their new fledgling strategies. In

their new fledgling strategies. In Higgins’ study[57] students worked on complex problems over the course of a week while receiving support from the teacher and engaging in classroom discussions on different problem-solving strategies. Compared to a control group, students at the end of the year reported stronger beliefs that mathematics was more than memorizing facts and procedures, and that they could develop knowledge and understanding through their efforts rather than relying on an authority figure. Similar success in improving students’ beliefs by using nonroutine, complex problems was reported with elementary and middle school children by Verschaffel,[58] Mason and Scrivani,[59] and Liu.[60] In addition, research shows that internships[20] and open-ended project-based[27,61] experiences taken by college students have impacted students’ beliefs about problem solving. The authors in these papers conjecture that the ambiguous context of the tasks caused the students to think about their STEM knowledge in more complex ways.
B. CREATING EPISTEMIC DOUBT IN LARGE INTRODUCTORY UNIVERSITY COURSES
For large introductory science courses it is difficult to implement project-based experiences[27,61]due to large staffing and time demands. An alternative that may impact students’ beliefs on problem solving and still fit within a course structure of lectures and recitations is the use of multifaceted

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กลยุทธ์นกของพวกเขาใหม่ ในการศึกษาของฮิกกินส์ นักเรียน [57] ทำงานในปัญหาที่ซับซ้อนตลอดสัปดาห์ในขณะที่ได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์ และร่วมอภิปรายในชั้นเรียนในกลยุทธ์การแก้ปัญหาแตกต่างกัน เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม นักเรียนสิ้นปีรายงานแข็งแกร่งเชื่อว่า คณิตศาสตร์เป็นมากกว่าจดจำข้อเท็จจริง และกระบวนการ และให้พวกเขาสามารถพัฒนาความรู้ และความเข้าใจผ่านความพยายามของพวกเขา มากกว่าพึ่งพาอำนาจการ สำเร็จที่คล้ายกันในการปรับปรุงความเชื่อของนักเรียนโดยใช้ปัญหาซับซ้อน nonroutine รายงาน มีเด็กนักเรียนประถม และ โดย Verschaffel เมสัน [58] [59] Scrivani และหลิว [60] นอกจากนี้ การวิจัยแสดงว่า การฝึกงาน [20] และเปิดโครงการตาม [27,61] ประสบการณ์นำ โดยนักศึกษาวิทยาลัยมีผลต่อความเชื่อของนักเรียนเกี่ยวกับการแก้ปัญหา ผู้เขียนในเอกสารเหล่านี้นึกว่า บริบทของงานไม่ชัดเจนเกิดจากนักเรียนคิดเกี่ยวกับความรู้ต้นกำเนิดในรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้นB. สร้าง EPISTEMIC สงสัยในหลักสูตรเบื้องต้นมหาวิทยาลัยสำหรับหลักสูตรวิทยาศาสตร์เบื้องต้นที่มีขนาดใหญ่ มันเป็นเรื่องยากในการดำเนินโครงการตามประสบการณ์ [27,61] เนื่องจากตลาดขนาดใหญ่และต้องการเวลา ทางเลือกที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อของนักเรียนในการแก้ปัญหา และเก็บภายในโครงสร้างหลักสูตรของการบรรยายและการอ่าน คือ การใช้หลายแง่มุม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กลยุทธ์ประสบการณ์ใหม่ของพวกเขา ในการศึกษาฮิกกินส์ [57] นักเรียนทำงานเกี่ยวกับปัญหาที่ซับซ้อนในช่วงสัปดาห์ในขณะที่ได้รับการสนับสนุนจากครูและมีส่วนร่วมในการอภิปรายในชั้นเรียนเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมนักเรียนในช่วงปลายปีที่รายงานมีความเชื่อว่าคณิตศาสตร์เป็นมากกว่าการท่องจำข้อเท็จจริงและขั้นตอนและว่าพวกเขาสามารถพัฒนาความรู้และความเข้าใจผ่านความพยายามของพวกเขามากกว่าอาศัยรูปที่ผู้มีอำนาจ ความสำเร็จที่คล้ายกันในการปรับปรุงความเชื่อของนักเรียนโดยใช้ nonroutine ปัญหาที่ซับซ้อนได้รับรายงานมีการประถมและมัธยมเด็กนักเรียนโดย Verschaffel [58] เมสันและ Scrivani [59] และหลิว. [60] นอกจากนี้การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการฝึกงาน [20] และปลายเปิดโครงการตาม [27,61] ประสบการณ์ถ่ายโดยนักศึกษามีผลกระทบต่อความเชื่อของนักเรียนเกี่ยวกับการแก้ปัญหา ผู้เขียนในเอกสารเหล่านี้คาดว่าบริบทที่ไม่ชัดเจนของงานที่เกิดจากนักเรียนที่จะคิดเกี่ยวกับความรู้ STEM ของพวกเขาในรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น.
บี สร้าง epistemic ข้อสงสัยในขนาดใหญ่มหาวิทยาลัยหลักสูตรเบื้องต้น
สำหรับขนาดใหญ่หลักสูตรวิทยาศาสตร์เบื้องต้นมันเป็นเรื่องยากที่จะใช้ประสบการณ์ตามโครงการ [27,61] เนื่องจากพนักงานและเวลาที่มีขนาดใหญ่ความต้องการ เป็นทางเลือกที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อของนักเรียนในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและยังคงพอดีภายในโครงสร้างหลักสูตรของการบรรยายและการทบทวนคือการใช้ multifaceted

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เน้นกลยุทธ์ใหม่ของพวกเขา ใน Higgins " การศึกษา [ 57 ] นักเรียนทำงานในปัญหาที่ซับซ้อนมากกว่าหลักสูตรของสัปดาห์ในขณะที่ได้รับการสนับสนุนจากครู และการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนการอภิปรายเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม นักเรียนในปีสุดท้ายของรายงานแข็งแกร่งความเชื่อว่าคณิตศาสตร์เป็นมากกว่าท่องจำและวิธีการที่พวกเขาสามารถพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ ผ่านความพยายามของพวกเขามากกว่าการพึ่งพาอำนาจของรูป ความสำเร็จที่คล้ายกันในการปรับปรุงความเชื่อของนักศึกษา โดยใช้ nonroutine ปัญหาที่ซับซ้อนได้รายงานเบื้องต้นและกลางโรงเรียนเด็กโดย verschaffel [ 58 ] เมสัน และ scrivani [ 59 ] และหลิว [ 60 ] นอกจากนี้ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการฝึกงาน [ 20 ] และ [ 3 ] ประสบการณ์ถ่ายงาน 27,61 นักศึกษาวิทยาลัยได้ก่อผลกระทบต่อนักเรียน " ความเชื่อเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา ผู้เขียนในเอกสารเหล่านี้คาดเดาว่าบริบทคลุมเครือของงานทำให้นักเรียนคิดเกี่ยวกับความรู้ต้นของพวกเขาในวิธีที่ซับซ้อนมากขึ้นข. การสร้างความสงสัยในความสัมพันธ์เบื้องต้นหลักสูตรมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่หลักสูตรวิทยาศาสตร์เบื้องต้น ขนาดใหญ่ มันยากที่จะใช้งาน 27,61 ประสบการณ์ [ ] เนื่องจากการขนาดใหญ่และเวลา ความต้องการ ทางเลือกที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อของนักเรียนในการแก้โจทย์ปัญหา และยังเหมาะกับโครงสร้างหลักสูตรของการบรรยายและอาขยานเป็นการใช้สถานะ