บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการซ่อมแซมพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปที่เสียหายจากการหลุดร่อน ของโรงเรียนเทศบาล 1 กิตติขจร อำเภอเมือง จังหวัดตาก โดยศึกษาประสิทธิภาพของวัสดุซ่อมแซม 3 ประเภทคือ ซีเมนต์มอร์ตาร์ ซีเมนต์เกร้าท์ และอีพ๊อกซี่ทดสอบกำลังอัดและ กำลังยึดเหนี่ยวศึกษาวัสดุป้องกันความชื้น 2 ประเภทคือ สีน้ำอะครีลิก และซีเมนต์ทากันซึมนำมาทดสอบการป้องกันความชื้น ทดสอบกำลังอัดของแผ่นพื้นก่อนและหลังการซ่อมแซม และศึกษาเทคนิคที่เหมาะสมในการใช้ซ่อมแซมและการป้องกันความชื้นจากผลการศึกษาคุณสมบัติด้านกำลังอัดที่อายุ 28 วันและกำลังยึดเหนี่ยวที่อายุ 7 วันพบว่า ซีเมนต์มอร์ตาร์ ได้แก่ ซิก้าโมโนท็อป 614 ที มีกำลังอัดเท่ากับ 598 kscกำลังยึดเหนี่ยวเท่ากับ 6.52 kscและแลงโก้ 731มีกำลังอัดเท่ากับ527 kscกำลังยึดเหนี่ยวเท่ากับ 0 kscซีเมนต์เกร้าท์ได้แก่ ซิก้าเกร้าท์ 212-11 มีกำลังอัดเท่ากับ 917 kscกำลังยึดเหนี่ยวเท่ากับ 4.34 kscและสแตนดาร์ตเกร้าท์621มีกำลังอัดเท่ากับ 737 kscกำลังยึดเหนี่ยวเท่ากับ 4.28 kscอีพ๊อกซี่ ได้แก่ แลงโก้ 534มีกำลังอัดเท่ากับ 409 kscกำลังยึดเหนี่ยวเท่ากับ 8.33 kscและซิก้าดัวร์ -31มีกำลังอัดเท่ากับ 484 kscและกำลังยึดเหนี่ยวเท่ากับ 13.04 kscจากผลการศึกษาการป้องกันความชื้นพบว่า วัสดุที่ป้องกันความชื้นได้ดีที่สุดคือ จระเข้เฟล็กชิลด์ส่วนวัสดุที่ยอมให้น้ำระเหยออกจากตัวอย่างได้ดีที่สุดคือ สีน้ำอะครีลิกทีโอเอเอ็กซ์ตร้าชิลด์จากผลการศึกษาทั้งหมดสรุปได้ว่า วัสดุที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการซ่อมแซม คือ ซิก้าโมโนท๊อป 614 ที วัสดุที่เหมาะสำหรับนำมาใช้ในการป้องกันความชื้นคือ สีน้ำอะครีลิกทีโอเอเอ็กซ์ตร้าชิลด์ และเทคนิคที่ใช้ในการซ่อมแซมที่แนะนำในโครงงานนี้มีความเหมาะสมในการซ่อมแซมการเสียหายที่เกิดการหลุดร่อน