This study surveys the use of chemi

This study surveys the use of chemical pesticides in agriculture by sampling the participants’s families which registered in the year 2552 to year 2553 in Tambon Chanprai,Aumper Muang, Petchabun. The study samples 383 out of 1053 families who participated in the study by using the Taro Yamane method. In the study, there were 2 approaches used to collect the data. The first approach was by using questionnaires and the second approach was to have the participants record the data by using the form provided. From statistic analysis, it is found that after the participants had grown rice in the planting season they grew the rotated crop. Moreover, it is also found that 81.20 percent of the participants are above 41 years old and 86.70 percent of them have an elementary education level. The participants approximately had 2 average workers, a car, an agricultural car, a tractor, a pump, a grass cutting machine, a sprayer, a sewing machine and 2 motorcycles. The total average income of the participants is about 113,685 bahtper family per year where the incomes are from growing corn, rice, green beans, vegetables, onion and garlic which are about 60440, 79920, 43032, 43032, 93333, 24714 baht per family per year consequently. The study found that 47 percent of the participants use lented land in agricultural activities and 46.7 percent of them have their own land. There are 49.91 percent of the participants have their own seed for rice but for 82 percent of them buy green bean seed and 99 percent of them buy corn seed for the cultivation.

The study found that 27.77 percent of the cost is from fertilizer, 24.5 percent is from land provision, 23.35 percent is from workers salaries and 24.39 percent is from chemical pesticides. The cost of fertilizer and chemical pesticides can be reduced by them making their own fertilizer and bio-chemical pesticides. In the study, it is found that 70.50 percent of the participants use chemical pesticides to kill shellfish but shellfish can be killed by using the bio-chemical pesticide from Pudding Pine (Cassia fistula L.) and Crap ginger (Costus speciosus (Koen.) Smith.) which can be found locally. The use of chemical pesticides has an effect on the health of the participants. The report published from the head of the Health Promoting Hospital on May 4, 2553 analysing 600 of participants indicate that 26 of them had a participants have the dangerous level of Acetycholinesterase in their bodies, 210 of them are at risk and 269 of them were at a normal level. From the previous information, it can be concluded that chemical pesticides contaminates in the participants’s environment and food.

According to the previously mentioned information, the researchers set up a seminar on how to make and use bio-chemical pesticides on October, 6-7 2554 so that the participants can use bio-chemical safely. After the seminar, the participants used the knowledge from the seminar and it is found that the cost of growing rice, green bean and onion has reduced in 2554. Therefore, the participants have a better quality of life because of thereduction in chemical pesticide use, and the consumers are better off from getting chemical pesticide free agricultural products.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ surveys ใช้สารกำจัดศัตรูพืชสารเคมีในการเกษตร โดยการสุ่มตัวอย่างครอบครัวของผู้เรียนที่ลงทะเบียนในปี 2552 ถึงปี 2553 ในตำบล Chanprai เมือง Aumper เพชรบูรณ์ การศึกษาตัวอย่าง 383 จาก 1053 ครอบครัวที่เข้าร่วมในการศึกษา โดยใช้วิธีของ Yamane เผือก ในการศึกษา มี 2 วิธีที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิธีแรก โดยใช้แบบสอบถาม และวิธีที่สองได้มีบันทึกข้อมูล โดยใช้แบบฟอร์มให้ผู้เข้าร่วม จากการวิเคราะห์สถิติ มันจะพบว่า หลังจากผู้เข้าร่วมได้ปลูกข้าวในฤดูกาลที่ปลูก จะเติบโตพืชหมุน นอกจากนี้ มันเป็นยังพบว่า ร้อยละ 81.20 ของผู้เรียนมีอายุ 41 ปี และร้อยละ 86.70 ของพวกเขามีเป็นระดับประถมศึกษา นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมประมาณมีคนงานเฉลี่ย 2 รถ รถการเกษตร รถแทรกเตอร์ เครื่องสูบน้ำ เครื่องตัดหญ้า กระบอกฉีดที่ จักรเย็บผ้า และรถจักรยานยนต์ 2 รายได้รวมของผู้เข้าร่วมเป็นครอบครัว bahtper 113,685 ประมาณปีที่รายได้ที่ได้จากการปลูกข้าวโพด ข้าว ถั่วเขียว ผัก หอมใหญ่ และกระเทียมซึ่งมีประมาณ 60440, 79920, 43032, 43032, 93333, 24714 บาท ต่อครอบครัวต่อปีดังนั้น การศึกษาพบว่า ร้อยละ 47 ของผู้เข้าร่วมใช้ lented ที่ดินเกษตรกรรม และร้อยละ 46.7 ของพวกเขามีที่ดินของตนเอง มีผู้เข้าร่วมร้อยละ 49.91 ได้เองเมล็ดข้าว แต่ 82 เปอร์เซ็นต์ของพวกเขาซื้อเมล็ดถั่วเขียว และ 99 เปอร์เซ็นต์ของพวกเขาซื้อเมล็ดข้าวโพดการเพาะปลูกการศึกษาพบว่า 27.77 เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนมาจากปุ๋ย 24.5 เปอร์เซ็นต์มาจากจัดหาที่ดิน ร้อยละ 23.35 ได้จากเงินเดือนของแรงงาน และร้อยละ 24.39 จากสารกำจัดศัตรูพืชสารเคมี สามารถลดต้นทุนปุ๋ยและยาฆ่าแมลงเคมี โดยพวกเขาทำปุ๋ยและยาฆ่าแมลงเคมีชีวภาพของตนเอง ในการศึกษา มันคือพบว่า ร้อยละ 70.50 ของผู้เรียนใช้สารเคมียาฆ่าแมลงฆ่าหอย แต่หอยที่สามารถฆ่า ด้วยการใช้สารพิษสารเคมีชีวภาพจากสนพุดดิ้ง (ราชพฤกษ์ L.) และอึขิง (เอื้องหมายนา (สวน) สมิธ) ซึ่งสามารถพบในท้องถิ่น การใช้สารกำจัดศัตรูพืชสารเคมีมีผลกระทบสุขภาพของผู้เข้าร่วม รายงานที่เผยแพร่จากหัวของโรงพยาบาลสุขภาพ Promoting บน 4 พฤษภาคม 2553 วิเคราะห์ 600 ของผู้เรียนระบุว่า 26 ของพวกเขามีผู้เข้าร่วมที่มี Acetycholinesterase ระดับอันตรายในร่างกายของพวกเขา 210 ของพวกเขาจะเสี่ยง และ 269 ของพวกเขาอยู่ในระดับปกติ จากก่อนหน้านี้ จึงสามารถสรุปได้ว่า ยาฆ่าแมลงสารเคมี contaminates ในสภาพแวดล้อมและอาหารของผู้เข้าร่วมตามรายละเอียดที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ นักวิจัยตั้งค่าสัมมนาวิธีการทำ และใช้สารกำจัดศัตรูพืชสารเคมีทางชีวภาพในเดือนตุลาคม 2554 6-7 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถใช้ชีวภาพเคมีได้อย่างปลอดภัย หลังจากสัมมนา ผู้เรียนใช้ความรู้จากงานสัมมนา แล้วจะพบว่า มีลดต้นทุนของการปลูกข้าว ถั่วเขียว และหอมใหญ่ในปี 2554 ดังนั้น ผู้เข้าร่วมมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นเนื่องจาก thereduction ใช้สารพิษสารเคมี และผู้บริโภคจะดีกว่าจากการได้รับสารกำจัดศัตรูพืชเคมีเกษตรฟรี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้สำรวจการใช้สารเคมีในการเกษตรโดยการสุ่มตัวอย่างครอบครัวของผู้เข้าร่วมที่จดทะเบียนในปี 2552 กับปี 2553 ที่ตำบล Chanprai, Aumper อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา 383 จาก 1,053 ครอบครัวที่มีส่วนร่วมในการศึกษาโดยใช้วิธีการ Taro Yamane ในการศึกษามี 2 วิธีที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิธีแรกคือโดยใช้แบบสอบถามและวิธีที่สองคือการมีผู้เข้าร่วมการบันทึกข้อมูลโดยใช้แบบฟอร์มที่ให้ จากการวิเคราะห์ทางสถิติพบว่าหลังจากที่ผู้เข้าร่วมได้เติบโตข้าวในฤดูกาลเพาะปลูกที่พวกเขาเติบโตพืชหมุนเวียน นอกจากนี้ยังพบว่าร้อยละ 81.20 ของผู้เข้าร่วมที่สูงกว่า 41 ปีและร้อยละ 86.70 ของพวกเขามีอยู่ในระดับประถมศึกษา ผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 2 มีคนงานเฉลี่ยรถยนต์รถการเกษตรรถแทรกเตอร์, เครื่องสูบน้ำ, เครื่องตัดหญ้า, เครื่องพ่นสารเคมี, จักรเย็บผ้า 2 รถจักรยานยนต์ รายได้เฉลี่ยรวมของผู้เข้าร่วมประมาณ 113,685 ครอบครัว bahtper ต่อปีที่มีรายได้มาจากปลูกข้าวโพด, ข้าว, ถั่วเขียว, ผัก, หัวหอมและกระเทียมซึ่งมีประมาณ 60440, 79920, 43032, 43032, 93333, 24714 บาทต่อครอบครัวต่อ ปีดังนั้น ผลการศึกษาพบว่าร้อยละ 47 ของผู้เข้าร่วมใช้ที่ดิน lented ในกิจกรรมทางการเกษตรและร้อยละ 46.7 ของพวกเขามีที่ดินของตัวเอง มีร้อยละ 49.91 ของผู้เข้าร่วมจะมีเมล็ดพันธุ์ของตัวเองสำหรับข้าว แต่สำหรับร้อยละ 82 ของพวกเขาซื้อเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวและร้อยละ 99 ของพวกเขาซื้อเมล็ดข้าวโพดสำหรับการเพาะปลูก. ผลการศึกษาพบว่าร้อยละ 27.77 ของค่าใช้จ่ายจากปุ๋ย 24.5 เปอร์เซ็นต์ จากการจัดหาที่ดินร้อยละ 23.35 จากเงินเดือนคนงานและร้อยละ 24.39 มาจากสารเคมี ค่าใช้จ่ายของปุ๋ยและยาฆ่าแมลงสารเคมีที่สามารถลดลงได้โดยพวกเขาทำให้ตัวเองปุ๋ยและยาฆ่าแมลงชีวภาพเคมี ในการศึกษาพบว่าร้อยละ 70.50 ของผู้เข้าร่วมใช้สารเคมีเพื่อฆ่าหอยหอย แต่จะถูกฆ่าตายโดยใช้ยาฆ่าแมลงชีวภาพจากสารเคมีพุดดิ้งไพน์ (Cassia ทวาร L. ) และขิงอึ (Costus speciosus (Koen.) สมิ ธ .) ซึ่งสามารถพบได้ในประเทศ การใช้สารเคมีที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้เข้าร่วม รายงานที่ตีพิมพ์ออกมาจากหัวของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพในวันที่ May 4, 2553 วิเคราะห์ 600 ของผู้เข้าร่วมแสดงให้เห็นว่า 26 ของพวกเขามีผู้เข้าร่วมได้ในระดับที่เป็นอันตรายของ Acetycholinesterase ในร่างกายของพวกเขา 210 ของพวกเขาที่มีความเสี่ยงและ 269 ของพวกเขาที่ ระดับปกติ จากข้อมูลก่อนหน้านี้ก็สามารถสรุปได้ว่าสารเคมีที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลงในสภาพแวดล้อมของผู้เข้าร่วมและอาหาร. ตามข้อมูลที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้นักวิจัยได้ตั้งค่าการสัมมนาเกี่ยวกับวิธีการที่จะทำให้การใช้สารกำจัดศัตรูพืชและไบโอเคมีตุลาคม 2554 6-7 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถใช้ไบโอเคมีอย่างปลอดภัย หลังจากการสัมมนาผู้เข้าร่วมที่ใช้ความรู้จากการสัมมนาและพบว่าค่าใช้จ่ายของการปลูกข้าวที่ถั่วเขียวและหอมได้ลดลงในปี 2554 ดังนั้นผู้เข้าร่วมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีเพราะ thereduction ในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และผู้บริโภคจะดีกว่าจากการได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสินค้าเกษตรฟรี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาการใช้สารเคมียาฆ่าแมลงในการเกษตร โดยผู้เข้าร่วมเป็นครอบครัวที่จดทะเบียนในปี 2552 ถึงปี 2553 บล chanprai อําเภอเมืองเพชรบูรณ์ , คน การศึกษาตัวอย่างที่ออกในครอบครัวที่เข้าร่วมในการศึกษาโดยใช้ Taro Yamane วิธีการ ในการศึกษามี 2 วิธีที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลวิธีแรกคือโดยการใช้แบบสอบถาม และแบบที่สอง คือ มีผู้เข้าร่วมบันทึกข้อมูลโดยใช้แบบฟอร์มที่ให้ไว้ จากการวิเคราะห์ทางสถิติพบว่า หลังจากเคยเข้าร่วมกิจกรรมปลูกข้าวในฤดูปลูกที่พวกเขาเติบโต หมุนพืช นอกจากนี้ ยังพบว่า ร้อยละ 81.20 ผู้ที่อยู่เหนืออายุ 41 ปี และ 8670 เปอร์เซ็นต์ของพวกเขามีการศึกษาระดับ ประถมศึกษา ผู้เข้าร่วมประมาณ 2 คน เฉลี่ยรถ รถเกษตร รถแทรกเตอร์ , ปั๊ม , เครื่องตัดหญ้า , เครื่องพ่นสารเคมี , จักรเย็บผ้าและ 2 รถจักรยานยนต์ รายได้เฉลี่ยของผู้เข้าร่วมประมาณ 113685 บาทต่อครอบครัวต่อปี ซึ่งรายได้จากการปลูกข้าวโพด , ข้าว , ถั่วเขียว , ผักหัวหอมและกระเทียมที่เกี่ยวกับ 60440 79920 , 43032 43032 93333 , , , , 24714 บาทต่อครอบครัวต่อปี จากนั้น ผลการศึกษา พบว่า ร้อยละ 47 ของผู้เข้าร่วมที่ใช้ lented ที่ดินในกิจกรรมการเกษตรและ 46.7 เปอร์เซ็นต์ของพวกเขามีที่ดินของตนเอง มี 4991 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมมีเมล็ดพันธุ์ของตนเอง สำหรับข้าวแต่ 82 เปอร์เซ็นต์ของพวกเขาซื้อถั่วเขียวเมล็ดและ 99 เปอร์เซ็นต์ของพวกเขาซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเพื่อการเพาะปลูก .

ผลการศึกษาพบว่า ร้อยละ 27.77 ของค่าใช้จ่ายจากปุ๋ย ร้อยละ 24.5 จากการให้ที่ดิน Method เปอร์เซ็นต์จากเงินเดือนคนงาน และ 24.39 เปอร์เซ็นต์ จากสารเคมียาฆ่าแมลงต้นทุนของปุ๋ยและยาฆ่าแมลงเคมีจะลดลงพวกเขาทำปุ๋ยของตัวเองและเคมียาฆ่าแมลงชีวภาพ ในการศึกษาพบว่าร้อยละ 70.50 ผู้ใช้สารเคมียาฆ่าแมลง ฆ่าหอย แต่หอยที่สามารถฆ่าได้โดยการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชชีวภาพจากพุดดิ้งพาย ( ลมแล้ง และขิง อึ ( เอื้องหมายนา ( 5 ) สมิธ) ซึ่งสามารถพบได้ในประเทศ การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้เข้าร่วม รายงานที่ตีพิมพ์จากหัวของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 วิเคราะห์ 600 เป็นผู้ระบุว่ามีผู้เข้าร่วม 26 คนได้ระดับอันตรายของ acetycholinesterase ในร่างกายของพวกเขา แต่พวกเขามีความเสี่ยง และคุณของพวกเขาอยู่ในระดับปกติจากข้อมูลที่ผ่านมา พบว่า สารเคมียาฆ่าแมลงปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมและอาหารเข้าร่วม

ตามที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ข้อมูล นักวิจัยตั้งสัมมนาวิธีการสร้างและใช้ยาฆ่าแมลงสารเคมีชีวภาพในเดือนตุลาคม 2554 เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถ 6-7 ใช้ไบโอเคมีภัณฑ์อย่างปลอดภัย หลังจากการสัมมนาแล้วผู้เข้าร่วมที่ใช้ความรู้จากงานสัมมนา พบว่า ต้นทุนในการปลูกข้าว ถั่วเขียว หัวหอม และได้ลดลงใน 2554 ดังนั้น ผู้เข้าร่วมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะลดใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช และผู้บริโภคจะดีขึ้นจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ผลิตภัณฑ์เกษตรฟรี