short-wave UV, in addition to occas

short-wave UV, in addition to occasional blue or red phosphorescence (King et al., 1998). Unlike the DiamondView, gemological UV lamps emit lowerenergy UV radiation and the phosphorescence of type IIb diamonds is not always visible. A few aspects of rough diamond shape and surface texture are strongly indicative of type as well. For example, sorters have recognized that, unlike type I stones, type II diamond crystals typically occur in irregular or flattened shapes and do not exhibit crystallographic faces (Wilks and Wilks, 1991). Sunagawa (2001) suggested that this is due to the latter experiencing greater degrees of fracturing and breakage in their ascent to the earth’s surface during eruptions of kimberlitic or lamproitic magmas, whereas type I diamonds tend to retain their original crystal morphology during magma transport.
Multiple Tests are Optimal When Investigating Diamond Type. Each of the properties and gemological tools mentioned above provides some indication of diamond type without the use of an FTIR spectrometer. They are most powerful, however, when used in combination. For example, type II diamonds can easily be distinguished from type I
on the basis of short-wave UV transparency and strain patterns. Types IIa and IIb can easily be separated on the basis of electrical conductivity. The largest group of natural diamonds, type I, is a bit harder to subdivide, but with practice it is still usually possible. Type Ia diamonds commonly show 415 nm or “cape” lines in the spectroscope, whereas type Ib diamonds often show strong general absorption from

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

UV คลื่นสั้น นอกจากเป็นครั้งคราวสีน้ำเงิน หรือแดง phosphorescence (กษัตริย์ร้อยเอ็ด al., 1998) ซึ่งแตกต่างจาก DiamondView โคมไฟ UV gemological คายรังสี lowerenergy และ phosphorescence ชนิด IIb เพชรไม่สามารถเห็นได้เสมอ บางด้านของพื้นผิวรูปร่างและผิวของเพชรหยาบขอส่อชนิดเช่นกัน ตัวอย่าง sorters ได้รับรู้ว่า ต่างจากชนิด ฉันหิน เพชร II ชนิดผลึกเกิดขึ้นในรูปทรงที่ไม่สม่ำเสมอ หรือล... และแสดงหน้า crystallographic (Wilks และ Wilks, 1991) โดยทั่วไป Sunagawa (2001) แนะนำว่า นี้เนื่องจากหลังพบองศามากกว่า fracturing และเคมีฯ ในการขึ้นสู่พื้นผิวของโลกในระหว่างการปะทุของ kimberlitic หรือ lamproitic magmas ในขณะที่ชนิดที่ฉันเพชรมักจะรักษาสัณฐานวิทยาของคริสตัลเดิมในระหว่างการขนส่งหินหนืดทดสอบหลายดีที่สุดเมื่อตรวจสอบเพชรชนิด แต่ละคุณสมบัติและเครื่องมือ gemological กล่าวให้บ่งชี้บางชนิดเพชรโดยใช้สเปกโตรมิเตอร์ FTIR จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้ร่วมกัน ตัวอย่าง ชนิดเพชร II สามารถได้แตกต่างไปจากชนิดของผมon the basis of short-wave UV transparency and strain patterns. Types IIa and IIb can easily be separated on the basis of electrical conductivity. The largest group of natural diamonds, type I, is a bit harder to subdivide, but with practice it is still usually possible. Type Ia diamonds commonly show 415 nm or “cape” lines in the spectroscope, whereas type Ib diamonds often show strong general absorption from <400 to ~450 nm. The presence of needle-like inclusions in type Ib diamond helps reinforce the diamond type evaluation. Table 1 provides a summary of the technical and gemological information discussed in this article for representative natural diamonds of each type. Shigley et al. (2004) provide an excellent reference chart for HPHT-grown synthetic diamonds, and Wang et al. (2007) gives information for CVD synthetics.CONCLUSIONS Recent advances in diamond growth and treatment have led to a greater dependence on sophisticated analytical instrumentation to distinguish natural from synthetic and natural-color from treated-color diamonds. However, we have shown that many of the standard tools used by gemologists in the trade

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

UV คลื่นสั้นที่นอกเหนือไปจากฟอสฟอรัสเป็นครั้งคราวสีฟ้าหรือสีแดง (กิ่ง et al., 1998) ซึ่งแตกต่างจาก DiamondView โคมไฟยูวีอัญมณีเปล่งรังสียูวี lowerenergy และฟอสฟอรัสของเพชรชนิด IIb ไม่เคยมองเห็น บางแง่มุมของรูปทรงเพชรหยาบและพื้นผิวเป็นอย่างมากที่บ่งบอกถึงประเภทเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น sorters ได้รับการยอมรับว่าแตกต่างจากชนิดที่ก้อนหินชนิด II ผลึกเพชรมักจะเกิดขึ้นในรูปทรงที่ผิดปกติหรือบี้และไม่แสดงใบหน้า crystallographic (วิลก์สและวิลก์ส 1991) Sunagawa (2001) ชี้ให้เห็นว่านี้เป็นเพราะหลังประสบองศาที่มากขึ้นของพร่าพรายและความแตกแยกในการขึ้นของพวกเขาไปยังพื้นผิวของโลกในระหว่างการลุกฮือของ magmas kimberlitic หรือ lamproitic ขณะที่ประเภทฉันเพชรมีแนวโน้มที่จะรักษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาผลึกเดิมของพวกเขาในระหว่างการขนส่งหนืด.
หลาย การทดสอบที่เหมาะสมเมื่อตรวจสอบชนิดของเพชร แต่ละคุณสมบัติและเครื่องมืออัญมณีดังกล่าวข้างต้นมีข้อบ่งชี้ของเพชรบางประเภทโดยไม่ต้องใช้สเปกโตรมิเตอร์ FTIR พวกเขาจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่เมื่อนำมาใช้ในการรวมกัน ตัวอย่างเช่นพิมพ์เพชรครั้งที่สองสามารถจะแตกต่างไปจากประเภทที่อยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใส UV คลื่นสั้นและรูปแบบความเครียด
ชนิด IIa และ IIb สามารถจะแยกออกจากกันบนพื้นฐานของการนำไฟฟ้า กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของเพชรธรรมชาติประเภทฉันเป็นบิตยากที่จะแบ่ง แต่กับการปฏิบัติก็ยังคงเป็นไปได้มักจะ เพชรประเภท Ia ทั่วไปแสดง 415 นาโนเมตรหรือ "แหลม" บรรทัดในสเปกโตรสโคปในขณะที่ประเภทเพชร Ib มักจะแสดงการดูดซึมทั่วไปที่แข็งแกร่งจาก <400 ~ 450 นาโนเมตร การปรากฏตัวของการรวมเหมือนเข็มเพชรชนิด Ib จะช่วยเสริมสร้างการประเมินเพชรชนิด ตารางที่ 1 ให้สรุปข้อมูลทางเทคนิคและอัญมณีที่กล่าวถึงในบทความนี้สำหรับเพชรธรรมชาติที่เป็นตัวแทนของแต่ละประเภท Shigley et al, (2004) ให้แผนภูมิการอ้างอิงที่ดีสำหรับการปลูก HPHT เพชรสังเคราะห์และวัง et al, (2007) ให้ข้อมูลสำหรับการสังเคราะห์ CVD.
สรุปความก้าวหน้าล่าสุดในการเจริญเติบโตและการรักษาเพชรได้นำไปสู่การพึ่งพาอาศัยกันมากขึ้นในเครื่องมือการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนเพื่อให้เห็นความแตกต่างจากธรรมชาติสังเคราะห์และสีธรรมชาติจากเพชรได้รับการรักษาสี แต่เราได้แสดงให้เห็นว่าหลายเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้โดยนักอัญมณีศาสตร์ในการค้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รังสีคลื่นสั้น , นอกจากเป็นครั้งคราวสีฟ้าหรือสีแดงเรืองแสง ( King et al . , 1998 ) ซึ่งแตกต่างจาก diamondview , โคมไฟยูวี lowerenergy อัญมณีเปล่งรังสี UV และการเรืองแสงของเพชรคุณภาพ ประเภท ไม่ เคย เห็น บางแง่มุมของรูปร่างเพชรหยาบและผิวเนื้อขอชี้แนะชนิดเช่นกัน ตัวอย่างเช่น เครื่องนับได้ว่าแตกต่างจากชนิดที่หินประเภทที่ 2 เพชรคริสตัลมักจะเกิดขึ้นในรูปร่างผิดปกติหรือแบนและไม่แสดงใบหน้า ( และทางวิลวิล , 1991 ) ซูนากาว่า ( 2001 ) ชี้ให้เห็นว่า นี่คือเนื่องจากหลังประสบองศามากขึ้น fracturing และความแตกแยกในการขึ้นของพื้นผิวของโลกในการปะทุของ kimberlitic หรือ magmas lamproitic ,ส่วนประเภทเพชรมีแนวโน้มที่จะรักษาโครงสร้างเดิมของพวกเขาในระหว่างการขนส่งคริสตัลหิน .
การทดสอบหลายที่ดีที่สุดเมื่อตรวจสอบเพชรชนิด แต่ละคุณสมบัติและเครื่องมืออัญมณีดังกล่าวข้างต้นมีข้อบ่งชี้ของประเภทเพชรโดยไม่ต้องใช้ของ FTIR สเปกโตรมิเตอร์ พวกเขาจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้ในการรวมกัน ตัวอย่างเช่นเพชร 2 ชนิดที่สามารถจะแตกต่างจากประเภท
บนพื้นฐานของความโปร่งใส และคลื่น UV สั้นรูปแบบสายพันธุ์ ชนิด IIa และคุณภาพ สามารถแยกบนพื้นฐานของค่าการนําไฟฟ้า ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มของเพชรธรรมชาติ ประเภท ฉันเป็นบิตยากที่จะแบ่ง แต่กับการปฏิบัติยังคงเป็นปกติที่สุดเพชร IA ประเภทปกติจะแสดง 415 nm หรือ " แหลม " เส้นในการสนทนา ในขณะที่เพชร IB ประเภทมักจะแสดงการดูดซึมทั่วไปที่แข็งแกร่งจาก < 400 ~ 450 nm . การปรากฏตัวของเข็ม เช่น สารประเภท Ib เพชรช่วยเสริมสร้างประเภทเพชรประเมินผลตารางที่ 1 แสดงข้อมูลสรุปของทางเทคนิคและ Gemological ข้อมูลที่กล่าวถึงในบทความนี้สำหรับตัวแทนธรรมชาติเพชรในแต่ละประเภท shigley et al . ( 2004 ) ให้แผนภูมิอ้างอิงที่ดีเยี่ยมสำหรับ hpht โตเพชรสังเคราะห์และ Wang et al . ( 2007 ) ให้ข้อมูลสำหรับ CVD สังเคราะห์ .
ข้อสรุปล่าสุดความก้าวหน้าในการรักษามีเพชร และนำไปสู่การเพิ่มการพึ่งพาเครื่องมือวิเคราะห์ที่ซับซ้อนเพื่อแยกแยะความแตกต่างจากธรรมชาติและสังเคราะห์สีธรรมชาติจากการรักษาเพชรสี อย่างไรก็ตาม เราพบว่าหลายมาตรฐานของเครื่องมือที่ใช้โดยนักอัญมณีศาสตร์ชาวในการค้า