In recent years there has been resu

In recent years there has been resurgence in popularity of dog training methods that espouse “dominance” models of dog behaviour. Dominance models suggest that wolves live in hierarchical packs with the alpha wolf at the top and that dogs evolved from wolves and also live in hierarchical packs and see us (humans) as part of their pack. Dominance theory assumes that most unwanted behaviour such as aggression is due to the dog trying to be ‘dominant’ or wanting to be the alpha dog in the pack. Therefore, dominance theory suggests, that the way to solve many behavioural problems such as aggression is to establish dominance as pack leader over the dog.
However, many of these assumptions are erroneous and are often harmful to dogs and the human-animal bond. A lot of initial research about wolf behaviour was conducted by studying captive wolves. This is because wild wolves tend to avoid humans and were difficult to study. It was these studies that generated the idea of ‘packs’ with the alpha male and female breeding pair at the top of the hierarchical structure. However in this false environment wolves could not disperse and escape from confrontation with other wolves, so relationships developed that are not necessarily reflected in more natural wolf groups. More recent studies of natural wolf groups show that they tend to live in families. The group usually consists of Mum and Dad, the current litter, and possible juveniles from one or two previous litters. Dominance contests in such packs are rare and the breeding pair is able to maintain group harmony without aggression.

Most scientists accept that dogs evolved from wolves or they had a common ancestor. However dogs are not wolves. They are different anatomically, physiologically and socially. The biggest difference between wolves and dogs is their ecological niche. Wolves, as a rule avoid humans whereas dogs have evolved to live near humans.

It is now widely recognised by animal behavioural specialists that dogs that use aggression towards humans or other dogs are not trying to be ‘dominant’. Rather, the aggression is usually the result of social confusion, frustration, fear, anxiety or learning. Dogs may use aggression as a means to control situations in which they feel frustrated, fearful or anxious. Some dogs are unable to navigate certain social and interactive demands placed upon them without showing aggression or reactivity. With repeated exposure to such situations dogs can learn that aggression ‘works’ and are more likely to use aggression to control similar situations in the future. If your dog is showing aggression, we suggest that you seek help from a veterinary behavioural specialist.

The ‘dominance’ model for dog behaviour poses serious dog welfare problems. Dominance models may use aversive training techniques such as “alpha rolls”, staring the dog down or other confrontational methods and punishment which can cause fear, pain and distress to dogs. In addition, these methods generally do not address the underlying cause of the unwanted behaviour which is why they are often unsuccessful. In fact, dominance training methods are not scientifically proven to be effective.

Aversive methods may also increase the dog’s underlying fear and anxiety which can actually make the unwanted behaviour much worse. Aversive methods can also reduce the quality of the relationship between the owner and the dog and they can place the owner at serious risk of physical injury.

When trying to change behaviour, try to think about the behaviours you would like your dog to perform and reward only for the responses that lead to those outcomes. This might include sitting rather than jumping on guests or chewing on a toy rather than your favourite pair of shoes. This approach revolves around positive reinforcement- i.e. rewarding behaviour that we like. Rewards can be food, toys or verbal praise. Basically, anything your dog will ‘work’ for.

Conversely, we also need to ensure that rewards for unwanted behaviour are removed. So, keep those shoes out of reach and try wherever possible to avoid any situations or triggers for unwanted behaviours.

The RSPCA’s position is that dogs should be trained using programs that are designed to facilitate the development and maintenance of acceptable behaviours using natural instincts and positive reinforcement. Aversion therapy and physical punishment procedures must not be used in training programs because of the potential for cruelty. Please see AVA Reward-based training for more information.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปีที่ มีการฟื้นตัวในความนิยมของวิธีการฝึกสุนัขที่เห็นโมเดล "ครอบงำ" ของพฤติกรรมสุนัข ปกครองรุ่นแนะนำว่า หมาป่าที่อาศัยอยู่ในชุดลำดับชั้นกับหมาป่าอัลฟ่าที่ด้านบน และว่า สุนัขที่วิวัฒนาการมาจากหมาป่า และยังอยู่ในชุดลำดับชั้น และเห็นเรา (มนุษย์) เป็นส่วนหนึ่งของชุดของพวกเขา ปกครองทฤษฎีสันนิษฐานว่าพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์มากที่สุดเช่นความก้าวร้าวเนื่องจากสุนัขพยายามที่จะเป็น 'หลัก' หรืออยากมาสุนัขอัลฟาใน pack ดังนั้น ทฤษฎีการปกครองแสดงให้เห็น ว่า วิธีการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมต่าง ๆ เช่นความก้าวร้าวคือการ สร้างการปกครองที่เป็นผู้นำแพ็คมากกว่าสุนัขอย่างไรก็ตาม หลายสมมติฐานเหล่านี้มีข้อผิดพลาด และมักเป็นอันตรายต่อสุนัขและความผูกพันของมนุษย์สัตว์ เริ่มต้นศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพฤติกรรมของหมาป่าดำเนินการ โดยการศึกษาหมาป่าเชลย ทั้งนี้เนื่องจากป่าหมาป่ามักจะ หลีกเลี่ยงมนุษย์ และก็ยากที่จะศึกษา ได้ศึกษาเหล่านี้ที่สร้างความคิดของ 'ชุด' อัลฟาชายและหญิงพันธุ์คู่ด้านบนของโครงสร้างลำดับชั้น อย่างไรก็ตามในสภาพแวดล้อมนี้เท็จ หมาป่าอาจไม่กระจาย และหลบหนีจากการเผชิญหน้ากับหมาป่าอื่น ๆ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ไม่จำเป็นต้องปรากฏในกลุ่มหมาป่าธรรมชาติมากขึ้น การศึกษาล่าสุดของกลุ่มหมาป่าธรรมชาติแสดงว่า พวกเขามักจะอาศัยอยู่ในครอบครัว โดยปกติกลุ่มประกอบด้วยแม่ และพ่อ ครอกปัจจุบัน และแต้มที่ได้จากหนึ่ง หรือสองครอกก่อนหน้า ปกครองการแข่งขันในชุดดังกล่าวเป็นของหายาก และคู่ผสมพันธุ์จะสามารถรักษากลุ่มสามัคคีโดยไม่รุกรานนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับว่า สุนัขที่วิวัฒนาการมาจากหมาป่า หรือพวกเขามีบรรพบุรุษร่วมกัน อย่างไรก็ตาม สุนัขไม่ได้หมาป่า พวกเขาจะแตกต่างกันตามหลักสรีรศาสตร์ สรีรวิทยา และต่อสังคม ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างหมาป่าและสุนัขเป็นช่องของระบบนิเวศ หมาป่า เป็นกฎหลีกเลี่ยงมนุษย์ในขณะที่สุนัขมีพัฒนาอยู่ใกล้มนุษย์มันคือตอนนี้รู้จัก โดยผู้เชี่ยวชาญพฤติกรรมสัตว์ที่สุนัขที่ใช้ความก้าวร้าวต่อมนุษย์หรือสุนัขอื่น ๆ กำลังพยายามที่จะ 'หลัก' ค่อนข้าง การรุกรานเป็นปกติผลของความสับสนทางสังคม แห้ว ความกลัว ความวิตกกังวล หรือการเรียนรู้ สุนัขอาจใช้ความก้าวร้าวการควบคุมสถานการณ์ที่พวกเขารู้สึกกลัว หรือวิตกกังวล ความผิดหวัง สุนัขบางไม่สามารถที่จะนำบางสังคมแบบโต้ตอบความต้องการ และวางพวกเขาโดยไม่แสดงความก้าวร้าวหรือการเกิดปฏิกิริยา มีสัมผัสซ้ำกับสถานการณ์เช่น สุนัขสามารถเรียนรู้ที่รุกราน 'งาน' และมีแนวโน้มการใช้ความก้าวร้าวเพื่อควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ ในอนาคต หากสุนัขของคุณจะแสดงความก้าวร้าว เราขอแนะนำให้ ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญพฤติกรรมสัตว์แบบ 'ปกครอง' สำหรับพฤติกรรมสุนัข poses ปัญหาสวัสดิการสุนัขอย่างจริงจัง ปกครองรุ่นอาจใช้เทคนิคฝึกอบรม aversive เช่น "ม้วนอัลฟา" จ้องมองสุนัขลงหรือวิธีการอื่น ๆ confrontational และลงโทษซึ่งอาจทำให้เกิดความกลัว ความเจ็บปวด และความทุกข์เพื่อสุนัข นอกจากนี้ วิธีการเหล่านี้โดยทั่วไปไม่จัดการสาเหตุพื้นฐานของพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งเป็นเหตุผลที่พวกเขามักไม่ประสบความสำเร็จ ในความเป็นจริง วิธีปกครองการฝึกอบรมจะไม่พิสูจน์แล้วจะมีประสิทธิภาพวิธี aversive อาจจะเพิ่มความกลัวพื้นฐานของสุนัขและความวิตกกังวลซึ่งจริง ๆ แล้วทำให้พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์มากยิ่งขึ้น วิธี aversive สามารถลดคุณภาพของความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและสุนัข และพวกเขาสามารถวางเจ้าที่รุนแรงเสี่ยงต่อการบาดเจ็บทางกายภาพเมื่อพยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม พยายามที่จะคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมคุณต้องการให้สุนัขของคุณเพื่อดำเนินการ และให้รางวัลสำหรับการตอบสนองที่นำไปสู่ผลลัพธ์เหล่านั้นเท่านั้น นี้อาจรวมถึงการนั่งมากกว่ากระโดดบนท่าน หรือเคี้ยวของเล่นมากกว่ารองเท้าคู่โปรดของคุณ วิธีการนี้หมุนรอบบวกเสริม-เช่นให้รางวัลพฤติกรรมที่เราชอบ รางวัลอาจเป็นอาหาร ของเล่น หรือวาจาสรรเสริญ โดยทั่วไป สิ่งที่สุนัขของคุณจะ 'ทำงาน' สำหรับในทางกลับกัน เรายังต้องให้แน่ใจว่า รางวัลสำหรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์จะถูกเอาออก ดังนั้น เก็บรองเท้าเหล่านั้นที่เข้าถึง และพยายามที่เป็นไปเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์หรือทริกเกอร์สำหรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ตำแหน่งของ RSPCA เป็นว่า สุนัขควรผ่านการฝึกอบรมการใช้โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการพัฒนาและบำรุงรักษาของพฤติกรรมที่ยอมรับโดยใช้สัญชาตญาณตามธรรมชาติและการเสริมแรงทางบวก รักษา aversion และขั้นตอนการลงโทษทางกายภาพต้องไม่ใช้ในโปรแกรมการฝึกอบรมเนื่องจากมีศักยภาพสำหรับความโหดร้าย โปรดดูตามเอวารางวัลการฝึกอบรมสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปีที่ผ่านมาได้มีการฟื้นตัวในความนิยมของวิธีการฝึกอบรมสุนัขที่รับหลักการ "การปกครอง" รูปแบบของพฤติกรรมสุนัข รูปแบบการปกครองชี้ให้เห็นว่าหมาป่าที่อาศัยอยู่ในแพ็คตามลำดับชั้นกับหมาป่าอัลฟาที่ด้านบนและว่าสุนัขวิวัฒนาการมาจากหมาป่าและยังมีชีวิตอยู่ในแพ็คตามลำดับชั้นและดูเรา (มนุษย์) เป็นส่วนหนึ่งของแพ็คของพวกเขา ทฤษฎีการปกครองอนุมานว่าพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์มากที่สุดเช่นการรุกรานเป็นเพราะสุนัขพยายามที่จะเป็น 'ที่โดดเด่นหรือต้องการที่จะเป็นสุนัขอัลฟาในแพ็ค ดังนั้นทฤษฎีการปกครองแสดงให้เห็นว่าวิธีที่จะแก้ปัญหาพฤติกรรมหลายอย่างเช่นการรุกรานคือการสร้างการปกครองในฐานะผู้นำแพ็คมากกว่าสุนัข.
แต่หลายสมมติฐานเหล่านี้มีความผิดพลาดและมักจะเป็นอันตรายต่อสุนัขและพันธบัตรมนุษย์สัตว์ มากของการวิจัยเบื้องต้นเกี่ยวกับพฤติกรรมของหมาป่าได้ดำเนินการโดยการศึกษาหมาป่าเชลย เพราะนี่คือหมาป่ามักจะหลีกเลี่ยงมนุษย์และเป็นเรื่องยากที่จะศึกษา มันเป็นการศึกษาเหล่านี้ที่สร้างความคิดของ 'แพ็ค' กับชายอัลฟาและคู่ผสมพันธุ์เพศหญิงที่ด้านบนของโครงสร้างลำดับชั้น อย่างไรก็ตามในสภาพแวดล้อมที่ผิดพลาดนี้หมาป่าไม่สามารถแยกย้ายกันไปและหลบหนีจากการเผชิญหน้ากับหมาป่าอื่น ๆ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ไม่จำเป็นต้องสะท้อนให้เห็นในกลุ่มหมาป่าธรรมชาติ จากการศึกษาล่าสุดในกลุ่มหมาป่าธรรมชาติแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะอยู่ในครอบครัว กลุ่มที่มักจะประกอบด้วยแม่และพ่อที่ทิ้งขยะในปัจจุบันและเยาวชนเป็นไปได้จากหนึ่งหรือสองลูกครอกก่อนหน้านี้ การแข่งขันการปกครองในชุดดังกล่าวเป็นของหายากและคู่ผสมพันธุ์คือสามารถที่จะรักษาความสามัคคีในกลุ่มโดยไม่รุกราน. นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับว่าสุนัขวิวัฒนาการมาจากหมาป่าหรือพวกเขามีบรรพบุรุษร่วมกัน แต่สุนัขไม่ได้หมาป่า พวกเขามีความแตกต่างกันทางกายภาพ, สรีรวิทยาและสังคม ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างหมาป่าและสุนัขเป็นช่องทางนิเวศวิทยาของพวกเขา หมาป่าเป็นกฎที่หลีกเลี่ยงมนุษย์ในขณะที่สุนัขได้พัฒนาไปอาศัยอยู่ใกล้มนุษย์. ตอนนี้มันเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางโดยผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ที่สุนัขที่ใช้ความก้าวร้าวต่อมนุษย์หรือสุนัขตัวอื่น ๆ ยังไม่ได้พยายามที่จะเป็น 'ที่โดดเด่น' ค่อนข้างก้าวร้าวมักจะเป็นผลมาจากสังคมสับสนแห้วกลัวความวิตกกังวลหรือการเรียนรู้ สุนัขอาจจะใช้ความก้าวร้าวเป็นวิธีที่จะควบคุมสถานการณ์ที่พวกเขารู้สึกผิดหวังที่น่ากลัวหรือวิตกกังวล สุนัขบางตัวไม่สามารถที่จะนำทางความต้องการของสังคมและการโต้ตอบบางอย่างวางอยู่บนพวกเขาโดยไม่แสดงความก้าวร้าวหรือการเกิดปฏิกิริยา ที่มีความเสี่ยงที่จะทำซ้ำสถานการณ์เช่นสุนัขสามารถเรียนรู้ว่าการรุกราน 'ทำงาน' และมีแนวโน้มที่จะใช้ความก้าวร้าวในการควบคุมสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต หากสุนัขของคุณมีการแสดงความก้าวร้าวเราขอแนะนำให้คุณขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตวแพทย์. 'การปกครอง' รุ่นสำหรับพฤติกรรมสุนัข poses ปัญหาสวัสดิการสุนัขร้ายแรง รูปแบบการปกครองอาจจะใช้เทคนิคการฝึกอบรม aversive เช่น "โรลอัลฟา" จ้องมองสุนัขลงหรือวิธีการอื่น ๆ คาดคั้นและการลงโทษซึ่งอาจทำให้เกิดความกลัวความเจ็บปวดและความทุกข์กับสุนัข นอกจากนี้วิธีการเหล่านี้โดยทั่วไปจะไม่ได้อยู่ที่สาเหตุพื้นฐานของพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งเป็นเหตุผลที่พวกเขามักจะไม่ประสบความสำเร็จ ในความเป็นจริงการฝึกอบรมวิธีการปกครองที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ. วิธีการ aversive ยังอาจเพิ่มความกลัวพื้นฐานของสุนัขและความวิตกกังวลที่จริงสามารถทำให้พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ที่เลวร้ายมาก วิธีการ aversive ยังสามารถลดคุณภาพของความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและสุนัขและพวกเขาสามารถวางเจ้าของที่มีความเสี่ยงที่ร้ายแรงของการบาดเจ็บทางกายภาพ. เมื่อพยายามที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมพยายามที่จะคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมที่คุณต้องการสุนัขของคุณในการดำเนินการและผลตอบแทน เพียงสำหรับการตอบสนองที่นำไปสู่ผลลัพธ์เหล่านั้น ซึ่งอาจรวมถึงการนั่งมากกว่าการกระโดดในผู้เข้าร่วมหรือเคี้ยวของเล่นมากกว่าคู่ที่คุณชื่นชอบของรองเท้า วิธีการนี้จะหมุนรอบบวก reinforcement- คือพฤติกรรมที่คุ้มค่าที่เราชอบ ผลตอบแทนที่สามารถเป็นอาหารของเล่นหรือการสรรเสริญด้วยวาจา อะไรทั่วไปสุนัขของคุณจะ 'งาน' สำหรับ. ตรงกันข้ามเรายังต้องให้แน่ใจว่าผลตอบแทนสำหรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์จะถูกลบออก ดังนั้นให้รองเท้าเหล่านั้นออกจากการเข้าถึงและพยายามไปได้ที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ใด ๆ หรือก่อให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์. ตำแหน่งของอาร์เอสเป็นสุนัขที่ควรได้รับการอบรมการใช้โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการพัฒนาและการบำรุงรักษาของพฤติกรรมที่ยอมรับได้โดยใช้สัญชาตญาณธรรมชาติและบวก การสนับสนุน การรักษาด้วยความเกลียดชังและขั้นตอนการลงโทษทางร่างกายจะต้องไม่ถูกนำมาใช้ในโปรแกรมการฝึกอบรมได้เนื่องจากการที่มีศักยภาพสำหรับความโหดร้าย โปรดดู AVA ฝึกอบรมรางวัลที่ใช้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปีที่ผ่านมา มีการฟื้นตัวในความนิยมของสุนัขการฝึกอบรมวิธีการที่นำมาใช้ " การปกครอง " รูปแบบของพฤติกรรมสุนัข รูปแบบการปกครองว่าหมาอยู่ในแพ็คชุดกับจ่าฝูงหมาป่าที่ด้านบนและสุนัขวิวัฒนาการมาจากหมาป่า และยัง อยู่ในแพ็คแบบลำดับชั้นและเห็นเรา ( มนุษย์ ) เป็นส่วนหนึ่งของฝูงของพวกเขา ทฤษฎีการปกครองถือว่า พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ก้าวร้าว เนื่องจากสุนัขพยายามที่จะ " เด่น " หรืออยากเป็นหมาอัลฟ่าในแพ็ค ดังนั้น ทฤษฎีการปกครองแนะนำว่า วิธีที่จะแก้ปัญหาพฤติกรรมหลายอย่าง เช่น ความก้าวร้าว เพื่อสร้างความเด่นเป็นแพ็คผู้นำมากกว่าสุนัขอย่างไรก็ตาม มีข้อสมมติฐานเหล่านี้ที่ผิดพลาดและมักจะเป็นอันตรายต่อสุนัขและพันธบัตรสัตว์มนุษย์ มากของการวิจัยเบื้องต้นเกี่ยวกับพฤติกรรมของหมาป่าถูกดำเนินการโดยศึกษาหมาป่าไว้ นี้เป็นเพราะหมาป่าป่ามักจะหลีกเลี่ยงมนุษย์ และเป็นเรื่องยากที่จะศึกษา ก็เหล่านี้การศึกษาที่สร้างความคิดของ " แพ็ค " กับอัลฟาชายและหญิงคู่ ผสมพันธุ์ที่ด้านบนของโครงสร้างแบบลำดับชั้น . อย่างไรก็ตามในสภาพแวดล้อมนี้เท็จหมาป่าไม่สามารถกระจายและหลบหนีจากการเผชิญหน้ากับหมาอื่น ๆเพื่อให้ความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นที่ไม่ได้สะท้อนให้เห็นในกลุ่มหมาป่าธรรมชาติมากขึ้น การศึกษาล่าสุดของกลุ่มหมาป่าธรรมชาติแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะอยู่ในครอบครัว กลุ่มมักจะประกอบด้วยของแม่และพ่อ ครอกปัจจุบัน และเยาวชนที่เป็นไปได้จากหนึ่งหรือสอง litters ก่อนหน้า ความเด่นของการประกวดในชุดนั้นหายากและพันธุ์คู่สามารถที่จะรักษาความสามัคคีในกลุ่มโดยไม่ก้าวร้าวนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับว่า สุนัขวิวัฒนาการมาจากหมาป่าหรือพวกเขามีบรรพบุรุษเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สุนัขไม่ได้เป็นหมาป่า พวกเขาจะแตกต่างกันตามกายวิภาคและสรีรศาสตร์ , สังคม ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างหมาป่าและสุนัขเป็นโพรงในระบบนิเวศของ หมาป่าเป็นกฎมนุษย์ในขณะที่หลีกเลี่ยงสุนัขมีวิวัฒนาการมาอยู่ใกล้มนุษย์คือตอนนี้การยอมรับอย่างกว้างขวางโดยผู้เชี่ยวชาญพฤติกรรมสัตว์ที่สุนัขที่ใช้ความก้าวร้าวต่อมนุษย์หรือสุนัขอื่น ๆ จะไม่พยายามที่จะ " เด่น " ค่อนข้าง ก้าวร้าว มักจะเกิดจากความสับสนของสังคม ความผิดหวัง ความกลัว ความวิตกกังวล หรือการเรียนรู้ สุนัขก้าวร้าว อาจใช้เป็นวิธีในการควบคุมสถานการณ์ที่พวกเขารู้สึกท้อแท้ หวาดกลัว หรือกังวล สุนัขบางตัวไม่สามารถที่จะนำทางและโต้ตอบความต้องการทางสังคมบางอย่างวางอยู่บนพวกเขาโดยไม่แสดงความก้าวร้าว หรือ 2 . ซ้ำการสุนัขดังกล่าวสถานการณ์สามารถเรียนรู้ว่าการรุกราน " ผลงาน " และมีแนวโน้มที่จะใช้ความก้าวร้าว เพื่อควบคุมสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันใน อนาคต หากสุนัขของคุณจะแสดงความก้าวร้าว เราแนะนำให้คุณขอความช่วยเหลือจากสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรม .โมเดล " การปกครอง " poses ปัญหาพฤติกรรมสุนัขหมาสวัสดิการที่ร้ายแรง รูปแบบการปกครอง อาจใช้เทคนิคการฝึกอบรม aversive เช่น " อัลฟาม้วน " จ้องมองสุนัขลง หรือวิธีการอื่นๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดการเผชิญหน้าและการลงโทษ ความกลัว ความเจ็บปวดและความทุกข์ให้กับสุนัข นอกจากนี้ วิธีการเหล่านี้โดยทั่วไปไม่ได้ที่อยู่สาเหตุของพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งเป็นเหตุผลที่พวกเขามักจะไม่สำเร็จ ในความเป็นจริงวิธีการฝึกอบรมการปกครองไม่ใช่การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่จะมีประสิทธิภาพวิธีการ aversive ยังอาจเพิ่มเป็นสุนัขต้นแบบความกลัวและความวิตกกังวลซึ่งจะทำให้พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงมาก วิธีการ aversive สามารถลดคุณภาพของความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและสุนัขและพวกเขาสามารถวางเจ้าของความเสี่ยงร้ายแรงของการบาดเจ็บทางกายภาพเมื่อพยายามที่จะเปลี่ยนพฤติกรรม พยายามที่จะคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมที่คุณต้องการสุนัขของคุณจะแสดงและรางวัลสำหรับการตอบสนองที่นำไปสู่ผลลัพธ์เหล่านั้น นี้อาจรวมถึงนั่งมากกว่าการกระโดดบนแขก หรือเคี้ยวของเล่นมากกว่าคู่ที่คุณชื่นชอบของรองเท้า วิธีการนี้หมุนรอบการเสริมแรงทางบวกคือให้รางวัลพฤติกรรมที่เราชอบ รางวัลสามารถ อาหาร ของเล่น หรือวาจาสรรเสริญ โดยทั่วไปสิ่งที่สุนัขของคุณจะ " ทำงาน " สำหรับในทางกลับกัน เรายังต้องให้แน่ใจว่ารางวัลสำหรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์จะถูกลบออก ดังนั้น เก็บรองเท้าเหล่านั้นออกจากการเข้าถึงและพยายามที่เป็นไปได้เพื่อหลีกเลี่ยงการใด ๆ หรือสถานการณ์ที่ก่อให้เกิด สำหรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ตำแหน่งของวิตกคือ สุนัขควรมีการอบรมการใช้โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการบำรุงรักษาของพฤติกรรมที่ยอมรับได้ใช้สัญชาตญาณธรรมชาติและการเสริมแรงที่เป็นบวก การรักษาทางกายภาพและขั้นตอนการลงโทษ จะต้องไม่ถูกใช้ในการฝึกอบรมเนื่องจากศักยภาพในความโหดร้าย โปรดดูรางวัลทั้งหมดการฝึกอบรมสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมตาม