Starbucks began selling beer and wi

Starbucks began selling beer and wine at some US stores in 2010. As of April 2012, it is available at seven locations and others have applied for licenses.

In 2011, Starbucks introduced its largest cup size, the Trenta, which can hold 31 ounces. In September 2012, Starbucks announced the Verismo, a consumer-grade single-serve coffee machine that uses sealed plastic cups of coffee grounds, and a "milk pod" for lattes.

On November 10, 2011, Starbucks Corporation announced that it had bought juice company Evolution Fresh for $30 million in cash and planned to start a chain of juice bars starting in around middle of 2012, venturing into territory staked out by Jamba Inc. Its first store released in San Bernardino, California and plans for a store in San Francisco were to be launched in early 2013.

In 2012, Starbucks began selling a line of iced Starbucks Refresher beverages that contain an extract from green arabica coffee beans. The beverages are fruit flavored and contain caffeine but advertised as having no coffee flavor. Starbucks' green coffee extraction process involves soaking the beans in water.

On June 25, 2013, Starbucks began to post calorie counts on menus for drinks and pastries in all of their U.S. stores.

In 2014, Starbucks began producing their own line of "handcrafted" sodas, dubbed "Fizzio".

In 2015, Starbucks began serving coconut milk as an alternative to dairy and soy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สตาร์บัคส์เริ่มขายเบียร์และไวน์ที่บางร้านสหรัฐฯ ใน 2010 เมษายน 2012 มีเจ็ดสถานที่ และผู้อื่นได้ใช้สิทธิ์การใช้งานใน 2011 แนะนำขนาดคัพที่ใหญ่ที่สุด Trenta ซึ่งสามารถจุออนซ์ 31 2555 กันยายน Starbucks ประกาศ Verismo ระดับผู้บริโภคเดียวเสิร์ฟกาแฟเครื่องที่ใช้ถ้วยพลาสติกที่ปิดผนึกของกากกาแฟ และ "pod นม" สำหรับไกลจากสถานี10 พฤศจิกายน 2011 สตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่นประกาศว่า มีซื้อน้ำผลไม้บริษัทวิวัฒนาการใหม่สำหรับ $30 ล้านเงินสด และการวางแผนเพื่อเริ่มต้นห่วงโซ่ของอาหารในเริ่มต้นประมาณกลางของ 2012 เข้าไปในดินแดนเดิมพัน โดย Jamba อิงค์ ร้านค้าแรกในซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนียและแผนสำหรับร้านค้าในซานฟรานซิสโกจะเปิดตัวในต้นปีหน้าได้ใน 2012, Starbucks เริ่มขายสายของเครื่องดื่มสตาร์บัคส์สเปรย์เย็นที่ประกอบด้วยสารสกัดจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าสีเขียว เครื่องดื่มมีรสผลไม้ และประกอบด้วยคาเฟอีน แต่โฆษณาว่า รสชาติกาแฟไม่มี กระบวนการสกัดสีเขียวกาแฟของสตาร์บัคส์ที่เกี่ยวข้องกับการแช่ถั่วในน้ำเมื่อ 25 มิถุนายน 2013, Starbucks เริ่มลงนับแคลอรี่ในเมนูเครื่องดื่มและขนมในร้านสหรัฐอเมริกาในปี 2014, Starbucks เริ่มผลิตสายของตัวเอง "ทำมือ" โซดา ขนานนามว่า "Fizzio"ใน 2015, Starbucks เริ่มเสิร์ฟน้ำกะทิแทนนมและถั่วเหลือง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สตาร์บัเริ่มขายเบียร์และไวน์ที่บางร้านค้าของสหรัฐในปี 2010 ณ เดือนเมษายนปี 2012 มันมีอยู่ที่เจ็ดสถานที่และอื่น ๆ ได้นำไปใช้สำหรับใบอนุญาต.

ในปี 2011 สตาร์บัแนะนำขนาดใหญ่ที่สุดถ้วย Trenta ที่สามารถถือ 31 ออนซ์ ในเดือนกันยายน 2012, สตาร์บัประกาศ verismo เดียวให้บริการเครื่องชงกาแฟผู้บริโภคชั้นที่ใช้ปิดผนึกถ้วยพลาสติกของกากกาแฟและ "นมฝัก" สำหรับลาเต้.

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2011, สตาร์บัคอร์ปอเรชั่นประกาศว่าได้ซื้อน้ำผลไม้ บริษัท วิวัฒนาการสดสำหรับ $ 30 ล้านในรูปของเงินสดและวางแผนที่จะเริ่มต้นห่วงโซ่ของบาร์น้ำผลไม้ที่เริ่มต้นในประมาณกลางปี 2012 เข้าไปในดินแดนจับจองโดย Jamba อิงค์ร้านสาขาแรกเปิดตัวใน San Bernardino, แคลิฟอร์เนียและแผนสำหรับการจัดเก็บในซานฟรานซิส กำลังจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2013

ในปี 2012, สตาร์บัเริ่มขายสายของเย็นเครื่องดื่มสตาร์บั Refresher ที่มีสารสกัดจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าสีเขียวเกรด A เครื่องดื่มที่มีรสผลไม้และมีคาเฟอีน แต่โฆษณาว่ามีรสชาติกาแฟที่ไม่มี กระบวนการสกัดกาแฟสีเขียวสตาร์บั 'เกี่ยวข้องกับการแช่เมล็ดในน้ำ.

ที่ 25 มิถุนายน 2013 สตาร์บัเริ่มที่จะโพสต์นับแคลอรี่ในเมนูสำหรับเครื่องดื่มและขนมอบในทุกร้านค้าของสหรัฐของพวกเขา.

ในปี 2014 สตาร์บัเริ่มสายการผลิตของตัวเอง "ในแบบฉบับ "โซดา, ขนานนามว่า" Fizzio ".

ในปี 2015 สตาร์บัเริ่มให้บริการกะทิเป็นทางเลือกให้นมและถั่วเหลือง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สตาร์บัคส์เริ่มขายเบียร์และไวน์ บางร้านเราใน 2010 เมื่อวันที่เมษายน 2012 , มันสามารถใช้ได้ในเจ็ดสถานที่และอื่น ๆ มีใบอนุญาต .ใน 2011 , สตาร์บัคส์ แนะนำขนาดของถ้วยที่ใหญ่ที่สุด trenta ซึ่งสามารถถือ 32 ออนซ์ ในเดือนกันยายน 2012 , สตาร์บัคส์ประกาศเมโซ , เกรดผู้บริโภคเดียวใช้เครื่องชงกาแฟที่ใช้ปิดผนึกถ้วยพลาสติกของกาแฟและนมยาน " ลาเต้ .พฤศจิกายน 10 , 2011 , Starbucks Corporation ประกาศว่า บริษัทได้ซื้อบริษัทน้ำผลไม้วิวัฒนาการใหม่สำหรับ $ 30 ล้านในเงินสดและวางแผนจะเริ่มต้นห่วงโซ่ของบาร์น้ำผลไม้ที่เริ่มต้นในรอบกลางของ 2012 , venturing ในอาณาเขตไว้แล้ว โดยเป็นครั้งแรกในร้านจำปาอิงค์ออกซานดิโอ แคลิฟอร์เนีย และแผนสำหรับการจัดเก็บในซานฟรานซิสโก กำลังจะเปิดตัวในต้นปี 2013ใน 2012 , Starbucks เริ่มขายสายของกาแฟเย็น Starbucks refresher เครื่องดื่มที่ประกอบด้วยสารสกัดจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าสีเขียว . เครื่องดื่มรสผลไม้และมีคาเฟอีน แต่โฆษณาว่าไม่มีกาแฟรส ขั้นตอนการสกัดกาแฟ Starbucks " สีเขียวเกี่ยวข้องกับการแช่เมล็ดในน้ำมิถุนายน 25 , 2013 , Starbucks เริ่มโพสต์แคลอรี่ในเมนูเครื่องดื่มและขนมในร้านของพวกเขาในปี 2014 , Starbucks เริ่มสายการผลิตของตัวเองของ " โซดา handcrafted " ขนานนาม " fizzio "ในปี 2015 , Starbucks เริ่มใช้กะทิแทนนมและถั่วเหลือง