All these signs, statistical or ane

All these signs, statistical or anecdotal, tend to be clearest when the economy is growing fast, because they reflect spending that is sensitive to the state of the business cycle. Economists working in governments and central banks need indicators that give prompt warning of the trends, supplementing these with informal signs that can act as early alarm signals. By the time official stats are available, the last wave of specialty stores will have closed down — then it’s too late either to cool the boom or to temper the recession quickly by adjusting interest rates or using fiscal measures.

Better yet would be signals that can foretell the future of the economy, but there are fewer of these “leading indicators.” One of the earliest attempts to predict the business cycle looked at the pattern of sunspots. The British economist William Stanley Jevons argued in 1875 that sunspot activity was linked to subsequent weather patterns, and this in turn affected corn harvests. That sounds bizarre now, and was never a successful forecasting tool, but it was a not unreasonable attempt in an economy far more reliant on agriculture than ours is today.

Since then, stock markets have been the classic leading indicator, as investors are supposed to foresee the economic trends — with every incentive since they’re betting on them. But these days, greater skepticism about the rationality and efficiency of financial markets has undermined confidence in their predictive power.

Still, another standard financial sign of an impending downturn is the relationship between short- and long-term interest rates, known as the yield curve. Normally, this has an upward slope because investors need a higher return the longer their money is tied up. However, if they expect the economy to weaken soon, and the Federal Reserve to respond by cutting interest rates, the yield curve will slope down.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สัญญาณทั้งหมดเหล่านี้ ประวัติ หรือทางสถิติมักจะชัดเจนเมื่อเศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพวกเขาสะท้อนการใช้จ่ายที่มีความไวต่อสถานะของวงจรธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานในรัฐบาลและธนาคารกลางจำเป็นตัวชี้วัดที่ให้แจ้งเตือนแนวโน้ม เสริมเหล่านี้เป็นสัญญาณที่สามารถทำหน้าที่เป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้า ในขณะที่มีสถิติอย่างเป็นทางการ คลื่นล่าสุดของร้านค้าพิเศษจะได้ปิดลง — แล้วก็สายเกินไปเย็นบูม หรืออารมณ์ภาวะถดถอยอย่างรวดเร็ว โดยการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการใช้มาตรการทางการเงินยังดีกว่าจะเป็นสัญญาณที่สามารถทำนายทายทักอนาคตของเศรษฐกิจ แต่มีน้อยกว่าการ "ชี้นำ" หนึ่งในความพยายามแรกสุดทำนายวงจรธุรกิจมองไปที่รูปแบบของกระเนื้อ นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษวิลเลียมสแตนลีย์ Jevons โต้เถียงในปี 1875 ว่า กิจกรรมฉายเชื่อมโยงกับรูปแบบสภาพอากาศตามมา และผลผลิตข้าวโพดได้รับผลกระทบในการเปิดนี้ ที่เสียงแปลกประหลาดในตอนนี้ และเครื่องมือการคาดการณ์ความสำเร็จไม่เคย แต่มันเป็นความพยายามที่ไม่มีเหตุผลไม่มากพึ่งเกษตรเศรษฐกิจมากกว่าที่เรามีวันนี้ตั้งแต่นั้น ตลาดหุ้นมีตัวบ่งชี้ชั้นนำคลาสสิก เป็นนักลงทุนควรจะคาดหวังแนวโน้มเศรษฐกิจ — ด้วยทุกแรงจูงใจเนื่องจากพวกเขากำลังเดิมพันพวกเขา แต่วันนี้ สงสัยมากเกี่ยวกับเหตุผลและประสิทธิภาพของตลาดการเงินได้ทำลายความเชื่อมั่นในพลังของพวกเขาทำนายยังคง มาตรฐานการเงินสัญญาณของเศรษฐกิจกำลังมาเป็นความสัมพันธ์ระหว่างระยะสั้น และระยะยาวอัตราดอกเบี้ย เรียกว่างอิ้ง ปกติ นี้มีความลาดชันขึ้นเนื่องจากนักลงทุนต้องตอบแทนสูงอีกต่อไปเงินมัด อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาคาดว่าเศรษฐกิจจะลดลงเร็ว และการตอบสนอง โดยการตัดอัตราดอกเบี้ยเฟด งอิ้งจะลาดลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สัญญาณทั้งหมดเหล่านี้สถิติหรือประวัติมีแนวโน้มที่จะชัดเจนเมื่อเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วเพราะพวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงการใช้จ่ายที่มีความไวต่อรัฐของวงจรธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในรัฐบาลและธนาคารกลางต้องให้ตัวชี้วัดที่สามารถแจ้งเตือนของแนวโน้มเสริมเหล่านี้ที่มีอาการเป็นทางการที่สามารถทำหน้าที่ส่งสัญญาณเตือนภัยเป็นช่วงต้น ตามเวลาที่สถิติอย่างเป็นทางการจะมีคลื่นลูกสุดท้ายของร้านค้าพิเศษจะได้ปิดตัวลง - แล้วที่จะสายเกินไปอย่างใดอย่างหนึ่งให้เย็นบูมหรืออารมณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างรวดเร็วโดยการปรับอัตราดอกเบี้ยหรือการใช้มาตรการทางการคลัง.

ยังดีกว่าจะเป็นสัญญาณที่สามารถ ทำนายอนาคตของเศรษฐกิจ แต่มีจำนวนน้อยเหล่านี้ "ตัวชี้วัดชั้นนำ." หนึ่งในความพยายามที่เก่าแก่ที่สุดที่จะคาดการณ์วงจรธุรกิจมองไปที่รูปแบบของการ sunspots นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษวิลเลียมสแตนเลย์ Jevons ที่ถกเถียงกันอยู่ว่าในปี 1875 กิจกรรมจุดบอดบนดวงอาทิตย์ที่เชื่อมโยงกับรูปแบบสภาพอากาศที่ตามมาและในทางกลับได้รับผลกระทบการเก็บเกี่ยวข้าวโพด ที่ฟังดูแปลกประหลาดในขณะนี้และไม่เคยเป็นเครื่องมือการคาดการณ์ที่ประสบความสำเร็จ แต่มันก็เป็นความพยายามที่ไม่ได้ไม่มีเหตุผลในระบบเศรษฐกิจมากขึ้นพึ่งพาการเกษตรกว่าเราอยู่ในวันนี้.

ตั้งแต่นั้นมาตลาดหุ้นได้รับบ่งชี้ที่นำคลาสสิกขณะที่นักลงทุนควรจะ ล่วงรู้แนวโน้มเศรษฐกิจ - ทุกแรงจูงใจเนื่องจากพวกเขากำลังเดิมพันกับพวกเขา แต่วันนี้ความสงสัยมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นเหตุเป็นผลและมีประสิทธิภาพของตลาดการเงินได้ทำลายความเชื่อมั่นในอำนาจการพยากรณ์ของพวกเขา.

ยังคงอีกสัญญาณการเงินมาตรฐานของการชะลอตัวกำลังจะเกิดขึ้นคือความสัมพันธ์ระหว่างระยะสั้นและระยะยาวอัตราดอกเบี้ยที่รู้จักกันเป็นอัตราผลตอบแทน . โดยทั่วไปจะมีความลาดชันสูงขึ้นเนื่องจากนักลงทุนต้องการที่สูงขึ้นกลับมาอีกต่อไปเงินของพวกเขาจะถูกผูกขึ้น แต่ถ้าพวกเขาคาดว่าเศรษฐกิจจะลดลงเร็ว ๆ นี้และธนาคารกลางสหรัฐที่จะตอบสนองโดยการตัดอัตราดอกเบี้ยเส้นอัตราผลตอบแทนจะลาดลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สัญญาณเหล่านี้ สถิติ หรือ จด มีแนวโน้มที่ชัดเจนเมื่อเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วเพราะพวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงการใช้จ่ายที่ไวต่อสภาพของวัฏจักรธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานในรัฐบาลและธนาคารกลางต้องการตัวชี้วัดที่ให้แจ้งเตือนของแนวโน้มเสริมเหล่านี้กับป้ายไม่เป็นทางการที่สามารถทำหน้าที่เป็นสัญญาณปลุกแต่เช้า ตามสถิติอย่างเป็นทางการ เวลามีคลื่นสุดท้ายของร้านค้าพิเศษจะได้ปิดลงแล้ว มันดึกเกินไป ทั้งเย็น บูม หรือ อารมณ์ถดถอยอย่างรวดเร็ว โดยการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการใช้มาตรการการคลังดีกว่ายังเป็นสัญญาณที่สามารถทำนายอนาคตของเศรษฐกิจ แต่ก็มีจำนวนของเหล่านี้ " ดัชนี " หนึ่งของความพยายามแรกที่จะทำนายวัฏจักรธุรกิจมองรูปแบบของ sunspots . นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษวิลเลียม สแตนลีย์ เจวแย้งในกิจกรรมจุดมืด 1875 ที่เชื่อมโยงกับรูปแบบอากาศที่ตามมาและนี้ในการเปิดผลเก็บเกี่ยวข้าวโพด ฟังดูแปลกประหลาด และเคยเป็นเครื่องมือในการพยากรณ์ความสำเร็จ แต่มันก็ไม่มีเหตุผลที่พยายามพึ่งพาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเกษตรเศรษฐกิจไกลกว่าของเราวันนี้จากนั้น ตลาดหุ้นได้รับคลาสสิกตัวบ่งชี้นำ นักลงทุนควรจะคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจกับทุกแรงจูงใจตั้งแต่พวกเขากำลังเดิมพันกับพวกเขา แต่ทุกวันนี้ ความสงสัยมากขึ้นเกี่ยวกับความมีเหตุผลและประสิทธิภาพของตลาดการเงินได้บั่นทอนความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองยังมาตรฐานอื่น สัญญาณของการชะลอตัวทางการเงินที่คือความสัมพันธ์ระหว่างระยะสั้นและอัตราดอกเบี้ยระยะยาว เรียกว่าเส้นอัตราผลตอบแทน . ปกตินี้มีความลาดชันขึ้นเพราะนักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นอีกต่อไป เงินมัด อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเขาคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะลดลงในเร็วๆนี้ และเฟดจะตอบสนองโดยการตัดอัตราดอกเบี้ย เส้นอัตราผลตอบแทนจะลาดลง