Early in the Bangkok period, the Em

Early in the Bangkok period, the Emerald Buddha used to be taken out of its temple and paraded in the streets to relieve the city and countryside of various calamities (such as plague and cholera). However, this practice was discontinued during Rama IV's reign as it was feared that the image could get damaged during the procession and also a practical line of thinking that Rama IV held "that diseases are caused by germs, not by evil spirits or the displeasure of the Buddha".[2]

The image also marks the changing of the seasons in Thailand, with the king presiding over the seasonal ceremonies. It is a significant ritual held at this temple three times a year, whereby the dress of the deity is changed at the start of each of the three seasons. The astrological dates for the ritual ceremonies, at the changing of the seasons, followed are in the 1st Waning Moon of Lunar Months 4, 8 and 12 (around March, July and November). Rama I initiated this ritual for the hot season and the rainy season, Rama III introduced the ritual for the winter season.[2][12] The robes, which the image adorns, represents that of monks and the King, depending on the season, a clear indication of highlighting its symbolic role "as Buddha and the King", which role is also enjoined on the Thai King who formally dresses the Emerald Buddha image.[3] The costume change ritual is performed by the Thai king who is the highest master of ceremonies for all Buddhist rites. During the ceremony, the king first climbs up to the pedestal, cleans the image by wiping away any dust, and changes the gold headdress of the Emerald Buddha. The king then worships nearby while an attendant performs the elaborate ritual of changing garments.[14] The king also sprays lustral water upon his subjects waiting outside the ordination hall, a privilege previously afforded only to the princes and officials who were attending the ceremony inside the ubosoth.[7]

Ceremonies are also performed at at the Emerald Buddha temple at other occasions such as the by Chakri Day (begun on April 6, 1782), a national holiday to honour founding of the Chakri dynasty. The King and Queen, entourage of the royal family as well as the Prime Minister, officials in the Ministry of Defence, and other government departments, offer prayers at the temple.[2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในงวดกรุงเทพ พระแก้วมรกตใช้จะถูกนำออกจากวัดของ และ paraded ในถนนเพื่อบรรเทาเมืองและชนบทของภัยพิบัติต่าง ๆ (เช่นอหิวาตกโรคและกาฬโรคทำ) อย่างไรก็ตาม ปฏิบัตินี้หยุดการระหว่างรัชสมัยของรามที่มีความกลัวว่าภาพอาจได้รับเสียหายในระหว่างขบวน และสายปฏิบัติการคิดที่ราม "ว่า โรคที่เกิดจากเชื้อโรค ไม่โดยวิญญาณชั่วร้ายหรือไม่พอใจพระ" [2]ภาพยังทำเครื่องหมายการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลในประเทศไทย พระมรกตพิธีตามฤดูกาล มันเป็นพิธีกรรมสำคัญจัดขึ้นที่วัดนี้ครั้งที่สามปี โดยมีการเปลี่ยนแปลงการแต่งกายของเทพเจ้าที่จุดเริ่มต้นของแต่ละซีซั่นสาม วันโหราศาสตร์สำหรับพิธีกรรมพิธีเฉลิมฉลอง ที่การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ตามอยู่ใน 1 ข้างดวงจันทร์ของเดือน 4, 8 และ 12 (ประมาณเดือนมีนาคม กรกฎาคม และพฤศจิกายน) ผมเริ่มต้นพิธีกรรมนี้สำหรับฤดูร้อนและฤดูฝน สมเด็จพระรามนำพิธีกรรมสำหรับฤดูหนาว [2] [12 เสื้อคลุม] ซึ่งประดับภาพ แสดงถึงว่า พระสงฆ์และกษัตริย์ ขึ้นอยู่กับฤดูกาล บ่งชี้ชัดเจนเน้นบทบาทของสัญลักษณ์ "เป็นพระพุทธรูปและพระมหากษัตริย์" บทบาทที่เป็นยังออกจากในหลวงที่อย่างเป็นทางชุดรูปแบบพระแก้วมรกต [3] พิธีกรรมการเปลี่ยนแปลงเครื่องแต่งกายจะดำเนินการ โดยพระมหากษัตริย์ไทยที่เป็นสุดพระราชพิธีสำหรับพิธีกรรมทางพุทธศาสนาทั้งหมด ในระหว่างพิธี กษัตริย์ก่อนปีนขึ้นฐานรอง ภาพการทำความสะอาด โดยเช็ดเก็บฝุ่น และเปลี่ยนผ้าโพกศีรษะทองพระแก้วมรกต กษัตริย์แล้ววิงวอนใกล้เคียงในขณะที่การเข้าร่วมทำพิธีกรรมซับซ้อนเปลี่ยนเสื้อผ้า [14] กษัตริย์ยังพ่นน้ำมนต์ตามวิชาของเขารออยู่ด้านนอกฮอลล์บวช สิทธิ์ที่ afforded เฉพาะกับเจ้าชายและเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมพิธีภายใน ubosoth ก่อนหน้านี้ [7]พิธียังดำเนินการที่วัดพระแก้วในโอกาสอื่น ๆ เช่นการ โดยวันจักรี (เริ่มบน 6 เมษายน 1782), ชาติวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ก่อตั้งราชวงศ์จักรี สมเด็จ entourage พระบรมวงศานุวงศ์ตลอดจนนายกรัฐมนตรี ข้าราชการในกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานราชการอื่น ๆ อธิษฐานที่วัด [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงต้นสมัยรัตนโกสินทร์, พระแก้วมรกตเคยถูกนำออกมาจากวัดและแห่ไปตามถนนเพื่อบรรเทาเมืองและชนบทของภัยพิบัติต่าง ๆ (เช่นโรคระบาดและโรคอหิวาต์) แต่การปฏิบัตินี้ถูกยกเลิกในช่วงรัชสมัยพระรามสี่เป็นมันก็กลัวว่าภาพจะได้รับความเสียหายในระหว่างขบวนและยังเป็นสายการปฏิบัติของการคิดว่าพระรามจัด "ว่าโรคที่เกิดจากเชื้อโรคไม่ได้โดยวิญญาณชั่วร้ายหรือความไม่พอใจของ พระพุทธรูป ". [2] ภาพยังตำหนิการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลในประเทศไทยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประธานในพิธีเปิดใช้ตามฤดู มันเป็นพิธีกรรมที่สำคัญที่จัดขึ้นที่วัดนี้สามครั้งต่อปีโดยการแต่งกายของเทพที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเริ่มต้นของแต่ละแห่งที่สามฤดูกาล วันที่โหราศาสตร์สำหรับพิธีกรรมในการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลตามอยู่ในวันที่ 1 ข้างแรมเดือนทางจันทรคติ 4, 8 และ 12 (ประมาณเดือนมีนาคมกรกฎาคมและพฤศจิกายน) พระรามริเริ่มพิธีกรรมนี้สำหรับฤดูร้อนและฤดูฝนพระรามสามแนะนำพิธีกรรมสำหรับฤดูหนาว. [2] [12] เสื้อคลุมซึ่งภาพที่ประดับประดาหมายถึงการที่พระสงฆ์และพระมหากษัตริย์ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนของการเน้นบทบาทสัญลักษณ์ "เป็นพระพุทธรูปและพระมหากษัตริย์" ซึ่งบทบาทยังกำชับในพระมหากษัตริย์ไทยอย่างเป็นทางการชุดภาพพระแก้วมรกต. [3] พิธีกรรมการเปลี่ยนแปลงเครื่องแต่งกายจะดำเนินการโดยกษัตริย์ไทยที่เป็น ต้นแบบที่สูงที่สุดของพิธีสำหรับพิธีกรรมทางพุทธศาสนาทั้งหมด ในระหว่างพิธีกษัตริย์คนแรกที่ปีนขึ้นไปยังแท่นทำความสะอาดภาพโดยเช็ดฝุ่นใด ๆ และการเปลี่ยนแปลงผ้าโพกศีรษะทองพระศรีรัตนศาสดาราม พระมหากษัตริย์แล้วบูชาอยู่บริเวณใกล้เคียงในขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมจะดำเนินพิธีกรรมที่ซับซ้อนของการเปลี่ยนเสื้อผ้า. [14] พระมหากษัตริย์ยังสเปรย์รดน้ำเมื่อเรื่องของเขารออยู่ข้างนอกอุโบสถ, สิทธิพิเศษเจ้าตัวก่อนหน้านี้เท่านั้นที่เจ้าชายและเจ้าหน้าที่ที่ได้เข้าร่วมพิธีภายใน อุโบสถได้. [7] พิธีจะดำเนินการยังอยู่ในระดับที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามในโอกาสอื่น ๆ เช่นตามวันจักรี (เริ่มใน 6 เมษายน 1782) เป็นวันหยุดประจำชาติเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ก่อตั้งราชวงศ์จักรี พระมหากษัตริย์และพระราชินี, สิ่งแวดล้อมของพระราชวงศ์เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีเจ้าหน้าที่ในกระทรวงกลาโหมและหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลมีการสวดมนต์ที่วัด. [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงต้นสมัยกรุงเทพฯ พระแก้วมรกตเคยถูกออกจากวัด และแห่ไปตามถนนเพื่อบรรเทาเมืองและชนบทของภัยพิบัติต่าง ๆ ( เช่น โรคระบาดและโรคอหิวาต์ ) อย่างไรก็ตาม การปฏิบัตินี้ถูกยกเลิกไปในช่วงรัชสมัยของรัชกาลที่ 4 และมันก็กลัวว่าภาพจะได้รับความเสียหายในระหว่างพิธีและยังเป็นประโยชน์บรรทัดของการคิดที่ พระราม 4 ที่จัดขึ้น " ว่า โรคที่เกิดจากเชื้อโรคได้ โดยวิญญาณชั่วร้ายหรือความไม่พอใจของพระพุทธเจ้า " . [ 2 ]ภาพยังเครื่องหมายการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลในประเทศไทย มีกษัตริย์เป็นประธานพิธีตามฤดูกาล มันคือพิธีกรรมที่สำคัญที่จัดขึ้นในวัดสามครั้งต่อปี โดยชุดของพระเจ้าคือการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นของแต่ละสามฤดู วันที่โหราศาสตร์สำหรับพิธีกรรมพิธีที่เปลี่ยนฤดู ตามมาเป็น 1 ข้างแรมของเดือนที่ 4 , 8 และ 12 ( ราวๆ เดือนมีนาคม กรกฎาคม และ พฤศจิกายน ) พระราม ฉันเริ่มพิธีกรรมนี้สำหรับฤดูร้อนและฤดูฝน พระราม 3 แนะนำพิธีกรรมสำหรับฤดูหนาว [ 2 ] [ 12 ] เสื้อคลุม ซึ่งภาพที่ประดับประดาเป็นพระกษัตริย์ ขึ้นอยู่กับฤดูกาล เป็นข้อบ่งชี้ชัดเจนของการเน้นบทบาท " สัญลักษณ์ของพระพุทธ และ กษัตริย์ " ซึ่งบทบาทยังสั่งเสียเกี่ยวกับในหลวง ที่เป็นชุดพระแก้วมรกต . [ 3 ] การเปลี่ยนแปลงเครื่องแต่งกายพิธีกรรมดำเนินการโดยในหลวงที่เป็นสูงสุดพิธีกรสำหรับพิธีกรรมชาวพุทธทั้งหมด ในระหว่างพิธี , กษัตริย์องค์แรกปีนขึ้นแท่น ล้างภาพ โดยการเช็ดเก็บฝุ่นใด ๆและการเปลี่ยนแปลงทองประดับวัดพระแก้ว . พระราชาจึงบูชาใกล้เคียงในขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมแสดงพิธีกรรมที่ซับซ้อนของการเปลี่ยนเสื้อผ้า [ 14 ] กษัตริย์สเปรย์น้ำสรงเมื่อพสกนิกรรอด้านนอกพระอุโบสถวัดพระแก้ว , สิทธิพิเศษก่อนหน้านี้เจ้าตัวเพียงเจ้านายและข้าราชการที่เข้าร่วมพิธีภายใน 3 [ 7 ]จะร่วมแสดงในพิธีที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในโอกาสอื่น ๆเช่นโดยวันจักรี ( เริ่มต้นที่ 6 เมษายน 2325 ) , วันหยุดแห่งชาติเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ก่อตั้งราชวงศ์จักรี พระราชาและพระราชินี ผู้ติดตามของราชวงศ์ รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ข้าราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ , สวดมนต์ในวัด [ 2 ]