Red drupe grapes can produce white

Red drupe grapes can produce white wine if they are quickly pressed and the juice not allowed to be in contact with the skins. The color is mainly due to plant pigments, notably phenolic compounds (anthocyanidins, tannins, etc.). The color depends on the presence of acids in the wine. It is altered with wine aging by reactions between different active molecules present in the wine, these reactions generally giving rise to a browning of the wine, leading from red to a more tawny color. The use of a wooden barrel (generally oak barrels) in aging also affects the color of the wine.

The color of a wine can be partly due to co-pigmentation of anthocyanidins with other non-pigmented flavonoids or natural phenols (cofactors or "copigments").[1]

Rosé wine is made by the practice of saignée (exposing wine to red grape skins for only a short period of time in order to give it a lighter feel closer to that of white wine) or by blending a white wine with a red wine.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

องุ่นแดง drupe สามารถผลิตไวน์ขาวถ้าพวกเขาถูกกดอย่างรวดเร็วและน้ำไม่ให้สัมผัสกับผิวหนัง สีเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากโรงงานสี ยวดม่อฮ่อม (anthocyanidins, tannins ฯลฯ) สีขึ้นอยู่กับสถานะของกรดในไวน์ มีการเปลี่ยนแปลงกับไวน์อายุ โดยปฏิกิริยาระหว่างโมเลกุลที่ใช้งานแตกต่างกันอยู่ในไวน์ ปฏิกิริยาเหล่านี้โดยทั่วไปให้เพิ่มขึ้นเป็น browning ไวน์ ชั้นนำจากแดงสีผู้เดินทางมากขึ้น ใช้ถังเป็นไม้ (ถังไม้โอ๊กโดยทั่วไป) ในอายุยังมีผลต่อสีของไวน์

สีของไวน์ได้บางส่วนเนื่องจากผิวคล้ำร่วมของ anthocyanidins flavonoids ที่ไม่มีสีอื่นหรือ phenols ธรรมชาติ (ใช้โคแฟกเตอร์หรือ "copigments")[1]

Rosé ทำไวน์ โดยการปฏิบัติของ saignée (เปิดเผยกับสกินองุ่นแดงไวน์ในเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อที่จะให้ความรู้สึกเบาใกล้กับไวน์ขาว) หรือผสมไวน์ขาวกับไวน์แดง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

องุ่นแดง drupe สามารถผลิตไวน์ขาวถ้าพวกเขาถูกกดอย่างรวดเร็วและน้ำผลไม้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในการติดต่อกับสกิน สีเป็นหลักเนื่องจากเม็ดสีจากพืชโดยเฉพาะอย่างยิ่งสารฟีนอล (anthocyanidins, แทนนิน ฯลฯ ) สีขึ้นอยู่กับการปรากฏตัวของกรดในไวน์ มันคือการเปลี่ยนแปลงกับอายุไวน์จากปฏิกิริยาระหว่างโมเลกุลที่ใช้งานที่แตกต่างกันอยู่ในไวน์ปฏิกิริยาเหล่านี้มักจะก่อให้เกิดสีน้ำตาลของไวน์ชั้นนำจากสีแดงเป็นสีน้ำตาลมากขึ้น การใช้ถังไม้ (โดยทั่วไปถังไม้โอ๊ค) ในผู้สูงอายุยังมีผลต่อสีของไวน์สีของไวน์จะเป็นส่วนหนึ่งจากการร่วมสีของ anthocyanidins กับ flavonoids อื่น ๆ ที่ไม่ใช่สีหรือฟีนอลธรรมชาติ (ปัจจัยหรือ "copigments ".) [1] ไวน์Roséจะทำโดยการปฏิบัติของsaignée (เปิดเผยไวน์สกินองุ่นแดงเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ของเวลาในการที่จะให้ความรู้สึกที่เบาใกล้กับที่ของไวน์ขาว) หรือโดยการผสมไวน์ขาว กับไวน์แดง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

องุ่นดรูปสีแดงสามารถผลิตไวน์ขาว ถ้าพวกเขาถูกกดอย่างรวดเร็ว และน้ำไม่ควรสัมผัสกับผิวหนัง สีเป็นหลัก เนื่องจากพืชสี โดยเฉพาะสารประกอบฟีนอล ( แอนโธไซยานิดินแทนนิน ฯลฯ ) สีขึ้นอยู่กับสถานะของกรดในไวน์ มันคือการเปลี่ยนแปลงกับไวน์อายุโดยปฏิกิริยาระหว่างโมเลกุลที่ใช้งานต่าง ๆ ที่มีอยู่ในไวน์ปฏิกิริยาเหล่านี้โดยทั่วไปให้สูงขึ้นเพื่อการเกิดสีน้ำตาลของไวน์ชั้นนำจากสีแดงเป็นสีสีน้ำตาลเพิ่มเติม ใช้บาร์เรลไม้ ( โดยทั่วไปในถังไม้โอ๊ก ) อายุยังมีผลต่อสีของไวน์

สีไวน์จะเป็นส่วนหนึ่งเนื่องจาก Co pigmentation ของแอนโธไซยานินที่มีสารฟลาโวนอยด์ หรือ บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สีธรรมชาติ ( ปัจจัยหรือ " copigments " [ 1 ]

)Ros éไวน์ที่เกิดจากการปฏิบัติของ saign é e ( เปิดเผยผิวองุ่นแดง ไวน์เพียงช่วงเวลาสั้น ๆเพื่อให้มันจางลง รู้สึกใกล้ชิดกับที่ของไวน์ขาว ) หรือโดยการผสมไวน์ขาวกับไวน์แดง