Effect of voltage on performanceTun

Effect of voltage on performance

Tungsten halogen lamps behave in a similar manner to other incandescent lamps when run on a different voltage. However the light output is reported as proportional to V^3, and the luminous efficacy proportional to V^{1.3}.[13] The normal relationship regarding the lifetime is that it is proportional to V^{-14}. For example, a bulb operated at 5% higher than its design voltage would produce about 15% more light, and the luminous efficacy would be about 6.5% higher, but would be expected to have only half the rated life.

Halogen lamps are manufactured with enough halogen to match the rate of tungsten evaporation at their design voltage. Increasing the applied voltage increases the rate of evaporation, so at some point there may be insufficient halogen and the lamp goes black. Over-voltage operation is not generally recommended. With a reduced voltage the evaporation is lower and there may be too much halogen, which can lead to abnormal failure. At much lower voltages, the bulb temperature may be too low to support the halogen cycle, but by this time the evaporation rate is too low for the bulb to blacken significantly. There are many situations where halogen lamps are dimmed successfully. However, lamp life may not be extended as much as predicted. The life span on dimming depends on lamp construction, the halogen additive used and whether dimming is normally expected for this type.
Spectrum

Like all incandescent light bulbs, a halogen lamp produces a continuous spectrum of light, from near ultraviolet to deep into the infrared.[14] Since the lamp filament can operate at a higher temperature than a non-halogen lamp, the spectrum is shifted toward blue, producing light with a higher effective color temperature.
Safety

Halogen lamps get hotter than regular incandescent lamps because the heat is concentrated on a smaller envelope surface, and because the surface is closer to the filament. This high temperature is essential to their operation. Because the halogen lamp operates at very high temperatures, it can pose fire and burn hazards. In Australia, numerous house fires each year are attributed to ceiling-mounted halogen downlights.[15][16] The Western Australia Department of Fire and Emergency Services recommends that home owners consider instead using compact fluorescent lamps or light emitting diode lamps because they produce less heat.[17] Some safety codes now require halogen bulbs to be protected by a grid or grille, especially for high power (1–2 kW) bulbs used in theatre, or by the glass and metal housing of the fixture to prevent ignition of draperies or flammable objects in contact with the lamp.

To reduce unintentional ultraviolet (UV) exposure, and to contain hot bulb fragments in the event of explosive bulb failure, general-purpose lamps usually have a UV-absorbing glass filter over or around the bulb. Alternatively, lamp bulbs may be doped or coated to filter out the UV radiation. With adequate filtering, a halogen lamp exposes users to less UV than a standard incandescent lamp producing the same effective level of illumination without filtering.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลของแรงดันไฟฟ้าประสิทธิภาพทังสเตนฮาโลเจนโคมไฟทำงานในลักษณะคล้ายกับอื่น ๆ หลอดใส้เมื่อรันบนแรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ผลผลิตแสงเป็นรายงานเป็นสัดส่วนกับ V ^ 3 และประสิทธิภาพลูมินัสกับ V ^ { 1.3 }[13] เป็นความสัมพันธ์ปกติที่เกี่ยวกับอายุการใช้งานที่เป็นสัดส่วนกับ V ^ {-14 } ตัวอย่าง หลอดหยอด 5% สูงกว่าแรงดันออกแบบจะผลิตประมาณ 15% แสงเพิ่มเติม และลูมินัสประสิทธิภาพจะสูงประมาณ 6.5% แต่จะคาดว่าจะมีชีวิตที่ได้รับคะแนนเพียงครึ่งผลิตโคมไฟฮาโลเจนกับฮาโลเจนเพียงพอเพื่อให้ตรงกับอัตราการระเหยทังสเตนที่แรงดันออกแบบของพวกเขา เพิ่มแรงดันไฟฟ้าที่ใช้เพิ่มอัตราการระเหย ดังนั้นในบางจุด อาจจะมีฮาโลเจนไม่เพียงพอ และโคมไฟจะเป็นสีดำ ดำเนินการเกินแรงดันจะไม่แนะนำโดยทั่วไป กับแรงดันไฟฟ้าลดลง การระเหยจะต่ำกว่า และอาจจะมีฮาโลเจนมากเกินไป ซึ่งสามารถนำไปสู่ความล้มเหลวผิดปกติ ที่แรงดันต่ำมาก หลอดไฟอุณหภูมิอาจต่ำเกินไปเพื่อสนับสนุนรอบฮาโลเจน แต่เวลานี้ อัตราการระเหยจะต่ำเกินไปสำหรับหลอดไฟกับ blacken อย่างมีนัยสำคัญ มีหลายสถานการณ์ที่โคมไฟฮาโลเจนจางลงเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ชีวิตโคมไฟอาจไม่สามารถขยายมากเท่าที่คาดการณ์ ช่วงชีวิตในพร่ามัวขึ้นอยู่กับก่อสร้างโคมไฟ เติมฮาโลเจนใช้ และว่าพร่ามัวเป็นปกติที่คาดไว้สำหรับชนิดนี้สเปกตรัมเช่นทั้งหมดยองหลอดไฟ โคมไฟฮาโลเจนสร้างสเปกตรัมต่อเนื่องของแสง รังสีอัลตราไวโอเลตใกล้ลึกเป็นอินฟราเรด[14] เนื่องจากใยไฟสามารถทำงานที่อุณหภูมิสูงกว่าหลอดฮาโลเจนไม่ จะเปลี่ยนไปทางสีน้ำเงิน ผลิตแสงที่ มีอุณหภูมิสีที่มีประสิทธิภาพสูงด้านความปลอดภัยโคมไฟฮาโลเจนได้ร้อนกว่าหลอดใส้ธรรมดาเนื่อง จากความร้อนจะเข้มข้นบนพื้นผิวซองเล็ก และพื้นผิวถูกใย อุณหภูมิสูงนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการทำงานของ เนื่องจากหลอดไฟฮาโลเจนทำงานที่อุณหภูมิสูงมาก มันสามารถก่อให้เกิดไฟ และเผาไหม้อันตราย ในออสเตรเลีย ไฟไหม้บ้านจำนวนมากแต่ละปีมาจากฮาโลเจนติดเพดาน downlights[15][16] ภาคไฟออสเตรเลียตะวันตกและบริการฉุกเฉินแนะนำให้ เจ้าของบ้านพิจารณาแทนใช้คอมแพคฟลูออเรสเซนต์หรือแสงเปล่งหลอดไดโอดเนื่องจากผลิตความร้อนน้อยลง[17] ตอนนี้บางรหัสความปลอดภัยต้องใช้หลอดไฟฮาโลเจนจะได้รับการป้องกัน โดยตารางหรือตะแกรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหลอดไฟพลังงานสูง (1 – 2 กิโลวัตต์) ที่ใช้ในโรงละคร หรือแก้วและโลหะที่อยู่อาศัยของแข่งเพื่อป้องกันการจุดระเบิดของ draperies หรือวัตถุไวไฟกับโคมไฟลดตั้งใจรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) เปิดรับแสง และมีบางส่วนของหลอดร้อนในกรณีที่ล้มเหลวหลอดไฟระเบิด โคมไฟเม็ดมักจะดูด UV แก้วตัวบน หรือ รอบ ๆ กระเปาะ หรือ หลอดอาจ doped หรือเคลือบเพื่อกรองรังสี UV กับกรองเพียงพอ โคมไฟฮาโลเจนแสดงผู้ใช้ UV น้อยกว่าหลอด incandescent มาตรฐานที่ผลิตแสงสว่างมีประสิทธิภาพระดับเดียวกัน โดยไม่มีการกรอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลของแรงดันในการแสดง

ทังสเตนฮาโลเจนโคมไฟประพฤติตัวในลักษณะอื่น ๆคล้ายกับหลอดไฟเมื่อใช้กับแรงดันที่แตกต่างกัน . อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผลผลิตแสงเป็นสัดส่วนกับ v
3 และประสิทธิภาพการส่องสว่างที่เป็นสัดส่วนกับ v
{ 3 } . [ 13 ] ปกติความสัมพันธ์เกี่ยวกับการใช้งานที่เป็นสัดส่วนกับ v
{ 14 } ตัวอย่างเช่นหลอดไฟทำงาน 5% สูงกว่าแรงดันการออกแบบจะผลิตประมาณ 15 % แสงมากขึ้นและประสิทธิภาพการส่องสว่างจะประมาณ 6.5% สูงขึ้น แต่คาดว่าจะเป็นมีเพียงครึ่งเดียวในชีวิต

หลอดฮาโลเจน Halogen ผลิตที่มีเพียงพอเพื่อให้ตรงกับอัตราทังสเตนระเหยที่แรงดันการออกแบบของพวกเขา เพิ่มความต่างศักย์เพิ่มอัตราการระเหยดังนั้นในบางจุด อาจจะมีไม่เพียงพอ และหลอดไฟฮาโลเจนไปเป็นสีดำ ไปผ่าตัดแรงดันไม่ได้โดยทั่วไปแนะนำ ด้วยการลดแรงดันการระเหยต่ำและอาจจะมีหลอดฮาโลเจนมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ความล้มเหลว ผิดปกติ ที่ลดลงมาก แรงดันไฟฟ้า หลอดไฟอุณหภูมิอาจต่ำเกินไปที่จะสนับสนุนวงจรฮาโลเจนแต่เวลานี้อัตราการระเหยต่ำเกินไปสำหรับหลอดไฟมอมมาก มีหลายสถานการณ์ที่หลอดฮาโลเจนเป็นสีจางเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ชีวิตโคมไฟอาจไม่ขยายเท่าที่คาดการณ์ไว้ ชีวิตบนลดแสงขึ้นอยู่กับการก่อสร้างโคมไฟฮาโลเจนแสงและสารเติมแต่งที่ใช้ ว่าโดยปกติแล้วคาดว่าสำหรับประเภทนี้

สเปกตรัมเช่นหลอดไฟ , โคมไฟฮาโลเจนสร้างสเปกตรัมต่อเนื่องของแสงอัลตราไวโอเลตจากใกล้จะลึกอินฟราเรด [ 14 ] ตั้งแต่โคมไฟ คือสามารถใช้งานที่อุณหภูมิสูงกว่าที่ไม่ใช่หลอดฮาโลเจน สเปกตรัมจะเลื่อนไปทางสีน้ำเงิน ผลิตแสงที่มีอุณหภูมิสีสูงกว่าประสิทธิภาพความปลอดภัย .

หลอดฮาโลเจนจะร้อนกว่าหลอดไส้ปกติ เพราะความร้อนจะข้นบนพื้นผิวซองเล็ก และเพราะผิวเป็นผู้ใกล้ชิดกับ คือ ที่อุณหภูมิสูงนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อการดำเนินงานของพวกเขา เพราะหลอดฮาโลเจน ทำงานที่อุณหภูมิสูงมาก มันสามารถก่อให้เกิดอันตรายไฟและเผา ในออสเตรเลียบ้านมากมายในแต่ละปี ประกอบกับมีไฟติดเพดาน downlights ฮาโลเจน . [ 15 ] [ 16 ] ออสเตรเลียตะวันตกภาควิชาไฟและบริการฉุกเฉินขอแนะนำให้เจ้าของบ้านพิจารณาแทนการใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดไดโอดเปล่งแสงขนาดเล็กเพราะพวกเขาผลิตความร้อนน้อยกว่า [ 17 ] รหัสความปลอดภัยบางตอนนี้ต้องใช้หลอดฮาโลเจน จะป้องกันโดย ตารางหรือตะแกรง ,โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพลังงานสูง ( 1 – 2 kW ) หลอดไฟที่ใช้ในโรงภาพยนตร์ หรือจากแก้วและโลหะที่อยู่อาศัยของการแข่งเพื่อป้องกันการจุดระเบิดของผ้าม่านหรือไวไฟ วัตถุในการติดต่อกับโคมไฟ

เผลอรังสีอัลตราไวโอเลต ( UV ) เพื่อลดแสง และมีเศษหลอดไฟร้อน ในเหตุการณ์ระเบิดหลอดไฟ ความล้มเหลวโคมไฟเอนกประสงค์ มักจะมี UV ดูดกระจกกรองแสง หรือรอบ ๆหลอดไฟ อีกวิธีหนึ่งคือ หลอดไฟโคมไฟอาจจะเจือหรือเคลือบกรองรังสี UV . เพียงพอกับการกรอง , โคมไฟฮาโลเจน exposes ผู้ใช้ UV น้อยกว่ามาตรฐานหลอดไฟฟ้าการผลิตระดับประสิทธิภาพเดียวกันของแสงโดยไม่ต้องกรอง