INTRODUCTIONAround 1970 there was a

INTRODUCTION
Around 1970 there was a dramatic change in the approach to accounting research. Several
reasons have been suggested for this change in methodological direction by those reviewing the
development of accounting thought. To many, a major distinction is a change in direction away from
attempts to prescribe a theory of accounting to developing theory from a description of extant practices.
To advocates of the latter, previous attempts to develop a theory of accounting were futile as there
could never be agreement over many of the inputs into a theory such as the postulates, principles but
most specifically the assumptions. Although a very inaccurate description the two approaches are
labelled normative (the prescriptive theories that dominated prior to 1970) and positive (the descriptive
research that has dominated mainstream accounting research since 1970).
With its emphasis on description, the most defining characteristic of mainstream research since
1970 is its commitment to empiricism. In their book on accounting theory, Henderson, Peirson and
Brown (1992) refer to this research as neo-empirical research: a most apt nomenclature. As mentioned,
the dominating characteristic was empiricism. It is “neo” (new) because, although earlier research had
relied on empiricism in that it sought to establish “theory” from best practice, the emphasis after 1970
was on a more systematic use of empirical evidence. This was largely made possible with the
availability of large financial databases to which sophisticated statistical techniques were applied to test
hypotheses. This, in turn, was greatly facilitated by the increasing availability and use of computers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำประมาณปี 1970 มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการวิจัยทางบัญชี หลายสาเหตุที่มีการแนะนำสำหรับการเปลี่ยนแปลงในทิศทางวิธี โดยผู้ตรวจสอบการการพัฒนาบัญชีคิด หลาย มีความแตกต่างที่สำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงในทิศทางออกจากพยายามกำหนดทฤษฎีบัญชีการพัฒนาทฤษฎีจากคำอธิบายของการปฏิบัติที่ยังหลงเหลืออยู่การสนับสนุนความพยายามหลัง ก่อนหน้านี้ในการพัฒนาทฤษฎีการบัญชีมีไร้ประโยชน์เป็นไม่มีข้อตกลงมากกว่าของอินพุตในทฤษฎีเช่น postulates หลักการ แต่มากที่สุดโดยเฉพาะการสมมติฐาน ถึงแม้ว่าคำอธิบายที่ไม่ถูกต้องมาก มีสองวิธีมีป้ายกฎเกณฑ์ (เหมาะกับทฤษฎีที่ครอบงำก่อน 1970) และบวก (การอธิบายการวิจัยที่ได้ครอบงำหลักบัญชีวิจัยตั้งแต่ปี 1970)ในคำอธิบาย ลักษณะการกำหนดมากที่สุดของการวิจัยหลักตั้งแต่1970 เป็นเสน่ห์ empiricism ในหนังสือของพวกเขาเกี่ยวกับทฤษฎีบัญชี Henderson, Peirson และสีน้ำตาล (1992) อ้างถึงงานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงประจักษ์นีโอ: การตั้งชื่อด้วยฉลาดมากที่สุด ดังกล่าวลักษณะ dominating ถูก empiricism เป็น "นีโอ" (ใหม่) เพราะ แม้ ว่ามีงานวิจัยก่อนหน้านี้พึ่ง empiricism ที่มันพยายามที่จะสร้าง "ทฤษฎี" จากแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด เน้นหลัง 1970มีการใช้ระบบมากขึ้นของหลักฐานเชิงประจักษ์ นี้ส่วนใหญ่ทำได้ด้วยการความพร้อมของฐานข้อมูลทางการเงินขนาดใหญ่ซึ่งใช้เทคนิคทางสถิติเพื่อทดสอบhypotheses นี้ เปิด ถูกมากอำนวยความสะดวก โดยเพิ่มงานและใช้คอมพิวเตอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำรอบ 1970 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในวิธีการวิจัยการบัญชี หลายเหตุผลที่ได้รับการแนะนำสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ในทิศทางวิธีการโดยผู้ตรวจสอบการพัฒนาของความคิดบัญชี หลายความแตกต่างที่สำคัญคือการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ห่างจากความพยายามที่จะกำหนดทฤษฎีของการบัญชีเพื่อการพัฒนาทฤษฎีจากคำอธิบายของการปฏิบัติที่ยังหลงเหลืออยู่ได้. เพื่อประชาสัมพันธ์หลังพยายามก่อนหน้านี้ในการพัฒนาทฤษฎีของบัญชีที่ได้รับไม่ได้ผลเท่าที่มีอาจจะไม่เคยเป็นข้อตกลงของปัจจัยการผลิตจำนวนมากเข้าไปในทฤษฎีเช่นสมมุติฐานหลักการ แต่ส่วนใหญ่โดยเฉพาะสมมติฐาน แม้จะเป็นคำอธิบายที่ไม่ถูกต้องมากทั้งสองวิธีมีการติดป้ายกฎเกณฑ์ (ทฤษฎีกำหนดที่ครองก่อนที่จะ 1970) และบวก (บรรยายงานวิจัยที่ได้ครอบงำการวิจัยการบัญชีที่สำคัญตั้งแต่ปี1970). ด้วยการเน้นคำอธิบายลักษณะที่กำหนดมากที่สุดของการวิจัยหลัก ตั้งแต่1970 เป็นความมุ่งมั่นในประสบการณ์นิยม ในหนังสือของพวกเขาในทฤษฎีการบัญชี, เฮนเดอ Peirson และบราวน์(1992) อ้างถึงงานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงประจักษ์นีโอ: ศัพท์ที่ฉลาดที่สุด เป็นที่กล่าวถึงลักษณะที่มีอำนาจเหนือเป็นประสบการณ์นิยม มันเป็น "นีโอ" (ใหม่) เพราะถึงแม้ว่าการวิจัยก่อนหน้านี้ได้อาศัยประสบการณ์นิยมในการที่จะพยายามที่จะสร้าง"ทฤษฎี" จากการปฏิบัติที่ดีที่สุดเน้นหลังจากที่ 1970 อยู่ในการใช้งานที่เป็นระบบมากขึ้นของหลักฐานเชิงประจักษ์ นี้ถูกสร้างขึ้นส่วนใหญ่เป็นไปได้ด้วยความพร้อมของฐานข้อมูลการเงินขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนเทคนิคทางสถิติที่ถูกนำไปใช้ในการทดสอบสมมติฐาน นี้ในการเปิดได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างมากโดยความพร้อมที่เพิ่มขึ้นและการใช้คอมพิวเตอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนะนำรอบปี 1970 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในวิธีการวิจัยทางการบัญชี หลาย ๆเหตุผลที่ได้รับการแนะนำสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ในทิศทางตรง โดยพิจารณาทบทวนการพัฒนาความคิดของบัญชี ไปหลาย ความแตกต่างหลักคือการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ห่างจากความพยายามที่จะบัญญัติทฤษฎีการบัญชีเพื่อการพัฒนาทฤษฎีจากรายละเอียดของเท่าที่มีอยู่ )เพื่อสนับสนุนหลังความพยายามที่จะพัฒนาทฤษฎีการบัญชีก็ไร้ประโยชน์ มีไม่เคยเป็นข้อตกลงกว่าหลายของกระผมเป็นทฤษฎี เช่น สมมติฐานหลัก แต่มากที่สุดโดยเฉพาะสมมติฐานที่ แม้ว่าทั้งสองวิธีมีรายละเอียดไม่ถูกต้องมากความรุนแรงเชิงบรรทัดฐาน ( อายุความทฤษฎีที่โดดเด่นก่อนที่ 1970 ) และบวก ( บรรยายงานวิจัยที่ได้ถูกวิจัยบัญชีหลักตั้งแต่ปี 1970 )กับเน้นรายละเอียด มากที่สุด การกำหนดลักษณะของการวิจัยหลักตั้งแต่1970 มีความมุ่งมั่นที่จะต่อกัน ในหนังสือของพวกเขาในทางทฤษฎีบัญชี peirson เฮนเดอร์สัน และสีน้ำตาล ( 1992 ) อ้างถึงงานวิจัยนี้เป็นนีโอ การวิจัยเชิงประจักษ์ : ระบบการตั้งชื่อที่ฉลาดที่สุด ดังกล่าวเป็นลักษณะขึ้นต่อกัน มันคือ " นีโอ " ( ใหม่ ) เพราะแม้งานวิจัยก่อนหน้านี้อาศัยประสบการณ์นิยมในนั้นพยายามที่จะสร้าง " ทฤษฎี " จากการปฏิบัติที่ดีที่สุด , เน้นหลัง 1970มีการใช้มากขึ้นของหลักฐานเชิงประจักษ์ นี้ส่วนใหญ่ได้ด้วยความพร้อมของฐานข้อมูลทางการเงินขนาดใหญ่ที่ใช้เทคนิคทางสถิติที่ใช้เพื่อทดสอบที่ซับซ้อนสมมติฐาน นี้ , ในการเปิด , อํานวยความสะดวกอย่างมากโดยการเพิ่มความพร้อมและการใช้คอมพิวเตอร์