The Open Approach consisted of 4 phases in sequence as follows: 1) Posing open-ended problem; 2) Students’ self learning; 3) Whole class discussion and comparison; and 4) Summarization through connecting students’ mathematical ideas emerged in the classroom (Inprasitha, 2010) based on basis of management the students for obtaining: 1) the motivation for students’ interest to enjoy mathematics, the best opportunity as well as environment should be provided for students to learn; 2) the type of open-ended problem, the unfamiliar problems were used. In addition, the problem should provide open process, open product, and guidelines for developing the open-ended problem which was called open-ended problem; 3) the evaluation in students’ guidelines of answers should be various ways (Nohda, 2000). The students were courage to think, do, express themselves, and concluded knowledge by themselves (Inpra-sitha & Loipha, 2007). In the Open Approach, communication among students in classroom was developed with worth (Isoda, Shimizu, & Ohtani, 2007). Many researchers stated that the mathematical communication was necessary for mathematics learning (Sierpinska, 1998) gave an importance to characteris-tics of mathematical communication and interaction partici-pated by students in learning (Emori, 2005; Sierpinska, 1998) Furthermore, it was depended on basis of communication (Emori, 2005). Mathematics communication was mathematical learning process as an important part of techniques for sharing one’s ideas which could help students to learn meaningfully (National Council of Teacher of Mathematics, 2000). Consequently, the teachers should encourage their students to discuss as well as shared their ideas with each other (Cooke & Buchholz, 2005).
วิธีเปิดประกอบด้วย 4 ระยะตามลำดับดังนี้: 1) วางตัวปัญหาปลายเปิด 2) นักเรียนของตนเองเรียนรู้ 3) เรียนสนทนาและเปรียบเทียบ ทั้งหมด และ 4) สรุปผ่านการเชื่อมต่อความคิดทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนปรากฏขึ้นในห้องเรียน (Inprasitha, 2010) อยู่บนพื้นฐานของการจัดการศึกษาสำหรับการได้รับ: 1) ควรให้แรงจูงใจให้นักเรียนสนใจกับคณิตศาสตร์ ดีที่สุดโอกาส ตลอดจนสภาพแวดล้อมสำหรับนักเรียนที่จะเรียนรู้ 2) ชนิดของปัญหาแบบเปิด ปัญหาไม่คุ้นเคยก็ ปัญหาควรให้กระบวนการเปิด ผลิตภัณฑ์ และแนวทางการพัฒนาปัญหาปลายเปิดที่ถูกเรียกว่าปัญหาปลายเปิด 3) การประเมินในแนวทางนักเรียนตอบควรมีหลายวิธี (Nohda, 2000) นักเรียนได้กล้าคิด ทำ แสดง และสรุปความรู้ ด้วยตัวเอง (Inpra-sitha & Loipha, 2007) ในวิธีการเปิด ติดต่อสื่อสารระหว่างนักเรียนในห้องเรียนได้รับการพัฒนามีมูลค่า (Isoda ชิมิซุ & Ohtani, 2007) นักวิจัยมากมายระบุว่า การสื่อสารทางคณิตศาสตร์จำเป็นสำหรับวิชาคณิตศาสตร์ที่เรียน (Sierpinska, 1998) ให้ความสำคัญ characteris-tics คณิตศาสตร์การสื่อสารและโต้ตอบ partici pated โดยนักเรียนในการเรียนรู้ (โกะเอโมริ 2005 Sierpinska, 1998) นอกจากนี้ มันถูกขึ้นอยู่กับพื้นฐานของการสื่อสาร (โกะเอโมริ 2005) การสื่อสารคณิตศาสตร์คือคณิตศาสตร์กระบวนการเรียนรู้เป็นส่วนสำคัญของเทคนิคการใช้ร่วมกันของความคิดซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเรียนรู้มา (ชาติสภาของครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ 2000) ดังนั้น ครูควรส่งเสริมให้นักศึกษาเพื่อหารือ ตลอดจนร่วมความคิดกัน (คุกและบุคโฮลซ์ 2005)
การแปล กรุณารอสักครู่..

วิธีการเปิดประกอบด้วย 4 ขั้นตอนในลำดับได้ดังนี้ 1 ) วางตัวปัญหาปลายเปิด 2 ) การเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน และ 3 ) การอภิปรายทั้งชั้นเรียน และ การเปรียบเทียบ และการสรุปความของนักเรียน 4 ) ผ่านการเชื่อมต่อทางความคิดเกิดขึ้นในชั้นเรียน ( 2012 2010 ) บนพื้นฐานของการจัดการเรียนการ : 1 ) แรงจูงใจสำหรับนักเรียนสนใจที่จะสนุกกับคณิตศาสตร์โอกาสที่ดีที่สุด รวมถึงสภาพแวดล้อม ควรให้นักเรียนได้เรียนรู้ 2 ) ประเภทของปัญหาปลายเปิด ปัญหาที่ไม่คุ้นเคยการใช้ นอกจากนี้ ปัญหาที่ควรให้กระบวนการเปิดผลิตภัณฑ์เปิด และแนวทางการพัฒนาด้าน ปัญหาที่เป็นปัญหาปลายเปิด เรียกว่า 3 ) การประเมินผลของนักเรียน แนวทางของคำตอบควรเป็นรูปแบบต่างๆ ( nohda ,2000 ) นักเรียนมีความกล้าที่จะคิด ทำ แสดงออก และสรุปองค์ความรู้ด้วยตนเอง ( ดุรงคเดช sitha &ลอยฟ้า , 2007 ) ในการเปิด , การสื่อสารระหว่างนักเรียนในชั้นเรียนถูกพัฒนาด้วยมูลค่า ( isoda ชิมิสุ& ohtani , 2550 ) นักวิจัยหลายคนกล่าวว่า การสื่อสารทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ ( sierpinska คณิตศาสตร์ ,1998 ) ให้ความสำคัญกับ characteris tics การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และปฏิสัมพันธ์ในการเรียนรู้โดยนักเรียนเข้าร่วมป๋าเต็ด ( เอโมริ , 2005 ; sierpinska , 1998 ) นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับพื้นฐานของการสื่อสาร ( เอโมริ , 2005 )การสื่อสารคณิตศาสตร์คณิตศาสตร์การเรียนรู้เป็นส่วนสำคัญของเทคนิคสำหรับการแบ่งปันความคิด ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความหมาย ( สภาแห่งชาติของครูคณิตศาสตร์ , 2000 ) ดังนั้นครูควรกระตุ้นให้นักเรียนอภิปราย รวมทั้งแบ่งปันความคิดของพวกเขากับแต่ละอื่น ๆ ( คุก& Buchholz , 2005 )
การแปล กรุณารอสักครู่..
