Phytic acid (myo-inositol 1,2,3,4,5

Phytic acid (myo-inositol 1,2,3,4,5,6-hexakisphosphate) or its salt, phytate is the major storage form of phosphorus in plants and represents 1–1.5% of weight and 60–80% of total phosphorus in cereals, legumes, and oil seeds [1]. Phytate is considered an anti-nutritional factor because of its high negatively charged structure and strong ability to chelate and bind minerals such as calcium, magnesium, zinc and iron [2]. It is also known to form complexes with proteins under both acidic and alkaline pH conditions affecting the proteins’ structure, thus decreasing the enzymatic activity, protein solubility and digestibility [3]. Phytate phosphorus is poorly utilized by non-ruminant animals such as pigs, poultry, human, and fish because of insufficient or lack of natural phytase activity in their gastrointestinal tract [4]. Animal feedstuffs are mainly of plant origin and therefore have a lot of phytate, but phytate phosphorous is not available for them and consequently, its excretion causes several environmental problems such as water pollution and eutrophication especially in areas of intensive livestock production

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรดไฟติก (myo-ทอ 1,2,3,4,5,6 hexakisphosphate) หรือเกลือของ phytate เป็นแบบฟอร์มเก็บข้อมูลสำคัญของฟอสฟอรัสในพืช และแสดงถึง 1 – 1.5% ของน้ำหนักและ 60-80% ของฟอสฟอรัสทั้งหมดในธัญพืช ถั่ว และน้ำมันเมล็ด [1] Phytate ถือว่าเป็นปัจจัยทางโภชนาการป้องกันเนื่องจากโครงสร้างประจุลบสูงและแข็งแกร่งสามารถ chelate และผูกแร่ธาตุเช่นแคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และเหล็ก [2] มันเป็นที่รู้จักกันจะฟอร์มคอมเพล็กซ์กับโปรตีนภายใต้เงื่อนไขทั้งสองค่า pH เป็นกรด และด่างที่มีผลกระทบต่อโครงสร้างของโปรตีน จึง ลดเอนไซม์ การละลายของโปรตีน และการย่อย [3] ไม่มีใช้ฟอสฟอรัส Phytate โดยสัตว์ไม่เคี้ยวเอื้องเช่นสุกร สัตว์ปีก มนุษย์ และปลาเนื่องจากไม่เพียงพอ หรือขาดกิจกรรมโอสเตบิลธรรมชาติในทางเดินอาหารของพวกเขา [4] Feedstuffs สัตว์ของพืชส่วนใหญ่ และมีจำนวนมาก phytate ดังนั้น แต่ไม่มีฟอสฟอรัส phytate สำหรับพวกเขา และจึง ขับถ่ายของทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่นมลพิษทางน้ำและผลกระทบต่อโดยเฉพาะในพื้นที่การผลิตปศุสัตว์แบบเร่งรัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรดไฟติก (Myo-ทอ 1,2,3,4,5,6-hexakisphosphate) หรือเกลือของไฟเตทเป็นรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญของฟอสฟอรัสในพืชและแสดงให้เห็นถึง 1-1.5% ของน้ำหนักและ 60-80% ของฟอสฟอรัสรวม ในธัญพืช, พืชตระกูลถั่วและเมล็ดพืชน้ำมัน [1] ไฟเตทถือเป็นปัจจัยป้องกันทางโภชนาการสูงเพราะโครงสร้างที่มีประจุลบและความสามารถที่แข็งแกร่งในการก้ามปูและผูกแร่ธาตุเช่นแคลเซียมแมกนีเซียมสังกะสีและเหล็ก [2] เป็นที่รู้จักกันในรูปแบบคอมเพล็กซ์กับโปรตีนภายใต้เงื่อนไขที่เป็นกรดด่างและอัลคาไลน์ที่มีผลต่อโครงสร้างโปรตีน 'จึงลดกิจกรรมของเอนไซม์ละลายโปรตีนและการย่อยได้ [3] phytate ฟอสฟอรัสถูกนำมาใช้ไม่ดีโดยสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์เคี้ยวเอื้องเช่นหมูสัตว์ปีกของมนุษย์และปลาเพราะขาดไม่เพียงพอหรือของกิจกรรม phytase ธรรมชาติในทางเดินอาหารของพวกเขา [4] สัตว์สัตว์ส่วนใหญ่มาจากพืชและดังนั้นจึงมีจำนวนมากของไฟเตท แต่ไฟเตทฟอสฟอรัสไม่สามารถใช้ได้สำหรับพวกเขาและทำให้การขับถ่ายของมันทำให้เกิดปัญหาหลายด้านสิ่งแวดล้อมเช่นมลพิษทางน้ำและ eutrophication โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ของการผลิตปศุสัตว์เข้มข้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรดไฟติก ( เมียวไอโนซิทอล 1,2,3,4,5,6-hexakisphosphate ) หรือเกลือ ไฟเตทเป็นหลักกระเป๋ารูปแบบฟอสฟอรัสในพืชและแสดง 1 – 1.5 % ของน้ำหนักและ 60 – 80 เปอร์เซ็นต์ของฟอสฟอรัสทั้งหมดในธัญพืช , ถั่วและน้ำมันเมล็ด [ 1 ] : ถือเป็นการต่อต้านโภชนาการปัจจัยเนื่องจากการสูง ประจุลบโครงสร้างและความสามารถที่แข็งแกร่งในคีเลตผูกและแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และเหล็ก [ 2 ] มันเป็นที่รู้จักกันเพื่อสร้างโปรตีนเชิงซ้อนภายใต้ทั้งที่เป็นกรดและด่างพีเอชมีผลต่อโปรตีนโครงสร้างจึงลดเอนไซม์ โปรตีน การละลายและค่าการย่อยได้ [ 3 ] งาน : ฟอสฟอรัสใช้ไม่ใช่สัตว์เคี้ยวเอื้อง สัตว์ เช่น สุกร สัตว์ปีก และปลา เพราะมนุษย์ไม่เพียงพอ หรือขาดการใช้ธรรมชาติกิจกรรมของทางเดินอาหาร [ 4 ] วัตถุดิบอาหารสัตว์ ส่วนใหญ่ได้จากพืช และดังนั้นจึง มีหลายกระบวนการ แต่กระบวนการฟอสฟอรัสไม่สามารถใช้ได้กับพวกเขา และดังนั้น มันไม่ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่น มลพิษในน้ำ และ ยูโทรฟิเคชันโดยเฉพาะในพื้นที่ปศุสัตว์