The second assumption about Ayudhya

The second assumption about Ayudhya as a successful centralized kingdom is a consequence of conceptualizing the reforms of King Trilok as a watershed in the Ayudhya political system in the second half of the 15th century. Trilok's been famous rearrangement of the Ayudhya administration ha understood as a tremendous attempt by a central Thai king to establish the first centralized bureaucratic system in order to put an end to the weakness of the previous system in which kinship connection and marriage alliances were the major in gredients, HG Quaritch Wales, for example, believed that King Trilok, with the help of Khmer officials, captured and brought back to the Siamese court by his father, Boromracha ll, after the sack of Angkor Thom in A D. 1431, could strengthen his power by changing the basis of the feudal system from a territorial to and by evo ng a centralized and function a personal one y differentiated sys of administra n for the area now placed under the direct control of the capital."

King Trilok's Phra Aiyakan Tammaeng Na Phonlaruan, Phra Aivakan Tamnaens Na Thaluan g and Kot Montie ban (Law of the Civil Hierarchy, the Laws of the Military of 1454 and the Palatine Law of 1458) are commonly used by his torians as blue prints to characterize the pattern of the admin- istrative system of ancient Ayudhya and to evaluate its degree of centralization from the 15th century onward. Trilok's pat tern of provincial hierarchies and Pa ne Law has been un derstood to mean that regional rulers whose ancestors had ruled over independent principalities were unwillingly replaced by members of the central dynasty sent by the king after their region had been annexed and made part of Ayudhya. As a result their autonomy completely perished as in the case of Sukhothai. In my opinion, the reforms of King Trilok did not remove the autonomy of the regional governors. In actual practice, the king at the capital en had make a compro- mise by selecting provincial governors from the family o families of their own ang (city). In the latter half of the 17th century La Loubere, the French ambassador to King Narai's court, observed that the governorships of muang tended to be hereditary and because of this "it is no difficult matter for some these Governors, and especially the most powerful

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมมติฐานที่สองเกี่ยวกับกรุงศรีอยุธยาเป็นราชอาณาจักรส่วนกลางที่ประสบความสำเร็จเป็นผลมาจากการคิดออกแบบการปฏิรูปของกษัตริย์ Trilok เป็นสันปันน้ำในระบบการเมืองของกรุงศรีอยุธยาในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 15 ที่เป็น Trilok ได้รับการปรับปรุงใหม่ที่มีชื่อเสียงของการบริหารฮ่าอยุธยาเข้าใจว่าเป็นความพยายามที่ยิ่งใหญ่โดยพระมหากษัตริย์ไทยเป็นศูนย์กลางในการสร้างระบบราชการครั้งแรกที่ส่วนกลางเพื่อที่จะหมดสิ้นไปความอ่อนแอของระบบก่อนที่การเชื่อมต่อเครือญาติและพันธมิตรการแต่งงานเป็นหลักในการ gredients, HG Quaritch เวลส์เช่นเชื่อว่าพระมหากษัตริย์ Trilok ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่เขมรจับและนำกลับไปยังศาลสยามโดยพ่อของเขา Boromracha LL หลังจากกระสอบนคร ธ มใน บริษัท A D. 1431 ที่สามารถสร้างความเข้มแข็ง อำนาจของเขาโดยการเปลี่ยนพื้นฐานของระบบศักดินาจากดินแดนและ EVO ng ส่วนกลางและทำงานส่วนบุคคลหนึ่ง y ที่แตกต่าง SYS ของ n รัฐประศาสนศาสตร์สำหรับพื้นที่ที่วางไว้ภายใต้การควบคุมโดยตรงของทุน. "คิงTrilok ของพระ Aiyakan Tammaeng นา Phonlaruan พระ Aivakan Tamnaens นา Thaluan กรัมและกด Montie ห้าม (กฏหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งลำดับชั้นกฎหมายของทหาร 1454 และกฎหมายของราชสำนัก 1458) ที่ใช้กันทั่วไปโดย torians ของเขาเป็นภาพพิมพ์สีฟ้าที่จะอธิบายลักษณะรูปแบบของผู้ดูแลระบบที่ - ระบบการ istrative กรุงศรีอยุธยาโบราณและการประเมินระดับของการรวมศูนย์อำนาจจากศตวรรษที่ 15 เป็นต้นไป นกนางนวล pat Trilok ของลำดับชั้นของจังหวัดและป่ากฎหมายภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับการยกเลิก derstood หมายความว่าผู้ปกครองในระดับภูมิภาคที่มีบรรพบุรุษได้ปกครองอาณาเขตอิสระถูกแทนที่ไม่เต็มใจโดยสมาชิกของราชวงศ์กลางที่ส่งมาจากกษัตริย์หลังจากภูมิภาคของพวกเขาได้รับการผนวกและทำให้ส่วนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา . เป็นผลให้ความเป็นอิสระของพวกเขาเสียชีวิตอย่างสมบูรณ์เช่นในกรณีของสุโขทัย ในความคิดของการปฏิรูปของกษัตริย์ Trilok ไม่ได้เอาความเป็นอิสระของผู้ว่าการรัฐในระดับภูมิภาค ในทางปฏิบัติที่เกิดขึ้นจริงกษัตริย์ที่เมืองหลวง en มีให้ mise compro- โดยการเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดจากครอบครัว o ครอบครัวของพวกเขาเองอ่างทอง (เมือง) ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 17 La Loubere เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสที่ศาลสมเด็จพระนารายณ์ฯ ข้อสังเกตว่า governorships ของเมืองมีแนวโน้มที่จะมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและด้วยเหตุนี้ "มันเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ว่าบางเหล่านี้และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เดาว่าเกี่ยวกับกรุงศรีอยุธยาเป็นอาณาจักรที่ประสบความสำเร็จโดยเป็นผลมาจากการค้นหาแนวคิดการปฏิรูปของกษัตริย์ trilok เป็นพื้นที่รับน้ำในอยุธยา ระบบการเมืองในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 15trilok ได้รับการปรับปรุงใหม่ของอยุธยาที่มีชื่อเสียงการบริหารฮาเข้าใจเป็นมหาศาลพยายามโดยกษัตริย์ไทยกลางเพื่อสร้างแรกส่วนกลางราชการระบบเพื่อให้หมดสิ้นไป ความอ่อนแอของระบบก่อนหน้าที่ความสัมพันธ์เครือญาติและการแต่งงาน พันธมิตร เป็นหลักใน gredients , Hg Quaritch เวลส์ ตัวอย่างเช่น เชื่อกันว่ากษัตริย์ trilok ,ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่เขมรจับตัวและพากลับไปที่ลานสยาม โดยบิดาของเขา boromracha จะหลังจากกระสอบของนครธมใน 1431 . ,สามารถเสริมพลังของเขา โดยการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของระบบศักดินาจากดินแดนและโดย Evo ของส่วนกลางและฟังก์ชันหนึ่งบุคคลและความแตกต่าง SYS ผู้บริหารเพื่อพื้นที่ขณะนี้อยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงของเมืองหลวง "

trilok กษัตริย์ของพระ aiyakan tammaeng na phonlaruan , พระ aivakan tamnaens na thaluan กรัม แล้วกด montie บ้าน ( กฎของลำดับชั้นของพลเรือนกฎหมายของทหารของตัวกฎหมายและเพดานปาก 1369 ) มักใช้โดย torians ของเขาเป็นสีฟ้าพิมพ์ในลักษณะรูปแบบของ ระบบ admin - istrative อยุธยาโบราณ และประเมินระดับของการรวมศูนย์อำนาจจากศตวรรษที่ 15 เป็นต้นไปtrilok แพทเทินของชนชั้นต่างๆ ของจังหวัด และกฎหมายไม่ป่าได้รับอุน derstood หมายความว่าแคว้นผู้ปกครองที่มีบรรพบุรุษมีอาณาเขตปกครองอิสระถูกแทนที่โดยสมาชิกของราชวงศ์ที่แกนกลางโดยพระราชาตามภูมิภาคของพวกเขาถูกยึดและทำให้ส่วนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา ผลของความสมบูรณ์เสียชีวิต เช่นในกรณีของสุโขทัย ในความเห็นของผมการปฏิรูปของกษัตริย์ trilok ไม่ได้เอาเอกราชของผู้ว่าการภาค ในการปฏิบัติจริง กษัตริย์ในเมืองหลวง และได้ให้คอมโปร - ฐานโดยเลือกผู้ว่าการจังหวัดจากครอบครัวหรือครอบครัวของงตนเอง ( เมือง ) ในครึ่งหลังของศตวรรษที่ 17 ลา loubere , ทูตฝรั่งเศสของสมเด็จพระนารายณ์ คอร์ทสังเกตว่า governorships เมืองมีแนวโน้มทางพันธุกรรมและด้วยเหตุนี้มันไม่ยากอะไรสำหรับบางเหล่านี้ผู้ว่าการ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีประสิทธิภาพที่สุด