It's thought to have been made in t

It's thought to have been made in the 15th century and was the cause of several wars before ending up for good in Bangkok in 1782. The image is considered a talisman and holds tremendous significance for Thailand and the Thais. The 'robe' that it wears is changed 3 times each year by the King himself, at the start of each season: A diamond encrusted gold robe during the hot season, a solid gold robe in the cool season and a gilded monk's robe in the rainy season.There are also many other Buddha images inside the temple.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก็คิดว่าจะต้องถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 และเป็นสาเหตุของสงครามหลายก่อนที่จะสิ้นสุดวันที่ดีขึ้นในกรุงเทพฯในปี 1782 ภาพที่ถือว่าเป็นยันต์และถือความสำคัญอย่างมากสำหรับประเทศไทยและคนไทย 'เสื้อ' ที่สวมมันมีการเปลี่ยนแปลง 3 ครั้งในแต่ละปีโดยกษัตริย์ของตัวเองที่เริ่มต้นของแต่ละฤดูกาล: เพชรเกรอะกรังเสื้อคลุมสีทองในช่วงฤดู​​ร้อน,เสื้อคลุมสีทองที่เป็นของแข็งในฤดูหนาวและเสื้อคลุมพระภิกษุสงฆ์ทองใน season.there ฝนนี้ยังมีพระพุทธรูปอื่น ๆ ภายในวัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันมีความคิดที่เกิดในศตวรรษ 15 และเป็นสาเหตุของสงครามหลายก่อนที่จะสิ้นสุดสำหรับดีในกรุงเทพใน 1782 รูปภาพถือเป็นมิ่ง และมีความสำคัญอย่างมากสำหรับประเทศไทยและคนไทย เสื้อ 'คลุม' ที่มันสวมเปลี่ยน 3 ครั้งแต่ละปี โดยตัวเอง ที่เริ่มต้นของแต่ละฤดูกาล: เพชรที่หุ้มห่อทองเสื้อคลุมในช่วงฤดูร้อน เสื้อคลุมเป็นทองทึบในฤดูเย็นและเสื้อคลุมของพระหอคำในฤดูฝนนอกจากนี้ยังมีหลายอื่น ๆ พุทธภายในวัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันเป็นความคิดจะได้มีการทำขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 และเป็นสาเหตุของสงครามหลายแห่งก่อนสิ้นสุดลงได้ในทางที่ดีในกรุงเทพฯ 1782 ภาพ ที่ได้รับการพิจารณาให้เครื่องรางและมีความสำคัญต่อจำนวนมหาศาลสำหรับประเทศไทยและคนไทยได้ 'เสื้อคลุม'ที่สวมใส่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งที่ 3 ปีโดยที่ตัวเขาเองที่เริ่มต้นของแต่ละฤดูกาลเพชรที่ห่อหุ้มเสื้อคลุมสีทองในช่วงฤดูร้อนนี้เสื้อคลุมสีทองที่แข็งแกร่งในช่วงฤดูร้อนและเสื้อคลุมอาบน้ำของทองพระที่อยู่ในช่วงฤดูฝนที่มียังมีพระพุทธรูปอื่นๆจำนวนมาก ภายใน วัด