Purpose: The purpose of this study

Purpose: The purpose of this study was to investigate the prevalence of attention deficit hyperactivity disorder (ADHD) among elementary school children in South Korea and identify influencing factors of ADHD tendency. Methods: A self-report survey was conducted upon 4th-6th grade elementary schoolchildren in South Korea. One hundred and fifty five elementary schoolchildren were included in the study. The instruments used in the present study were Korean Parent and Teacher ADHD Rating Scale and Lifestyle-related Questionnaire. Statistical analysis was performed using SPSS WIN 18.0 program. For data analysis, t-test, and multiple logistic regression were used. Results: The average ADHD score of the participants was 25.22, which indicates moderate level of ADHD. Our findings showed that 59% of the subjects had a ADHD tendency. Significant predictors of ADHD tendency were ‘unbalanced diet’, ‘gender’, ‘school achievement’, ‘breakfast’ and ‘fast food intake’. The present analysis of the dietary factors affecting ADHD in older elementary students found that children on an unbalanced diet were 14.63 times more disposed toward ADHD than those who maintained a balanced diet. Conclusion: The findings of the present study suggest that special concerns should be made for early detection of ADHD in elementary school children. In particular, specific strategies focusing on food intake pattern and fast food intake may effectively reduce the risk of ADHD in elementary school children.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้มีความชุกของสมาธิ (ภาระผูกพัน) ระหว่างเด็กนักเรียนประถมศึกษาในประเทศเกาหลีใต้ และระบุปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแนวโน้มภาระผูกพันของ วิธีการ: การสำรวจตนเองรายงานถูกดำเนินเมื่อ 4 6 ระดับประถมศึกษา schoolchildren ประเทศเกาหลีใต้ Schoolchildren ประถมหนึ่งร้อยห้าสิบห้าถูกรวมในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาปัจจุบันถูก หลักเกาหลี และ สเกลอันดับครูภาระผูกพัน และแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต วิเคราะห์ทางสถิติได้ดำเนินการโดยใช้โปรแกรมโปรแกรมชนะ 18.0 ข้อมูลวิเคราะห์ t-ทดสอบ และถดถอยโลจิสติกหลายถูกใช้ ผลลัพธ์: การเฉลี่ยภาระผูกพันให้คะแนนของผู้เข้าร่วมได้ 25.22 ซึ่งบ่งชี้ว่า ระดับปานกลางของภาระผูกพัน ผลการวิจัยของเราพบว่า 59% ของหัวเรื่องที่มีแนวโน้มภาระผูกพัน Predictors สำคัญของแนวโน้มภาระผูกพันได้ 'แจกอาหาร' 'เพศ' 'ความสำเร็จโรงเรียน' 'อาหารเช้า' และ 'บริโภคอาหารจานด่วน' การวิเคราะห์ปัจจัยอาหารที่มีผลต่อภาระผูกพันในนักเรียนประถมศึกษาเก่าปัจจุบันพบว่า เด็กในอาหารไม่สมดุลได้ 14.63 ครั้งมากตัดแล้วต่อภาระผูกพันมากกว่าผู้ที่รักษาสมดุล สรุป: ผลการวิจัยของการศึกษาปัจจุบันแนะนำว่า ควรทำพิเศษกังวลตรวจช่วงภาระผูกพันในเด็กประถม โดยเฉพาะ กลยุทธ์เฉพาะที่เน้นการบริโภคอาหารอย่างรวดเร็วและรูปแบบการรับประทานอาหารอาจมีประสิทธิภาพลดความเสี่ยงของภาระผูกพันในเด็กประถม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้เพื่อศึกษาความชุกของสมาธิสั้นนี้ (ADHD) ในเด็กที่โรงเรียนประถมศึกษาในเกาหลีใต้และระบุปัจจัยที่มีอิทธิพลของแนวโน้มที่สมาธิสั้น วิธีการ: การสำรวจตัวเองรายงานได้ดำเนินการเมื่อชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ 6 เด็กนักเรียนประถมศึกษาในเกาหลีใต้ หนึ่งร้อยห้าหมื่นห้าเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาได้รวมอยู่ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาปัจจุบันเป็นเกาหลีปกครองและครูสมาธิสั้นการจัดอันดับและแบบสอบถามมาตราส่วนไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ทางสถิติที่ได้ดำเนินการโดยใช้โปรแกรม SPSS WIN 18.0 โปรแกรม สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล t-test และหลายถดถอยโลจิสติถูกนำมาใช้ ผลการศึกษา: ผู้ป่วยสมาธิสั้นคะแนนเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมเป็น 25.22 ซึ่งบ่งชี้ในระดับปานกลางของสมาธิสั้น ค้นพบของเราแสดงให้เห็นว่า 59% ของอาสาสมัครมีแนวโน้มสมาธิสั้น พยากรณ์แนวโน้มที่สำคัญของผู้ป่วยสมาธิสั้นเป็น 'อาหารที่ไม่สมดุล', 'เพศ', 'ความสำเร็จของโรงเรียน', 'อาหารเช้า' และ 'การบริโภคอาหารอย่างรวดเร็ว' ปัจจุบันการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการบริโภคอาหารในผู้ป่วยสมาธิสั้นที่มีอายุมากกว่านักเรียนชั้นประถมพบว่าเด็กในอาหารที่ไม่สมดุลเป็น 14.63 ครั้งที่จำหน่ายขึ้นต่อสมาธิสั้นกว่าผู้ที่เก็บรักษาอาหารที่สมดุล สรุป: ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าความกังวลเป็นพิเศษควรจะทำในการตรวจหาต้นของสมาธิสั้นในเด็กนักเรียนชั้นประถม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลยุทธ์เฉพาะมุ่งเน้นไปที่รูปแบบการบริโภคอาหารและการบริโภคอาหารอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพอาจลดความเสี่ยงของโรคสมาธิสั้นในเด็กนักเรียนชั้นประถม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ : วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ เพื่อศึกษาความชุกของโรคสมาธิสั้นในเด็กประถมศึกษา ในเกาหลีใต้ และระบุปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแนวโน้มของสมาธิสั้น . วิธีการ : รายงานสำรวจเมื่อ 4th-6th เด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาในเกาหลีใต้หนึ่งร้อยห้าสิบห้าเบื้องต้นเด็กนักเรียนถูกรวมอยู่ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ ผู้ปกครองและครู อาการสมาธิสั้น มาตราส่วนและวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องแบบเกาหลี วิเคราะห์โดยใช้สถิติชนะ 18.0 โปรแกรม ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ t-test และการถดถอยโลจิสติกพหุที่ใช้ ผลลัพธ์ :ค่าเฉลี่ยของคะแนนของผู้เข้าร่วมเป็นสมาธิขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่า ระดับของอาการสมาธิสั้น ผลการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่า 59% ของนักเรียนมีสมาธิสั้น แนวโน้ม ตัวแปรสําคัญของสมาธิสั้นมีแนวโน้มถูก ' สมดุลอาหาร ' ' เพศ ' ' สำเร็จ ' โรงเรียน ' อาหารเช้า ' และ ' อาหารจานด่วนรับประทาน 'การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อปัจจุบันของอาหาร ADHD ในแก่นักเรียนประถมศึกษาพบว่า เด็กๆ ในอาหารที่สมดุลเป็น 14.63 ต่อครั้งมากกว่าคนที่ทิ้งสมาธิสั้นรักษาสมดุลอาหาร สรุป : ผลการศึกษาเสนอแนะว่าควรสร้างความกังวลพิเศษตรวจจับอาการสมาธิสั้นในเด็กประถมต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉพาะกลยุทธ์เน้นแบบแผนการบริโภคอาหาร และการบริโภคอาหารที่รวดเร็วอาจมีประสิทธิภาพลดความเสี่ยงของผู้ป่วยสมาธิสั้นในเด็กระดับประถมศึกษา