JAWAHARLAL NEHRU: POLITICAL AWAKENI

JAWAHARLAL NEHRU: POLITICAL AWAKENING
Upon learning of esteemed theosophist Annie Besant’s arrest in 1917, Nehru was moved to join the All India Home Rule League, an organization devoted to obtaining self-government within the British Empire. In April 1919, British troops opened fire on thousands of unarmed civilians who had been protesting recently passed legislation that permitted the detainment of suspected political foes without trial. The Massacre of Amritsar, in which 379 Indians were killed and more than a thousand others were wounded, outraged Nehru and further solidified his resolve to win India’s independence.

During the Non-Cooperation Movement (1920-22) led by Mahatma Gandhi, Nehru was imprisoned for the first time for activities against the British government and, over the course of the next two and a half decades, spent a total of nine years in jail.

In 1929, Jawaharlal was elected president of the Indian National Congress—his first leadership role in politics—whereby he promoted the goal of complete independence from Britain as opposed to dominion status. In response to Britain’s declaration of India’s participation in the war against Germany at the onset of World War II without consulting Indian leaders, members of Congress passed the Quit India resolution on August 8, 1942, demanding political freedom from Britain in exchange for support in the war effort. The following day, the British government arrested all Congress leaders, including Nehru and Gandhi.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Jawaharlal เน: กระตุ้นทางการเมือง
จากการศึกษาของการจับกุมที่นับถือ Theosophist แอนนี่ Besant ในปี 1917 เนก็ถูกย้ายไปร่วมงานกับอินเดียทั้งบ้านเหนือลีกองค์กรที่อุทิศให้กับการได้รับการปกครองตนเองในจักรวรรดิอังกฤษ ในเดือนเมษายนปี 1919 ทหารอังกฤษเปิดไฟในพันของพลเรือนที่ปราศจากอาวุธที่ได้รับการประท้วงเพิ่งผ่านกฎหมายที่ได้รับอนุญาต detainment ของศัตรูทางการเมืองที่น่าสงสัยโดยไม่ต้องทดลอง การสังหารหมู่ของแอมที่ 379 ชาวอินเดียถูกฆ่าตายและมากกว่าหนึ่งพันคนได้รับบาดเจ็บ, เจ็บแค้นเนห์รูและเสริมความมั่นคงต่อการแก้ปัญหาของเขาที่จะชนะเอกราชของอินเดีย. ในช่วงการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นความร่วมมือ (1920-1922) นำโดยมหาตมะคานธีเนเป็น ถูกคุมขังเป็นครั้งแรกสำหรับกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลอังกฤษและในช่วงต่อมาอีกสองทศวรรษที่ผ่านมาครึ่งหนึ่งใช้เวลาทั้งหมดเก้าปีในคุก. ในปี 1929 Jawaharlal รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของสภาคองเกรสแห่งชาติอินเดียเป็นผู้นำของเขาเป็นครั้งแรก มีบทบาทในการเมืองโดยเขาเลื่อนเป้าหมายของความเป็นอิสระที่สมบูรณ์จากสหราชอาณาจักรเมื่อเทียบกับสถานะการปกครอง ในการตอบสนองต่อการประกาศของสหราชอาณาจักรการมีส่วนร่วมของอินเดียในการทำสงครามกับเยอรมนีที่เริ่มมีอาการของสงครามโลกครั้งที่สองโดยไม่ปรึกษาผู้นำอินเดียสมาชิกสภาคองเกรสมีมติออกจากอินเดียที่ 8 สิงหาคม 1942 ที่เรียกร้องเสรีภาพทางการเมืองจากอังกฤษเพื่อแลกกับการสนับสนุนในการ สงคราม วันรุ่งขึ้นรัฐบาลอังกฤษจับกุมผู้นำสภาคองเกรสรวมทั้งเนห์รูและคานธี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เยาวหราล เนรูห์ : กระตุ้นทางการเมือง
เมื่อการเรียนรู้ของ theosophist นับถือของแอนนี่ besant จับกุมในปี 1917 เนห์รูจึงย้ายเข้าบ้านกฎลีกอินเดียเป็นองค์กรที่อุทิศให้กับการได้รับการปกครองตนเองภายในจักรวรรดิอังกฤษ ในเดือนเมษายนปีค.ศ.ทหารอังกฤษเปิดฉากยิงพลเรือนปราศจากอาวุธนับพันที่ถูกปฏิเสธเมื่อเร็ว ๆนี้ผ่านกฎหมายที่อนุญาตให้กักกันว่าศัตรูทางการเมืองโดยไม่มีการไต่สวน การสังหารหมู่ใน Amritsar , ที่คุณอินเดียถูกฆ่า และกว่าพันคนได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงเนห์รูและเพิ่มเติมแข็งแก้ของเขาที่จะชนะ

ความเป็นอิสระของอินเดียในการเคลื่อนไหว ( 1920-22 ) แสวงหาความร่วมมือ นำโดย มหาตมะ คานธีเนห์รู , ถูกขังเป็นครั้งแรกสำหรับกิจกรรมกับรัฐบาลอังกฤษ และผ่านหลักสูตรของอีกสองและครึ่งทศวรรษที่ผ่านมาใช้เวลาเก้าปีในคุก . . .

ใน 1929ยวาหระลาล ได้รับเลือกเป็นประธานสภาแห่งชาติอินเดียบทบาทความเป็นผู้นำในทางการเมืองซึ่งเขาส่งเสริมเป้าหมายของ สมบูรณ์ อิสรภาพจากอังกฤษเมื่อเทียบกับการปกครองสถานะ ในการตอบสนองต่ออังกฤษประกาศของอินเดียเข้าร่วมในสงครามกับเยอรมนีที่การโจมตีของสงครามโลกครั้งที่สองโดยไม่ปรึกษาผู้นำอินเดียสมาชิกของรัฐสภาผ่านอินเดียมติเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 1942 เรียกร้องทางการเมือง อิสรภาพจากอังกฤษ เพื่อแลกกับการสนับสนุนในการทำสงคราม วันต่อมา รัฐบาลอังกฤษได้จับกุมผู้นำรัฐสภาทั้งหมดรวมทั้ง
เนห์รูและคานธี