uring the past 15 years, an imtpres

uring the past 15 years, an imt
pressive number of intervention
research studies in the area
of expressive writing have been conducted
with students with learning
disabilities (LD). Whereas earlier studies
focused predominantly on writing
mechanics and grammar, more recent
studies have addressed ways to improve
writing content.
This shift was influenced by the development
of cognitive models of writing
that emphasized the mental operations
employed by skilled writers
(Hayes & Flower, 1986; Scardamalia &
Bereiter, 1986). Skilled writers devote a
good deal of time to planning, revising,
monitoring, evaluating, and managing
the writing process (Graham & Harris,
2002). In teaching writing to students
with LD, research efforts have shifted
to identifying methods for developing
these writing strategies and processes.
Writing research has also been influenced
by Hillocks’s (1984) metaanalysis
of writing instruction. Hillock
found that effective writing lessons
had clear and specific objectives and
prepared students to write about specific
topics. Effective writing instruction
was characterized by planned
brainstorming activities that helped
students organize information prior to
writing.
Hillocks’s (1984) meta-analysis noted
that older writing activities, such as
combining simple sentences into more
complex sentences, were much less effective
than the integrated series of
lessons that traversed the entire writing
process. Even less effective were
methods in which students merely wrote a good deal of text with minimal
guidance from a teacher or attempted
to emulate features of good writing
found in the work of others. Least effective
were approaches that focused
on studying parts of speech and sentence
fragments.
In addition to Hillocks’s metaanalysis
and the emerging emphasis on the strategic nature of writing, several
other reasons contributed to the
generation of this body of high-quality
research. Many researchers viewed
writing instruction as one of the few
aspects of special education instruction
in which teachers could help students
learn to express their own ideas effectively.
Expository writing allows
students to demonstrate their unique
perspectives on-and understanding
of-social, political, and historical issues
(Gersten & Baker, 2001).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งวดผ่านมา 15 ปี imtจำนวน pressive แทรกแซงการศึกษาวิจัยในพื้นที่เขียนแสดงออกเป็นผู้ดำเนินการนักเรียนมีการเรียนรู้ความบกพร่อง (LD) ขณะที่ก่อนหน้านี้มีศึกษาส่วนใหญ่เน้นการเขียนกลศาสตร์และไวยากรณ์ ล่าสุดการศึกษามีระบุวิธีการปรับปรุงเขียนเนื้อหาการเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับอิทธิพล โดยการพัฒนาขององค์ความรู้แบบที่เขียนที่เน้นการดำเนินงานทางจิตโดยนักเขียนที่มีฝีมือการจ้างงาน(เฮย์สและดอกไม้ 1986 Scardamalia &Bereiter, 1986) อุทิศเขียนทักษะการจัดการที่ดีของเวลาในการวางแผน แก้ไขการตรวจสอบ ประเมินผล และการจัดการการเขียน (Graham & Harris2002) . การสอนเขียนให้นักเรียนมี LD วิจัยได้เลื่อนขึ้นการระบุวิธีการพัฒนาเขียนกลยุทธ์และกระบวนการเหล่านี้เขียนวิจัยได้ยังรับอิทธิพลมาโดย metaanalysis ของ Hillocks (1984)การเขียนคำสั่ง หน้าพบว่ามีประสิทธิภาพการเขียนบทเรียนมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน และเฉพาะเจาะจง และนักเรียนที่เตรียมจะเขียนเกี่ยวกับการหัวข้อนี้ การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพเขียนลักษณะพิเศษโดยการวางแผนกิจกรรมที่ช่วยให้การระดมความคิดนักเรียนจัดระเบียบข้อมูลก่อนเขียนของ hillocks (1984) วิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตที่เก่าเขียนกิจกรรม เช่นรวมประโยคง่าย ๆ เข้าเพิ่มเติมประโยคซับซ้อน มีประสิทธิภาพมากน้อยกว่าชุดบูรณาการของบทเรียนที่เขียนทั้งหมดถูกตรวจสอบกระบวนการ ได้ผลแม้แต่น้อยวิธีการที่นักเรียนเพียงเขียนจัดการดีของข้อความที่มีน้อยที่สุดคำแนะนำจากครู หรือพยายามที่จะเพื่อเลียนแบบคุณลักษณะของการเขียนที่ดีพบในการทำงานของผู้อื่น มีประสิทธิภาพน้อยมีแนวทางที่มุ่งเน้นเรียนทั้งในส่วนของการพูดและประโยคเศษนอกจากของ Hillocks metaanalysisและเน้นลักษณะเชิงกลยุทธ์ของการเขียน เกิดใหม่หลายส่วนเหตุผลอื่น ๆรุ่นนี้เนื้อคุณภาพสูงวิจัย นักวิจัยหลายคนดูคำสั่งเขียนเป็นหนึ่งในไม่กี่ด้านการเรียนการสอนการศึกษาพิเศษครูอาจช่วยให้นักเรียนเรียนรู้การแสดงความคิดของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพExpository เขียนให้นักเรียนแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของพวกเขาจงกรม- และความเข้าใจปัญหาของสังคม การเมือง ประวัติศาสตร์ และ(Gersten & เบเกอร์ 2001)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

uring ผ่านมา 15 ปีเป็น IMT
จำนวน pressive ของการแทรกแซง
การศึกษาวิจัยในพื้นที่
ของการเขียนที่แสดงออกได้รับการดำเนินการ
กับนักเรียนกับการเรียนรู้
ความพิการ (LD) ในขณะที่การศึกษาก่อนหน้านี้
ที่เน้นส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเขียน
กลศาสตร์และไวยากรณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้
เคยมีการศึกษาวิธีการปรับปรุง
. เขียนเนื้อหา
การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับอิทธิพลจากการพัฒนา
ของแบบจำลององค์ความรู้ในการเขียน
ที่เน้นการดำเนินงานจิต
ลูกจ้างโดยนักเขียนที่มีทักษะ
(ฮาเยส & ดอกไม้ 1986; Scardamalia และ
Bereiter, 1986) นักเขียนที่มีฝีมืออุทิศ
จัดการที่ดีของเวลาในการวางแผนการแก้ไข,
การตรวจสอบประเมินผลและการจัดการ
กระบวนการเขียน (เกรแฮมและแฮร์ริส,
2002) ในการเรียนการสอนการเขียนให้กับนักเรียน
ด้วยเหอะพยายามในการวิจัยได้เลื่อน
การระบุวิธีการในการพัฒนา
กลยุทธ์การเขียนเหล่านี้และกระบวนการ.
การเขียนงานวิจัยยังได้รับอิทธิพล
จากปิดกั้นของ (1984) การวิเคราะห์อภิมาน
ของการเขียนการเรียนการสอน โขด
พบว่าบทเรียนการเขียนที่มีประสิทธิภาพ
มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงและ
นักเรียนเตรียมที่จะเขียนเกี่ยวกับเฉพาะ
หัวข้อ การเรียนการสอนการเขียนที่มีประสิทธิภาพ
โดดเด่นด้วยการวางแผน
กิจกรรมการระดมความคิดที่ช่วยให้
นักเรียนจัดระเบียบข้อมูลก่อนที่จะมี
การเขียน.
ปิดกั้นของ (1984) การวิเคราะห์อภิมาตั้งข้อสังเกต
ว่ากิจกรรมการเขียนเก่าเช่น
การรวมประโยคง่ายๆเข้าไปมากขึ้น
ประโยคที่ซับซ้อนได้มีประสิทธิภาพมากน้อย
กว่าชุดบูรณาการของ
บทเรียนที่แยบยลเขียนทั้ง
กระบวนการ แม้จะมีประสิทธิภาพน้อยเป็น
วิธีการในการที่นักเรียนเพียงเขียนที่ดีของข้อความที่มีน้อยที่สุด
คำแนะนำจากครูหรือพยายาม
ที่จะเลียนแบบคุณสมบัติของการเขียนที่ดี
ที่พบในการทำงานของคนอื่น ๆ มีประสิทธิภาพน้อยที่สุด
เป็นวิธีการที่มุ่งเน้น
ในการศึกษาชิ้นส่วนในการพูดและประโยค
เศษ.
นอกจากการวิเคราะห์อภิมานปิดกั้นของ
และเน้นถึงที่เกิดขึ้นใหม่ในลักษณะเชิงกลยุทธ์ของการเขียนหลาย
เหตุผลอื่น ๆ ส่วนร่วมในการ
สร้างร่างกายที่มีคุณภาพสูงนี้
การวิจัย นักวิจัยหลายคนมองว่า
การเขียนคำแนะนำและเป็นหนึ่งในไม่กี่คน
ด้านการเรียนการสอนการศึกษาพิเศษ
ในการที่ครูจะช่วยให้นักเรียนได้
เรียนรู้ที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
การเขียนความเรียงช่วยให้
นักเรียนที่จะแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของ
มุมมองบนและความเข้าใจ
ของสังคมการเมืองและประวัติศาสตร์ ประเด็น
(Gersten & Baker, 2001)