Boy hits a paintingin Taipei, there

Boy hits a painting



in Taipei, there is an exhibition of artwork by Leonardo da Vinci, and by artists who he influenced. One boy at the exhibition lost his balance and put his hand through a painting. That painting is worth around $1.5 million.

A camera filmed the moment when this happened. You can see that the boy did not do this on purpose. He was probably listening to his teacher and was not looking where he was going.

The exhibition organisers will not charge the boy. They say that the painting can be easily restored. However, this incident can make people think about protecting paintings in the future.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาพวาดของคุณบอยในไทเป มีการจัดแสดงงานศิลปะ โดยดาวิ นชี Leonardo และศิลปินที่มีอิทธิพลต่อเขา เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่แสดงการสูญเสียสมดุล และใส่มือของเขาผ่านภาพวาด ภาพวาดที่มีมูลค่าประมาณ 1.5 ล้านเหรียญกล้องมาถ่ายทำเรื่องในขณะที่เมื่อเกิดขึ้น คุณสามารถดูว่า เด็กไม่ได้ทำนี้ใน เขาคงฟังเพื่อครู และถูกมองที่เขากำลังผู้แสดงจะคิดเด็ก พวกเขากล่าวว่า ภาพวาดจิตรกรรมสามารถได้คืน อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้สามารถทำให้คนที่คิดว่า เกี่ยวกับการปกป้องภาพในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บอยฮิตภาพวาดในไทเป, มีการจัดนิทรรศการศิลปะโดย Leonardo da Vinci และโดยศิลปินที่มีอิทธิพลต่อเขา เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่จัดแสดงนิทรรศการสูญเสียความสมดุลของเขาและเอามือของเขาผ่านภาพวาด ภาพวาดที่เป็นมูลค่าประมาณ $ 1,500,000. กล้องถ่ายทำในขณะนี้เกิดขึ้นเมื่อ คุณจะเห็นว่าเด็กไม่ได้ทำเช่นนี้กับวัตถุประสงค์ เขาอาจจะฟังครูของเขาและไม่ได้มองที่เขากำลังจะ. จัดนิทรรศการจะไม่คิดค่าบริการเด็ก พวกเขาบอกว่าภาพที่สามารถเรียกคืนได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้คนคิดเกี่ยวกับการปกป้องภาพวาดในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เด็กฮิตภาพ



ในไทเป มีนิทรรศการ งานศิลปะ โดย เลโอนาร์โด ดา วินชี และศิลปินที่เขาชักจูง เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่จัดแสดงนิทรรศการเสียการทรงตัวและใส่มือของเขาผ่านภาพวาด ภาพวาดที่มีมูลค่าประมาณ $ 1.5 ล้าน

กล้องถ่ายตอนที่มันเกิดขึ้น คุณสามารถเห็นได้ว่าเขาไม่ทำอะไรอย่างนี้เขาอาจจะฟังครูของเขาและไม่ได้มองไปไหน

งานผู้จัดจะไม่รับผิดชอบเด็ก พวกเขากล่าวว่า ภาพวาดที่สามารถเรียกคืน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ทำให้คนคิดว่าเกี่ยวกับการปกป้องภาพในอนาคต