Goodin also adds an explicit normat

Goodin also adds an explicit normative role to the concept of vulnerability by imposing an ethical duty to safeguard the potentially vulnerable from harm. This role is imperative if the concept of vulnerability is to be anything more than a factual description of an individual’s or a group’s characteristics. Goodin does this by link- ing his account of vulnerability to the “principle of protecting the vulnerable,” which is, essentially, an obligation to protect the vital interests of others. Hence there is a direct link between the classification of someone as being vulnerable, with a requirement on the part of others to protect them from any potential harms.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Goodin ยังเพิ่มบทบาทเชิงบรรทัดฐานที่ชัดเจนให้กับแนวคิดเรื่องความเปราะบางโดยกำหนดหน้าที่ทางจริยธรรมในการปกป้องผู้ที่อาจมีความเสี่ยงจากอันตราย บทบาทนี้มีความจำเป็นหากแนวคิดเรื่องความเปราะบางนั้นเป็นอะไรที่มากกว่าคำอธิบายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคุณลักษณะของแต่ละบุคคลหรือกลุ่ม Goodin ทำเช่นนี้โดยเชื่อมโยงเรื่องราวของเขาเกี่ยวกับความเปราะบางเข้ากับ “หลักการในการปกป้องผู้เปราะบาง” ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วคือภาระผูกพันในการปกป้องผลประโยชน์ที่สำคัญของผู้อื่น ดังนั้นจึงมีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการจัดประเภทของบุคคลว่ามีความเสี่ยง โดยมีข้อกำหนดในส่วนของผู้อื่นในการปกป้องพวกเขาจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โคตินยังเพิ่มบทบาทบรรทัดฐานที่ชัดเจนให้กับแนวคิดเรื่องความเปราะบางโดยกำหนดภาระหน้าที่ทางศีลธรรมในการปกป้องประชากรที่อาจด้อยโอกาสจากอันตราย บทบาทนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นหากแนวคิดเรื่องความเปราะบางไม่ได้เป็นเพียงคำอธิบายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล กูตินทำเช่นนี้โดยเชื่อมโยงคำอธิบายของเขาเกี่ยวกับความเปราะบางเข้ากับหลักการปกป้องผู้ด้อยโอกาสซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ที่สำคัญของผู้อื่น ดังนั้นจึงมีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการจัดประเภทบุคคลให้เป็นกลุ่มเปราะบางกับการขอให้ผู้อื่นปกป้องพวกเขาจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Goodinยังเพิ่มบทบาทเชิงบรรทัดฐานที่ชัดเจนในแนวคิดเรื่องความเปราะบางและกําหนดภาระผูกพันทางจริยธรรมในการปกป้องผู้ที่มีช่องโหว่ที่อาจเป็นอันตราย บทบาทนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้หากแนวคิดเรื่องช่องโหว่เป็นมากกว่าคําอธิบายที่แท้จริงเกี่ยวกับลักษณะของแต่ละบุคคลหรือกลุ่ม godinทําเช่นนั้นโดยการเชื่อมโยงคําอธิบายเกี่ยวกับความเปราะบางของเขากับ"หลักการปกป้องผู้ด้อยโอกาส"ซึ่งเป็นหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ที่สําคัญของผู้อื่น ดังนั้นจึงมีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการจําแนกบุคคลเป็นบุคคลที่อ่อนแอและขอให้ผู้อื่นปกป้องพวกเขาจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น