It is strategically important for t

It is strategically important for the service provider to have enough of resources in order to match demand for the service. This strategy is oriented towards the quantity. However, from the customer’s view, the volume of the service output is hardly a significant issue, because the
customer usually buys only one unit of output (e.g. haircut)
or one package of service (e.g. holiday tour). The customer is therefore inclined to give priority to service quality in- stead of quantity (Sahay, 2005). Yet, the actual volume of operations is determined by the variation of demand over time (McLaughlin, 1996). As a consequence, the productivity ratio of service operations may vary greatly from one time period to another, if it is measured as a quantity ratio. Due to the variation in the amount of the total demand across time, the service provider has to solve two basic problems related to the quantity aspect: capacity size and capacity scheduling (McLaughlin et.al., 1991).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กลยุทธ์สำคัญสำหรับผู้ให้บริการมีทรัพยากรเพียงพอเพื่อให้ตรงกับความต้องการใช้บริการได้ กลยุทธ์นี้จะมุ่งเน้นไปปริมาณ อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของลูกค้า ปริมาณของผลผลิตการบริการเป็นไม่สำคัญปัญหา เนื่องจากการลูกค้าซื้อสินค้าเพียงหนึ่งหน่วยของผลผลิต (เช่นตัดผม)หรือแพคเกจหนึ่งของบริการ (เช่นฮอลิเดย์ทัวร์) ดังนั้นลูกค้าไม่อยากให้ความสำคัญกับบริการคุณภาพในแทนปริมาณ (Sahay, 2005) ยัง ระดับเสียงจริงของการดำเนินงานจะถูกกำหนด โดยรูปแบบของความต้องการเวลา (แม็กลาฟลิน 1996) ผล อัตราส่วนผลผลิตของการดำเนินงานบริการอาจมากจากรอบระยะเวลาหนึ่งอีก ถ้าวัดเป็นอัตราส่วนปริมาณแตกต่างกันไป เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงจำนวนความต้องการรวมทั้งเวลา ผู้ให้บริการมีปัญหาสองพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับด้านปริมาณ: ขนาดกำลังการผลิตและกำลังการผลิตการจัดกำหนดการ (แม็กลาฟลิน et.al. 1991)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับผู้ให้บริการที่จะมีเพียงพอของทรัพยากรเพื่อให้ตรงกับความต้องการสำหรับการบริการ กลยุทธ์นี้จะเน้นไปที่ปริมาณ แต่จากมุมมองของลูกค้าที่มีปริมาณของการส่งออกบริการแทบจะไม่เป็นปัญหาสำคัญเพราะลูกค้ามักจะซื้อเพียงหนึ่งหน่วยของการส่งออก (เช่นตัดผม) หรือแพคเกจหนึ่งของการบริการ (เช่นการท่องเที่ยวในวันหยุด) ลูกค้าจึงเป็นแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับคุณภาพการให้บริการแทนหปริมาณ (Sahay 2005) แต่ปริมาณของการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริงจะถูกกำหนดโดยการเปลี่ยนแปลงของความต้องการในช่วงเวลา (กิ้น 1996) เป็นผลให้อัตราการผลิตของการดำเนินการให้บริการอาจแตกต่างกันมากจากช่วงเวลาหนึ่งไปยังอีกหากมีการวัดเป็นอัตราส่วนปริมาณ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในปริมาณของอุปสงค์รวมข้ามเวลาที่ผู้ให้บริการจะต้องมีการแก้ปัญหาสองขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับด้านปริมาณขนาดความจุและการกำหนดความจุ (กิ้ et.al. , 1991)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับผู้ให้บริการจะต้องมีเพียงพอของทรัพยากร เพื่อให้ตรงกับความต้องการในการให้บริการ กลยุทธ์นี้เป็นเชิงต่อปริมาณ อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของลูกค้า ปริมาณผลผลิตบริการแทบจะเป็นปัญหาสำคัญ เพราะลูกค้ามักจะซื้อ
เพียงหนึ่งหน่วยของผลผลิต ( เช่นผม )
หรือแพคเกจของบริการ ( เช่นทัวร์ )ลูกค้าจึงมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับคุณภาพบริการ - แทนปริมาณ ( sahay , 2005 ) แต่ปริมาณที่แท้จริงของการดำเนินงานจะถูกกำหนดโดยการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ตลอดเวลา ( กิ้น , 1996 ) อย่างไรก็ดี ผลผลิตอัตราส่วนการดำเนินงานบริการอาจแตกต่างกันอย่างมากจากช่วงเวลาหนึ่งไปยังอีก ถ้าจะวัดเป็นปริมาณ อัตราส่วนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในจํานวนรวม ตามความต้องการในเวลาที่ผู้ให้บริการต้องแก้สองขั้นพื้นฐาน ปัญหาด้านปริมาณความจุขนาดความจุตาราง ( McLaughlin และคณะ , 2534 ) .