Home to an estimated 20,000 people,

Home to an estimated 20,000 people, Kampung Ayer consists of 28 contiguous stilt villages – named after the crafts and occupations traditionally practiced there – built along both (but especially the southern) banks of Sungai Brunei. A century ago, half of Brunei's population lived here, and even today many Bruneians – despite government inducements – still prefer the lifestyle of the water village to residency on dry land. If you look to the main roads on the opposite banks of the village you'll see luxury cars lined up on the shoulder of the road; many of these cars belong to water village residents. That said, Kampung Ayer is also home to a sizable population of undocumented immigrants that constitute Brunei's underclass.

Founded at least a thousand years ago, the village is considered the largest stilt settlement in the world and has its own schools, mosques, police stations and fire brigade. The houses, painted sun-bleached shades of green, blue, pink and yellow, have not been cutesified for tourists, so while it's far from squalid, be prepared for trash that, at low tide, carpets the intertidal mud under the banisterless boardwalks, some with missing planks. When Venetian scholar Antonio Pigafetta, who accompanied Ferdinand Magellan on his last voyage, visited Kampung Ayer in 1521, he dubbed it the 'Venice of the East', which is, as descriptions go, a bit ambitious.

A good place to start a visit – and get acquainted with Brunei's pre-oil culture – is the Kampung Ayer Cultural & Tourism Gallery , directly across the river from Sungai Kianggeh (the stream at the eastern edge of the city centre). Opened in 2009, this riverfront complex focuses on the history, lifestyle and crafts of the Kampung Ayer people and usually has a live handicrafts demonstration. Like many of the sultanate's public institutions, this one is overstaffed, yet somehow seems underserviced, leading to lots of people who spend much of their time just standing around. A square, glass-enclosed viewing tower offers panoramic views of the scene below.



Read more: http://www.lonelyplanet.com/brunei-darussalam/bandar-seri-begawan/sights/lakes-rivers-waterfalls/kampung-ayer#ixzz3dbgBlNGV

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หน้าแรกมีประมาณ 20000 คน นั่งกัมประกอบด้วย 28 หมู่บ้านทรงไทยอยู่ติดกันชื่อหลังจากงานฝีมือและอาชีพประเพณีปฏิบัติมี – สร้างตามทั้งสอง (แต่โดยเฉพาะภาคใต้) ของไกบรูไน ศตวรรษ ครึ่งหนึ่งของประชากรของบรูไนอาศัยอยู่ที่นี่ และทุกวันนี้หลาย Bruneians – แม้รัฐบาล inducements – ยังคงชอบวิถีชีวิตของหมู่บ้านน้ำซี่บนแผ่นดินแห้ง ถ้าคุณมองไปถนนสายหลักในหมู่บ้านฝั่งตรงข้าม คุณจะเห็นรถหรูตั้งเรียงรายบนไหล่ถนน ของรถยนต์เหล่านี้เป็นของน้ำอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ที่กล่าวว่า นั่งกัมเป็นบ้านของประชากรดาวอพยพไม่เกี่ยวกับเอกสารที่เป็น underclass ของบรูไนก่อตั้งน้อยพันปี หมู่บ้านถือว่าเป็นการชำระเงินทรงไทยใหญ่ที่สุดในโลก และโรงเรียน โบสถ์ สถานีตำรวจ และดับเพลิง บ้าน ทาสี bleached ซันเฉดสีของสีเขียว สีฟ้า สีชมพู และสี เหลือง มี cutesified สำหรับนักท่องเที่ยวไม่ได้ ดังนั้น ในขณะที่มันอยู่ไกลจากปรองดอง เตรียมพร้อมสำหรับขยะที่ ในน้ำ พรม intertidal โคลนภายใต้การ banisterless ทางเดินริมทะเล ที่หายไปลับแล เมื่อนักวิชาการ Venetian Pigafetta อันโตนิโอ ที่มาพร้อมกับเฟอร์ดินานด์มาเจลลันในการเดินทางของเขาล่าสุด เยี่ยมชมนั่งกัม 1521 เขาพากย์มันที่ 'เวนิสแห่งตะวันออก" ที่เป็น คำอธิบายไป ทะเยอทะยานมากขึ้นต้องเริ่มเดิน – และได้รู้จักกับวัฒนธรรมก่อนน้ำมันของบรูไน – เป็นกัม Ayer วัฒนธรรมและท่องเที่ยวแกลเลอรี่ ตรงข้ามแม่น้ำจากไก Kianggeh (กระแสขอบตะวันออกของเมือง) เปิดในปี 2009 ริเวอร์ฟร้อนท์นี้ซับซ้อนเน้นประวัติศาสตร์ ชีวิต และงานฝีมือของคนนั่งกัม และมักจะมีการสาธิตงานหัตถกรรมที่ถ่ายทอดสด สถาบันสาธารณะของสุลต่านหลาย เช่นนี้เป็น overstaffed ได้อย่างใด ดูเหมือน underserviced นำไปหลายคนที่ใช้จ่ายมากเวลาเพียงยืนอยู่รอบ สี่เหลี่ยม ตึกชมวิวว่ายน้ำมีทิวทัศน์ของฉากด้านล่างอ่านเพิ่มเติม: http://www.lonelyplanet.com/brunei-darussalam/bandar-seri-begawan/sights/lakes-rivers-waterfalls/kampung-ayer#ixzz3dbgBlNGV

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หน้าแรกไปประมาณ 20,000 คน, Kampung Ayer ประกอบด้วย 28 หมู่บ้านเสาต่อเนื่องกัน - ตั้งชื่อตามงานฝีมือและการประกอบอาชีพแบบดั้งเดิมที่ได้รับการฝึกฝนที่นั่น - ที่สร้างขึ้นพร้อมทั้ง (แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคใต้) ฝั่ง Sungai บรูไน ศตวรรษที่ผ่านมาครึ่งหนึ่งของประชากรของบรูไนอาศัยอยู่ที่นี่และแม้วันนี้หลายบรูไน - แม้จะจูงใจรัฐบาล - ยังคงต้องการการดำเนินชีวิตของหมู่บ้านน้ำเพื่อการอยู่อาศัยบนที่ดินแห้ง ถ้าคุณมองไปที่ถนนสายหลักบนฝั่งตรงข้ามของหมู่บ้านคุณจะเห็นรถคันหรูเรียงรายอยู่บนไหล่ของถนน; จำนวนมากของรถยนต์เหล่านี้เป็นที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านน้ำ ที่กล่าวว่า Kampung Ayer ยังเป็นบ้านที่มีประชากรขนาดใหญ่ของผู้อพยพที่เป็นสามัญบรูไนของ. ก่อตั้งขึ้นอย่างน้อยหนึ่งพันปีที่ผ่านมาหมู่บ้านถือว่าเป็นนิคมเสาที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีโรงเรียนของตัวเองมัสยิดสถานีตำรวจและ หน่วยดับเพลิง บ้านทาสีดวงอาทิตย์ฟอกขาวเฉดสีของสีเขียว, สีฟ้า, สีชมพูและสีเหลืองยังไม่ได้รับ cutesified สำหรับนักท่องเที่ยวดังนั้นในขณะที่มันห่างไกลจากความน่าสงสารจะเตรียมไว้สำหรับถังขยะที่ในเวลาที่น้ำลง, พรมโคลน intertidal ภายใต้ banisterless ปนเป บางคนที่มีไม้กระดานที่ขาดหายไป เมื่อนักวิชาการ Venetian อันโตนิโอกาเฟตที่มาพร้อมกับเฟอร์ดินานด์มาเจลลันในการเดินทางครั้งสุดท้ายของเขาเยี่ยม Kampung Ayer ใน 1521 เขาขนานนามมันว่า 'เวนิสแห่งตะวันออก' ซึ่งเป็นคำอธิบายไปนิดทะเยอทะยาน. สถานที่ที่ดีที่จะเริ่มต้นการเข้าชม - และได้รู้จักกับวัฒนธรรมบรูไนก่อนน้ำมัน - เป็น Kampung Ayer วัฒนธรรม & Gallery ท่องเที่ยวโดยตรงข้ามแม่น้ำสุไหงจาก Kianggeh (กระแสที่ขอบด้านตะวันออกของใจกลางเมือง) เปิดในปี 2009 ที่ซับซ้อนริมฝั่งแม่น้ำนี้มุ่งเน้นไปที่ประวัติศาสตร์วิถีชีวิตและงานฝีมือของคน Kampung Ayer และมักจะมีการสาธิตหัตถกรรมสด เช่นเดียวกับหลายสถาบันของรัฐสุลต่านของอันนี้ overstaffed แต่อย่างใดดูเหมือน underserviced นำไปสู่ผู้คนจำนวนมากที่ใช้จ่ายมากเวลาของพวกเขาเพียงแค่ยืนอยู่รอบ ๆ ตารางการรับชมที่หอกระจกล้อมรอบมีทัศนียภาพอันงดงามของฉากด้านล่าง. อ่านเพิ่มเติม:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บ้านประมาณ 20 , 000 คน , Kampung Ayer ประกอบด้วย 28 ติดกันขาหมู่บ้าน–ชื่อหลังจากที่งานฝีมือและอาชีพดั้งเดิมมีทั้งฝึก–สร้างขึ้นตาม ( แต่โดยเฉพาะภาคใต้ ) ธนาคารของ Sungai บรูไน ศตวรรษที่ผ่านมา ครึ่งหนึ่งของประชากรบรูไนอาศัยอยู่ที่นี่และแม้วันนี้หลาย inducements Bruneians –แม้จะมีรัฐบาลและชอบวิถีชีวิตของหมู่บ้านน้ำที่จะอยู่อาศัยบนดินแห้ง ถ้าคุณมองไปที่ถนนบนฝั่งตรงข้ามของหมู่บ้านคุณจะได้เห็นรถคันหรูเรียงรายอยู่บนไหล่ของถนน ; หลายของรถยนต์เหล่านี้เป็นของน้ำชาวบ้าน ที่กล่าวว่าKampung Ayer คือนอกจากนี้ภายในบ้านไปยังประชากรขนาดใหญ่ของผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร ประกอบ ใต้ชนชั้นของบรูไน

ขึ้นอย่างน้อยก็พันปีมาแล้ว หมู่บ้านถือว่าเป็นตีนเทียนการตั้งถิ่นฐานที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีโรงเรียนของตัวเอง , มัสยิด , สถานีตำรวจและดับเพลิง . บ้าน , ทาสีซันฟอกโทนสีเขียว สีฟ้า สีชมพู และสีเหลืองยังไม่ได้รับ cutesified สำหรับนักท่องเที่ยว ดังนั้นในขณะที่มันไกลจากสกปรก ถูกเตรียมไว้สำหรับขยะที่น้ำลง พรม โคลน ป่าโกงกาง ภายใต้ banisterless boardwalks บางแผ่นหายไป . เมื่อชาวเวนิส นักวิชาการ อันโตนิโอ ปิกาเฟตตา ใครพร้อม เฟอร์ดินานด์ มาเจลลันในการเดินทางครั้งสุดท้ายของเขาเข้าชม Kampung Ayer ในปี 1521 เขาขนานนามว่า " เวนิสแห่งตะวันออก " ซึ่งเป็นตามที่อธิบายไปทะเยอทะยานนิดหน่อย

เป็นสถานที่ที่ดีที่จะเริ่มต้นและการเยี่ยมชมและคุ้นเคยกับวัฒนธรรมของประเทศบรูไนก่อนน้ำมัน–เป็น Kampung Ayer วัฒนธรรม&การท่องเที่ยวหอศิลป์ ตรงข้ามแม่น้ำจาก Sungai kianggeh ( กระแสที่ขอบด้านตะวันออกของศูนย์กลางเมือง ) เปิดในปี 2009 นี้ พื้นที่ซับซ้อน เน้นประวัติศาสตร์วิถีชีวิตและศิลปะของ Kampung Ayer คนและมักจะมีชีวิตงานหัตถกรรม การสาธิต เช่นเดียวกับหลายของสุลต่านสถาบัน อันนี้ก็คือ overstaffed ยังอาจจะ underserviced ผู้นำหลายคนที่ใช้เวลามากของพวกเขาแค่ยืนดูอยู่รอบๆ ตาราง , กระจกล้อมรอบดูหอเสนอทัศนียภาพอันงดงามของฉากด้านล่าง .



อ่านเพิ่มเติม : http : / / www .โลนลี่แพลนเน็ต . com / บรูไนดารุสซาลาม / บันดาร์เสรีเบกาวัน / สถานที่ท่องเที่ยว / ทะเลสาบแม่น้ำน้ำตก / Kampung Ayer # ixzz3dbgblngv