The studyAimThe project reported he

The study
Aim
The project reported here responded to the high prevalence of
older people living in the community with asthma. We aimed
to understand, from the perspective of older men and women,
how asthma had impacted on their lives, and to identify the
contexts, barriers and issues that were significant for them. In
collaboration with the participants, we attempted to explore
asthma self-management models.
Participants
Recruitment strategies sought people over the age of 60, who
had been medically diagnosed with asthma and were using, or
had been prescribed, preventative medications to use on a daily
basis. Recruitment proved difficult because older people living
with asthma, particularly when asymptomatic, did not place
this condition high on their list of ailments that required
consideration. Table 1 outlines the recruitment strategies used.
It was clear that some strategies yielded a better response rate.
Local newspapers, radio interviews and contact with community
health workers were the most successful.
Eight men and 16 women with asthma volunteered to
participate in the project. Their average age was 76 years; the
youngest person was 60 years and the oldest 92 years old.
Based on an assessment carried out by clinical educators
specializing in asthma, 17 people had severe asthma, three
had moderate asthma, three had mild asthma and one was
asymptomatic. Assessments of asthma status made by the
clinical educator were based on each person’s medication,
frequency of medication use and the participant’s self-report
of asthma severity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาเล็งโครงการรายงานที่นี่เพื่อตอบสนองความชุกสูงของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่มีโรคหอบหืด เรามุ่งเป้าไปที่จะเข้าใจจากมุมมองของผู้ชายที่มีอายุมากกว่าและหญิงว่าโรคหอบหืดได้รับผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขาและเพื่อระบุความสำเร็จอุปสรรคและปัญหาที่มีนัยสำคัญสำหรับพวกเขา ในการทำงานร่วมกันกับผู้เข้าร่วมที่เราพยายามที่จะสำรวจโรคหอบหืดรูปแบบการจัดการตนเอง. ผู้เข้าร่วมกลยุทธ์การสรรหาขอคนที่อายุเกิน 60 ที่ได้รับการวินิจฉัยทางการแพทย์ที่มีโรคหอบหืดและได้ใช้หรือได้รับการกำหนดยาป้องกันเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันพื้นฐาน รับสมัครงานพิสูจน์ยากเพราะผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ที่มีโรคหอบหืดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีอาการก็ไม่ได้วางเงื่อนไขนี้สูงอยู่ในรายชื่อของโรคที่จำเป็นต้องพิจารณา ตารางที่ 1 แสดงการสรรหากลยุทธ์ที่ใช้. มันเป็นที่ชัดเจนว่ากลยุทธ์บางอย่างให้ผลอัตราการตอบสนองที่ดีขึ้น. หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นสัมภาษณ์วิทยุและการติดต่อกับชุมชนของคนทำงานด้านสุขภาพมีความสำเร็จมากที่สุด. แปดคนและ 16 ผู้หญิงที่มีโรคหอบหืดอาสาที่จะเข้าร่วมโครงการ อายุเฉลี่ยของพวกเขาคือ 76 ปี คนที่อายุน้อยที่สุด 60 ปีและเก่าแก่ที่สุด 92 ปี. จากการประเมินดำเนินการโดยนักการศึกษาทางคลินิกที่เชี่ยวชาญในโรคหอบหืด 17 คนมีโรคหอบหืดรุนแรงสามมีโรคหอบหืดปานกลางสามมีโรคหอบหืดรุนแรงและใครที่ไม่มีอาการ การประเมินสถานะของโรคหอบหืดที่ทำโดยการศึกษาทางคลินิกที่อยู่บนพื้นฐานของการใช้ยาของแต่ละคน, ความถี่ของการใช้ยาและการมีส่วนร่วมของรายงานตนเองของความรุนแรงของโรคหอบหืด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษา

เป้าหมายโครงการรายงานที่นี่ตอบความชุกสูงของ
คนผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชนกับโรคหอบหืด เรามุ่ง
เข้าใจจากมุมมองของผู้ชายและผู้หญิง
วิธีหืดมีผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา และเพื่อระบุ
บริบท อุปสรรคและปัญหาที่สำคัญสำหรับพวกเขา ในการทำงานร่วมกันกับผู้เข้าร่วม

เราพยายามที่จะสำรวจการจัดการตนเองแบบหืด กลยุทธ์การสรรหาผู้เข้าร่วม

ขอคนอายุ 60 ที่ได้รับการวินิจฉัยกับโรคหอบหืดทางการแพทย์

และใช้หรือได้รับตามที่กำหนดป้องกันโรคเพื่อใช้ในชีวิตประจําวัน

รับสมัครงานพิสูจน์ยากเพราะคนรุ่นเก่าอยู่
กับหืด โดยเฉพาะตอนที่ยังไม่ได้สถานที่
ภาพนี้สูงในรายการของโรคที่ต้องใช้
พิจารณา ตารางที่ 1 แสดงการสรรหากลวิธี .
มันชัดเจนว่ากลยุทธ์บางอย่างที่มีอัตราการตอบสนองที่ดีขึ้น
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น สัมภาษณ์วิทยุและติดต่อกับเจ้าหน้าที่อนามัยชุมชน

ได้ประสบความสำเร็จมากที่สุด และผู้หญิง 8 คน 16 หืดอาสา
เข้าร่วมในโครงการอายุ เฉลี่ย 76 ปี อายุ 60 ปี และเป็นคน

ที่เก่าแก่ที่สุด 92 ปี บนพื้นฐานของการประเมินที่ดำเนินการโดยการศึกษาทางคลินิกที่เชี่ยวชาญในโรคหืด
17 คนเป็นโรคหอบหืดรุนแรง , สาม
เป็นโรคหอบหืดปานกลาง 3 มีอาการหืด และหนึ่งคือ
ไม่มีอาการ การประเมินสถานะของโรคหืดโดยการศึกษาทางคลินิกตาม

ยาของแต่ละคนความถี่ของการใช้ยา และผู้ร่วม 5

ความรุนแรงของโรคหอบหืด