่อนที่แรกจนถึงยืนยันของการตั้งครรภ์ การตรวจสอบก่อนการเพาะพันธุ์เดียวรวมร่างกายคะแนนสภาพ RTS มาตรการอัลตราซาวนด์ของระบบสืบพันธุ์ (ความยาวและขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านซ้ายและรังไข่ที่ถูกต้องแสดงตนและมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของ CL ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางรูขุมขนที่ใหญ่ที่สุดและมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางฮอร์นมดลูกซ้าย) และตามขวางและแนวตั้ง เส้นผ่าศูนย์กลางของกระดูกเชิงกราน บันทึกฟาร์มเพิ่มเติมรวมทั้งความเท่าเทียมกันเขื่อนฝ่าบาทน้ำหนักแรกเกิดและวันเดือนปีเกิดหย่านมน้ำหนักหย่านมวัน prebreeding น้ำหนักตัววันที่ AI และน้ำอสุจิที่ใช้มีอยู่ การปรับปรุงพันธุ์ประกอบด้วย 50 วันของ AI ตาม 5-7 วันต่อมาโดยมีระยะเวลาการเพาะพันธุ์วัว 42 วัน ความล้มเหลวของการตั้งครรภ์ได้รับการกำหนดให้เป็นความล้มเหลวที่จะตั้งครรภ์หลังจากงวด AI และการปรับปรุงพันธุ์วัวในขณะที่ anestrus ถูกกำหนดเป็นความล้มเหลวที่จะตรวจพบในสัดในช่วงระยะเวลา AI 50 วัน จากข้อมูล prebreeding และบันทึกฟาร์มพยากรณ์อิสระของความล้มเหลวการตั้งครรภ์และ anestrus ถูกระบุโดยใช้การลดขั้นตอนในรูปแบบการถดถอยโลจิสติกหลาย อายุที่เริ่มมีอาการของการปรับปรุงพันธุ์เป็นปัจจัยบ่งชี้ที่เป็นอิสระเท่านั้นที่สอดคล้องกันของความล้มเหลวของการตั้งครรภ์และ anestrus ผองเพื่อนทั้งในการศึกษาครั้งนี้ (p <0.05) คะแนนสภาพร่างกาย, ฮอร์นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมดลูกขาดของ CL, รูขุมขนที่ใหญ่ที่สุดของน้อยกว่า 13 มิลลิเมตรและพื้นที่กระดูกเชิงกราน (PA) เป็นตัวแปรการตรวจสอบ prebreeding ที่ยังคงอยู่ในรูปแบบการพยากรณ์โรค (P <0.1) รวมทั้งรูปแบบขึ้นอยู่กับ 3 ที่เหลืออยู่มาตรการอัลตราซาวนด์หรือ RTS กับ PA ให้รูปแบบการพยากรณ์ที่แม่นยำมากขึ้นสำหรับความล้มเหลวการตั้งครรภ์และ anestrus กว่าการใช้ RTS เพียงอย่างเดียว (p <0.05) ก็สรุปได้ว่ามาตรการอัลตราซาวนด์มีค่าพยากรณ์ความล้มเหลวของการตั้งครรภ์สำหรับในสาวพันธุ์ขวบ จำกัด เป็นผลมาจากความสัมพันธ์ของพวกเขากับ anestrus และที่มีขนาดเล็กมีค่า PA ลางเพิ่มเติมสำหรับสาวที่มีประสิทธิภาพต่ำ