Case Study 2Karen sat beside me at

Case Study 2
Karen sat beside me at the piano. I suggested we do some breathing together before singing. Singing
was very risky for Karen, but she felt it would benefit her. As a child, she tried to avoid her mother's
physical attacks and her father's verbal attacks by making herself as invisible as possible. She was thin
and wraithlike and spoke in a quiet, tense voice. Being seen or heard was dangerous while growing up,
and even though she yearned to be listened to and acknowledged, the old fears were deeply embedded
in her psyche.
We began to breathe together, sipping the air in slowly as if through a straw, then exhaling on
an "s-s-s" sound, like a balloon slowly deflating. As we began the second round, she looked at me and
said, "I'm flying off," shaking her body as if she had chills. Karen remembered "blanking out a lot" as a
child. When her mother hit and kicked her, she would leave her body and go off into her own world. This
dissociative defense that initially protected her psyche from annihilation no longer served her, but had
become habitual and took over in times of stress and anxiety. I asked her what would help her feel safer
and she said, "Close to the ground feels safer ... to sit on the floor." I grabbed two pillows and we sat
on the floor facing each other.
I suggested that for today we stay with the breathing and work on ways to help her stay in her
body. We began the breathing exercise again, and I asked her to slow down the process and tell me
everything she was experiencing. She started feeling anxious on the exhalation and felt herself starting to
"go up." I suggested we use movement to ground her. We raised our arms on the inhalation and on the
exhalation we pretended to be pulling a heavy bar down. We kept eye contact throughout. After several
attempts, she was able to stay present during the exhalation. She said the movement and the support she
experienced through moving together and keeping eye contact was very helpful. "I felt you wouldn't let
me go off-I started to. I was very scared but I stayed with you .... I felt the breath going down into
my lower body-scary, very scary there. That's where the terror lives. I couldn't stay there too long, but
I didn't fly off! That's good. I'm getting better."
Breathing exercise. Another breathing exercise that I often use, especially with clients who suffer
from anxiety, is one that I learned from my yoga teacher. It is called alternate nostril breathing. I usually
7Cj
do the exercise with a client after I have explained and demonstrated it. We prepare by sitting opposite
each other on chairs and keeping the head and spine in a straight, upright position. The feet are planted
firmly on the ground. We begin by bringing the right hand to the nose and covering the right nostril with
the right thumb and inhaling through the left nostril. We then cover the left nostril with the right index
finger and exhale through the right nostril. We keep the index finger covering the left nostril and inhale
through the right nostril. Again we cover the right nostril with the right thumb and exhale through the
left nostril. We then inhale and switch sides so that we are exhaling and inhaling through one nostril
then switching to the opposite nostril and continuing to exhale and inhale on that side. We continue this
breathing pattern for several minutes.
When clients become comfortable with this exercise, Imay suggest a more advanced version in which
the exhalation is prolonged. We count to 5 as we inhale, then count to 10 as we exhale. The idea is to
double the time given to the exhalation. Another variation is to count to 5 on the inhalation, hold the
breath (both nostrils closed) for a count of 5, and then exhale while counting to 10. Imagery can be
useful, such as asking clients to imagine they are inhaling their favorite color or fragrance or something
they need to take in and then imagine they are exhaling stress, stale air, or something they want to
release.
Exhalation is the most relaxing part of the breath cycle and promotes the release of feelings that are
being held onto. Deep exhalation empties the body of all stale air and makes it ready to receive fresh air.
The nervous system is quieted and the body begins to relax and come to a state of relative balance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรณีศึกษา 2กะเหรี่ยงนั่งข้างผมที่เปียโน แนะนำเราทำบางหายใจร่วมกันก่อนที่จะร้องเพลง ร้องเพลงไม่มีความเสี่ยงมากสำหรับกะเหรี่ยง แต่เธอรู้สึกว่า มันจะได้รับประโยชน์เธอ เป็นเด็ก เธอพยายามหลีกเลี่ยงของแม่ของเธอโจมตีทางกายภาพและพ่อของเธอโจมตีด้วยวาจา โดยทำเป็นมองไม่เห็นแก่ตัวเอง เธอบางและ wraithlike และพูดในเสียงเงียบ ตึงเครียด การเห็น หรือได้ยินเป็นอันตรายขณะขึ้นและแม้ว่าเธอ yearned ที่จะฟัง และยอมรับ ความกลัวเก่าถูกฝังลึกอยู่ใน psyche ของเธอเราเริ่มหายใจกัน จิบอากาศในช้าถ้าผ่านฟาง แล้ว exhaling ในการ "s-s-s" เสียง เช่นบอลลูนช้า deflating ขณะที่เราเริ่มรอบสอง เธอมองที่ฉัน และกล่าวว่า "ฉันกำลังบินออก สั่นร่างกายของเธอว่าเธอมี chills คาเรนจำ "blanking ออกมาก" เป็นการเด็ก เมื่อแม่ของเธอตี และเตะเธอ เธอจะออกจากร่างกายของเธอ และไปปิดโลกของตนเอง นี้ป้องกัน dissociative ที่ป้องกัน psyche เธอเริ่มจากการทำลายล้างไม่เสิร์ฟเธอ แต่มีเคยเป็น และเอาไปทั่วในเวลาของความเครียดและวิตกกังวล ถามเธอว่าจะช่วยให้เธอรู้สึกปลอดภัยและเธอกล่าวว่า, "ปิดถึงพื้นรู้สึกปลอดภัย...กับนั่งบนพื้น" ผมคว้าหมอนสอง และเรานั่งชั้นหันหน้าเข้าหากันผมแนะนำว่า สำหรับวันนี้ เราอยู่กับการหายใจ และทำงานในวิธีที่จะช่วยเธออยู่เธอร่างกาย เราเริ่มออกกำลังกายหายใจอีกครั้ง และฉันขอให้ชะลอการ และบอกทุกเธอประสบ เธอเริ่มรู้สึกกังวลที่ exhalation และรู้สึกว่าตัวเองเริ่ม"ไปขึ้น" แนะนำเราใช้เคลื่อนไหวภาคพื้นดินของเธอ เรายกแขนของเราที่ดม และในการexhalation เรา pretended เพื่อจะดึงบาร์หนักลง เราเก็บตาตลอด หลังจากหลายความพยายาม เธอจะพักอยู่ในระหว่างการ exhalation เธอกล่าวว่า การเคลื่อนไหวและสนับสนุนเธอมีประสบการณ์ผ่านการย้ายกัน และรักษาตาได้ดีมาก "ฉันรู้สึกว่า คุณจะไม่ให้ผมไปปิด-ฉันเริ่มที่จะ ผมกลัวมาก แต่ผมไปอยู่กับคุณ... ฉันรู้สึกว่าลมหายใจที่เข้าไปลงฉันต่ำร่างกายน่ากลัว น่ากลัวมากมี นั่นคือที่อยู่ในความหวาดกลัว ฉันไม่สามารถมีอยู่นานเกินไป แต่ผมไม่ได้บินออก ดีจัง ฉันได้รับดีขึ้น"การหายใจการออกกำลังกาย หายใจออกที่เรามักใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกค้าที่ประสบจากความวิตกกังวล เป็นหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากครูโยคะของฉัน จะเรียกว่าหายใจ nostril อื่น ฉันมักจะ7Cjไม่ออกกำลังกายกับไคลเอนต์หลังจากที่ผมได้อธิบาย และสาธิตเรื่อง เราจัดเตรียม โดยนั่งตรงข้ามกันบนเก้าอี้และให้ศีรษะและกระดูกสันหลังในตำแหน่งตรง ตรงนั้น เท้าจะปลูกบนพื้นดินอย่างแน่นหนา เราเริ่มต้น ด้วยการนำมือขวาจมูก และครอบคลุม nostril ขวาด้วยนิ้วหัวแม่มือขวาและดมผ่าน nostril ซ้าย เราครอบคลุม nostril ซ้าย มีดัชนีเหมาะสมแล้วนิ้วและหายใจออกผ่าน nostril ขวา เราให้นิ้วชี้ซ้าย nostril และสูดผ่าน nostril ขวา อีกเราครอบคลุม nostril ขวา ด้วยนิ้วหัวแม่มือขวา และส่งออกมาผ่านการnostril ซ้าย เราแล้วสูดดม และสลับข้างเพื่อให้เรามี exhaling และดมผ่าน nostril หนึ่งแล้ว สลับไปที่ nostril ตรงข้าม และต่อการส่งออกมา และสูดดมที่ด้าน ต่อไปนี้รูปแบบการหายใจสำหรับหลายนาทีเมื่อลูกค้าจะสะดวกในการออกกำลังกายนี้ Imay แนะนำรุ่นอื่น ๆ ที่exhalation ที่อยู่เป็นเวลานาน เรานับไป 5 เราสูดดม แล้ว นับ 10 เราส่งออกมา ความคิดคือการคู่เวลาให้ exhalation ที่ รูปแบบอื่นจะนับ 5 ในดม ระงับการลมหายใจ (จมูกทั้งสองปิด) สำหรับการตรวจนับ 5 และหายใจออกแล้วในขณะที่นับ 10 ภาพสามารถประโยชน์ เช่นขอให้ลูกค้าคิดว่าดมสีของพวกเขาชื่นชอบ หรือกลิ่น หรือสิ่งพวกเขาจำเป็น ต้องใช้แล้ว จินตนาการว่า พวกเขาจะ exhaling ความเครียด แอร์เก่า หรือสิ่งที่พวกเขาต้องการปล่อยExhalation อยู่วงจรลมหายใจของความสุข และส่งเสริมของความรู้สึกที่ถูกจับไว้ ลึก exhalation ล้างร่างกายอากาศเก่าทั้งหมด และทำให้พร้อมที่จะได้รับอากาศบริสุทธิ์Quieted ระบบประสาท และร่างกายเริ่มผ่อนคลาย และมาของดุลสัมพันธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรณีศึกษา 2
กะเหรี่ยงนั่งข้างๆผมที่เปียโน ผมแนะนำเราบางหายใจร่วมกันก่อนที่จะร้องเพลง การร้องเพลง
เป็นความเสี่ยงมากสำหรับชาวกะเหรี่ยง แต่เธอรู้สึกว่ามันจะได้รับประโยชน์ของเธอ เป็นเด็กเธอพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการที่แม่ของเธอ
โจมตีทางกายภาพและการโจมตีด้วยวาจาของพ่อของเธอด้วยการทำให้ตัวเองเป็นที่มองไม่เห็นที่เป็นไปได้ เธอเป็นคนที่บาง
และ wraithlike และพูดในที่เงียบสงบเสียงเครียด การมองเห็นหรือได้ยินเป็นอันตรายในขณะที่เติบโตขึ้น
และแม้ว่าเธอปรารถนาที่จะฟังและยอมรับความกลัวเก่าถูกฝังลึกอยู่
ในจิตใจของเธอ.
เราเริ่มที่จะหายใจด้วยกันจิบอากาศในช้าเช่นถ้าผ่านฟางแล้ว หายใจออกใน
"sss" เสียงเหมือนลูกโป่งช้ายวบ ขณะที่เราเริ่มรอบที่สองที่เธอมองมาที่ผมและ
พูดว่า "ฉันบินออกจาก" เขย่าร่างของเธอราวกับว่าเธอมีอาการหนาวสั่น กะเหรี่ยงจำ "blanking ออกมาก" เป็น
เด็ก เมื่อแม่ของเธอตีและเตะของเธอเธอจะออกจากร่างกายของเธอและออกไปสู่โลกของเธอเอง นี้
ป้องกันทิแรกที่ได้รับการคุ้มครองจิตใจของเธอจากการทำลายล้างหน้าที่ไม่มีเธออีกต่อไป แต่
กลายเป็นนิสัยและเข้ามาในช่วงเวลาของความเครียดและความวิตกกังวล ฉันถามเธอว่าสิ่งที่จะช่วยให้เธอรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
และเธอกล่าวว่า "ปิดลงไปที่พื้นรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น ... ที่จะนั่งอยู่บนพื้น". ผมคว้าสองหมอนและเรานั่ง
อยู่บนพื้นหันหน้าเข้าหากัน.
ผมแนะนำว่าสำหรับวันนี้เราอยู่กับการหายใจและการทำงานในวิธีการที่จะช่วยให้เธออยู่ในตัวเธอ
ร่างกาย เราเริ่มต้นการออกกำลังกายการหายใจอีกครั้งและผมขอให้เธอชะลอกระบวนการและบอกฉัน
ทุกอย่างที่เธอกำลังประสบ เธอเริ่มรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการหายใจออกและรู้สึกว่าตัวเองเริ่มที่จะ
"ขึ้นไป." ผมแนะนำเราใช้การเคลื่อนไหวของเธอกับพื้น เรายกแขนของเราในการสูดดมและ
หายใจออกเราแกล้งทำเป็นดึงบาร์หนักลง เราเก็บสบตาตลอด หลังจากหลาย
ความพยายามที่เธอก็สามารถที่จะอยู่ในระหว่างการหายใจออก เธอกล่าวว่าการเคลื่อนไหวและการสนับสนุนที่เธอ
มีประสบการณ์ผ่านการย้ายเข้าด้วยกันและการรักษาติดต่อตาเป็นประโยชน์มาก "ผมรู้สึกว่าคุณจะไม่ปล่อยให้
ฉันไปออกผมเริ่มที่จะ. ผมกลัวมาก แต่ผมอยู่กับคุณ .... ผมรู้สึกว่าลมหายใจลงไป
ที่ต่ำกว่าร่างกายของฉันน่ากลัวน่ากลัวมากมี. นั่นคือสิ่งที่หวาดกลัว ชีวิต. ฉันไม่สามารถอยู่ที่นั่นนานเกินไป แต่
ผมไม่ได้บินออก! ที่ดี. ฉันได้รับที่ดีกว่า. "
การออกกำลังกายการหายใจ การออกกำลังกายการหายใจอื่นที่ฉันมักจะใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกค้าที่ประสบ
จากความวิตกกังวลเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้จากครูโยคะของฉัน มันถูกเรียกว่ารูจมูกหายใจอื่น ฉันมักจะ
7Cj
จะออกกำลังกายกับลูกค้าหลังจากที่ผมได้อธิบายและแสดงให้เห็นมัน โดยเราได้เตรียมนั่งตรงข้าม
กันบนเก้าอี้และการเก็บรักษาที่ศีรษะและกระดูกสันหลังในตรงตำแหน่งตั้งตรง ฟุตที่มีการปลูก
แน่นบนพื้นดิน เราเริ่มต้นโดยนำมือข้างขวาจมูกและครอบคลุมรูจมูกขวาด้วย
นิ้วหัวแม่มือขวาและสูดดมผ่านรูจมูกด้านซ้าย จากนั้นเราจะครอบคลุมรูจมูกด้านซ้ายที่มีดัชนีขวา
นิ้วมือและหายใจออกทางรูจมูกขวา เราให้นิ้วชี้ครอบคลุมรูจมูกด้านซ้ายและสูดดม
ผ่านรูจมูกขวา อีกครั้งเราครอบคลุมรูจมูกขวาด้วยนิ้วหัวแม่มือขวาและหายใจออกทาง
รูจมูกด้านซ้าย จากนั้นเราจะหายใจและสลับด้านเพื่อที่เรากำลังหายใจออกและหายใจเข้าผ่านรูจมูก
แล้วสลับไปที่รูจมูกตรงข้ามและต่อเนื่องในการหายใจออกและหายใจในด้านที่ เรายังคงนี้
รูปแบบการหายใจเป็นเวลาหลายนาที.
เมื่อลูกค้ากลายเป็นความสะดวกสบายกับการออกกำลังกายนี้ Imay แนะนำรุ่นที่สูงขึ้นในการที่
หายใจออกเป็นเวลานาน เรานับถึง 5 ในขณะที่เราหายใจแล้วนับถึง 10 ในขณะที่เราหายใจออก ความคิดที่จะ
เป็นสองเท่าของเวลาที่กำหนดในการหายใจออก รูปแบบหนึ่งคือการนับถึง 5 เมื่อสูดดมถือ
ลมหายใจ (จมูกทั้งสองปิด) สำหรับการนับ 5 และจากนั้นหายใจออกขณะที่การนับถึง 10 Imagery สามารถเป็น
ประโยชน์เช่นการขอให้ลูกค้าที่จะคิดว่าพวกเขาได้รับการสูดดมสีที่ชื่นชอบของพวกเขา หรือกลิ่นหอมหรือสิ่งที่
พวกเขาจำเป็นต้องใช้เวลาในการแล้วคิดว่าพวกเขาจะหายใจออกความเครียดอากาศค้างหรือสิ่งที่พวกเขาต้องการที่จะ
ปล่อย.
หายใจออกเป็นส่วนที่ผ่อนคลายมากที่สุดของวงจรลมหายใจและส่งเสริมการเปิดตัวของความรู้สึกที่
ถูกจัดขึ้นบน หายใจออกลึกเปล่าร่างกายของอากาศเก่าและทำให้มันพร้อมที่จะรับอากาศบริสุทธิ์.
ระบบประสาทจะเงียบและร่างกายเริ่มที่จะผ่อนคลายและมาถึงสถานะของความสมดุลของญาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรณีศึกษาที่ 2
คาเรนนั่งข้างฉันในเปียโน ผมแนะนำให้เราทำบางอย่างได้หายใจกันก่อนร้องเพลง ร้องเพลง
คือความเสี่ยงมากสำหรับคาเรน แต่ก็รู้สึกจะเป็นประโยชน์ต่อเธอ เป็นเด็กเธอพยายามหลีกเลี่ยงการโจมตีทางกายภาพ
แม่ของเธอและพ่อของเธอด้วยการโจมตีโดยทำให้ตัวเองล่องหน เท่าที่เป็นไปได้ เธอผอม
wraithlike และพูดในกาลเงียบเสียงการเห็นหรือได้ยินอันตรายในขณะที่เติบโตขึ้น
และแม้ว่าเธอต้องการจะฟังและยอมรับ , ความกลัวเก่าถูกฝังลึกอยู่ในจิตใจของเธอ
.
เราเริ่มหายใจด้วยกัน จิบอากาศช้าๆราวกับว่าผ่านฟาง แล้วหายใจออกใน
" s-s-s " เสียงเหมือน บอลลูนค่อยๆแฟบไปแล้ว ในขณะที่เราเริ่มรอบที่สอง เธอมองฉันแล้ว
กล่าวว่า " ผมกำลังจะบินไป" เขย่าร่างของเธอ ราวกับว่าเธอหนาวสั่น คาเรนจำได้ " เจาะออกมามาก " เป็น
เด็ก เมื่อแม่ของเธอตีและเตะเธอ เธอจะทิ้งศพเธอ และออกไปในโลกของตัวเอง ป้องกันการสูญเสียนี้
ที่เริ่มคุ้มครองจิตใจของเธอจากการทำลายล้างไม่รับใช้เธอ แต่ได้
กลายเป็นนิสัยและยึดในช่วงเวลาของความเครียดและความวิตกกังวล ผมถามเธอว่า จะช่วยให้เธอรู้สึกปลอดภัย
แล้วเธอก็บอกว่า " ใกล้พื้นดินรู้สึกปลอดภัย . . . . . . . นั่งบนพื้น ฉันคว้าหมอนสองใบ และเรานั่ง
บนพื้นหันแต่ละอื่น ๆ .
ผมแนะนำว่าวันนี้เราอยู่กับการหายใจ และการทำงานในวิธีที่จะช่วยเธออยู่ในตัวเธอ

เราเริ่มฝึกการหายใจอีกครั้ง และถามเธอเพื่อชะลอกระบวนการและบอกฉัน
ทุกอย่างที่เธอประสบเธอเริ่มรู้สึกกังวลและรู้สึกว่าตัวเองเริ่มบน exhalation

" ไปสิ " ฉันแนะนำให้เราใช้ขบวนการพื้นดินเธอ เรายกแขนของเราในการหายใจเข้าและหายใจออก
พวกเราแกล้งทำเป็นดึงบาร์หนักลง เราเก็บไว้ในสายตาตลอด หลังจากพยายามหลาย
, เธอสามารถอยู่กับปัจจุบันขณะหายใจออก เธอกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวและสนับสนุนเธอ
มีประสบการณ์ผ่านย้ายเข้าด้วยกันและรักษาติดต่อตาเป็นประโยชน์อย่างมาก " ผมรู้สึกว่าคุณจะไม่ปล่อยให้
ฉันไป off-i เริ่ม . ฉันกลัวมากแต่ฉันอยู่กับคุณ . . . . . . . ฉันรู้สึกว่าลมหายใจจะลง
ของฉันร่างกายส่วนล่างที่น่ากลัว , น่ากลัวนั่น ที่น่ากลัวอยู่ ฉันไม่สามารถอยู่นาน แต่
ผมไม่ได้บินออกจาก ดีจัง ผมดีขึ้นแล้ว "
การหายใจการออกกำลังกายอีกหนึ่งแบบฝึกหัดการหายใจที่ผมใช้บ่อยๆ โดยเฉพาะกับลูกค้าที่ประสบ
จากความกังวลเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้จากครูโยคะของฉัน มันเรียกว่าการหายใจสลับรูจมูก . ปกติผม

7cj ทำแบบฝึกหัดกับลูกค้า หลังจากที่ผมได้อธิบายและแสดงให้เห็นถึงมัน เราเตรียมนั่งตรงข้าม
กันบนเก้าอี้ และรักษาศีรษะและกระดูกสันหลังในท่าตรงตรง .เท้าจะปลูก
อย่างมั่นคงบนพื้นดิน เราเริ่มต้นด้วยการเอามือขวากับจมูกและครอบคลุมในรูจมูกขวาด้วย
ง่ายๆขวาและหายใจเข้าทางรูจมูกซ้าย จากนั้นเราก็ปิดรูจมูกซ้ายกับขวาและนิ้วชี้
หายใจออกรูจมูกขวา เราเก็บนิ้วชี้ครอบคลุมรูจมูกซ้ายและสูดดม
ผ่านรูจมูกขวาอีกครั้งที่เราปิดรูจมูกขวาด้วยหัวแม่มือขวาและ
หายใจออกทางรูจมูกซ้าย จากนั้นเราหายใจเข้าและหายใจออกสลับข้างให้เรา และสูดดมผ่านรูจมูก
แล้วสลับรูจมูกตรงข้ามและยังคงหายใจเข้าและหายใจออกทางด้านนั้น เรายังคงหายใจอยู่หลายนาที รูปแบบนี้
.
เมื่อลูกค้ากลายเป็นความสะดวกสบายกับการออกกำลังกายนี้imay แนะนำรุ่นที่สูงขึ้นซึ่ง
exhalation คือ นาน ๆ เรานับถึง 5 ในขณะที่เราหายใจเข้าแล้วนับ 10 ที่เราหายใจออก ความคิดคือ
คู่เวลาให้หายใจออก อีกรูปแบบคือ นับ 5 ในการสูดดม ถือ
ลมหายใจ ( ทั้งรูจมูกปิด ) สำหรับนับ 5 แล้วหายใจออก โดยนับถึง 10
ภาพสามารถเป็นประโยชน์เช่น ถามลูกค้าว่าพวกเขาจะสูดดมกลิ่นหอม หรือ สีโปรดของพวกเขาหรือสิ่งที่พวกเขาต้องใช้เวลา
แล้วจินตนาการว่าพวกเขาถอนหายใจเครียด อากาศเก่า หรือสิ่งที่พวกเขาต้องการ

หายใจออกปล่อย จะผ่อนคลายมากที่สุดส่วนหนึ่งของวัฏจักรของลมหายใจ และส่งเสริมการปล่อยความรู้สึกที่
ถูกจัดขึ้นบน .หายใจออกลึกเปล่าร่างกายของอากาศเก่า และทำให้มันพร้อมที่จะรับอากาศบริสุทธิ์
ระบบประสาทคือเงียบ และร่างกายเริ่มผ่อนคลายและกลับมาเป็นรัฐของความสมดุลความสัมพันธ์