It can be seen from Fig. 5(a) that

It can be seen from Fig. 5(a) that when the resistance
change, the waveform of the circle stator flux linkage produces
central offset with rather big estimation errors by comparison
to Fig. 4(d) and Fig. 6(d). The main reason for the errors is that
we use the formula (1) to estimate the stator flux linkage in the
traditional DTC. The stator resistance Rs is considered as a
constant in the formula (1), but the value of the actual stator
resistance Rs will increase with the temperature change of the
servo motor. When the value is not accord with the formula (1),
it certainly will lead to the estimation error of the stator flux
linkage. Fig. 5(b) shows the electromagnetic torque also
changes a lot when the speed suddenly changes at the
beginning and the time 0.2s. The maximum electromagnetic
torque is about 12.5Nm in the conventional DTC. That value is
larger than that in the EKF-DTC in Fig. 4(e) and Fig. 6(e).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จะเห็นได้จาก Fig. 5(a) ซึ่งเมื่อต่อต้านเปลี่ยนแปลง สร้างรูปคลื่นของการเชื่อมโยงฟลักซ์สเตวงกลมเซ็นทรัลตรงข้ามกับข้อผิดพลาดค่อนข้างใหญ่ประเมินโดยการเปรียบเทียบFig. 4(d) และ Fig. 6(d) เหตุผลหลักสำหรับข้อผิดพลาดคือเราใช้สูตร (1) การประเมินการเชื่อมโยงฟลักซ์สเตในการDTC ดั้งเดิม ความต้านทานสเต Rs ถือว่าเป็นการค่าคงที่ในสูตร (1), แต่ค่าของสเตจริงความต้านทาน Rs จะเพิ่ม ด้วยการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเซอร์โวมอเตอร์ เมื่อค่าไม่สอดคล้องกับสูตร (1),มันแน่นอนจะนำไปสู่ข้อผิดพลาดการประเมินของฟลักซ์สเตเชื่อมโยง Fig. 5(b) แสดงแรงบิดไฟฟ้ายังเปลี่ยนแปลงมากเมื่อความเร็วก็เปลี่ยนแปลงไปในการจุดเริ่มต้นและเวลา 0.2s ไฟฟ้าสูงสุดแรงบิดจะเกี่ยวกับ 12.5Nm ใน DTC ธรรมดา ค่าที่เป็นมีขนาดใหญ่กว่าที่ DTC EKF Fig. 4(e) และ Fig. 6(e)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันสามารถเห็นได้จากรูป (5) ว่าเมื่อความต้านทาน
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของคลื่นของวงกลมเชื่อมโยงฟลักซ์สเตเตอร์ผลิต
กลางชดเชยมีข้อผิดพลาดการประมาณค่าค่อนข้างใหญ่โดยเปรียบเทียบ
รูป Fig 4 (ง) และรูป 6 (ง) เหตุผลหลักสำหรับข้อผิดพลาดคือการที่
เราจะใช้สูตร (1) ในการประเมินการเชื่อมโยงฟลักซ์สเตเตอร์ใน
DTC แบบดั้งเดิม อาร์เอสเตเตอร์ต้านทานถือว่าเป็น
ค่าคงที่ในสูตร (1) แต่ค่าของสเตเตอร์ที่เกิดขึ้นจริง
อาร์เอต้านทานจะเพิ่มขึ้นด้วยการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของ
เซอร์โวมอเตอร์ เมื่อค่าไม่ได้สอดคล้องกับสูตร (1),
มันแน่นอนจะนำไปสู่ความผิดพลาดของการประมาณค่าของฟลักซ์สเตเตอร์
เชื่อมโยง มะเดื่อ 5 (ข) แสดงให้เห็นถึงแรงบิดแม่เหล็กไฟฟ้านอกจากนี้ยัง
มีการเปลี่ยนแปลงมากเมื่อความเร็วก็มีการเปลี่ยนแปลงที่
จุดเริ่มต้นและเวลา 0.2s แม่เหล็กไฟฟ้าสูงสุด
แรงบิดเป็นเรื่องเกี่ยวกับ 12.5Nm ใน DTC ธรรมดา ค่าที่
มีขนาดใหญ่กว่าที่อยู่ใน EKF-DTC ในรูป 4 (จ) และรูป 6 (จ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันสามารถเห็นได้จากรูปที่ 5 ( ) เมื่อความต้านทาน
เปลี่ยนรูปคลื่นวงกลมค่าฟลักซ์เชื่อมผลิต
กลางชดเชยกับค่าความคลาดเคลื่อนค่อนข้างใหญ่เมื่อเปรียบเทียบกับรูปที่ 4
( D ) และภาพที่ 6 ( D ) เหตุผลหลักสำหรับข้อผิดพลาดที่
เราใช้สูตร ( 1 ) ประมาณค่าฟลักซ์ การเชื่อมใน
ครบรอบแบบดั้งเดิม ความต้านทานสเตเตอร์ RS ถือเป็น
คงที่ในสูตร ( 1 ) แต่ค่าความต้านทานสเตเตอร์
อาร์เอสจริงจะเพิ่มขึ้นกับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงของ
เซอร์โวมอเตอร์ เมื่อค่าไม่ได้ตามสูตร ( 1 ) ,
มันแน่นอนจะนำไปสู่การประมาณค่าความคลาดเคลื่อนของค่าฟลักซ์
. ภาพที่ 5 ( b ) แสดงแรงแม่เหล็กไฟฟ้ายัง
เปลี่ยนแปลงมากเมื่อความเร็วถึงการเปลี่ยนแปลงที่
เริ่มต้นและเวลา 0.2s .แรงบิดสูงสุดแม่เหล็กไฟฟ้า
ประมาณ 12.5nm ใน DTC ตามปกติ นั่นคือคุณค่า
มากกว่าใน ekf-dtc ในรูปที่ 4 ( E ) และภาพที่ 6 ( E )