The yield potential of oil palm pla

The yield potential of oil palm planted on peatland has always been a controversial subject. Most past soil
research on oil palm yield on peat land was mainly based on the depth and drainability. Little attention
was given to the impact of peat characteristics on oil palm from a yield perspective. This study tests the
hypothesis that physical soil properties such as peat maturity, presence of wood, depth and nature of
underlying substratum affects oil palm yield. The initial study involved the evaluation of soil mapping
units on estates in Sibu, Sarawak, East Malaysia and from this exercise of four organic soil mapping units
which reflected the different characteristics of soils were selected. Data on peat depth, presence and
absence of decomposed and undecomposed wood, nature of underlying substratum and peat maturity
(fibric, sapric and hemic) were collected, analyzed and interpreted. Comparisons were also made on
mineral soil found at the same location. Yield data were analyzed from primary sources from oil palm
estates. Results show that differenttypes of peat have significant effect on oil palm yield ranging between
9.47 - 22.92mt/ha. Peat maturity has the most significant effect on yield. Sapric peat showed a yield range
of 19.48-22.92mt/ha as compared to hemic peat ranging between 9.47- 13.37mt/ha. Palms planted on
soils with sandy substratum showed significant 18 -142% higher yields compared to those over marine
clay as underlying material. No significant differences were observed in the yields due to the different
depths and presence/absence of wood as a single factor. However, a combined factor of peat maturity
and presence with nature of wood do have significant impact on yield.
The study further confirms that sandy spodosol like Bako series perform 30 - 40.44% lower yields
compared to peat soils such as Telong and Naman series.
The results are important aspeat areas withspecificphysical soilproperties andshowingpoor yields can
been left for conservation prior to development. Thus selective development based on semi detailed soil
surveys producing maps giving peat characteristics and its impactto oil palm yield is possible. However, a
more balanced view and future researchshould be emphasised to other issues suchas cost of development
of peatland compared to the price of crude palm oil in the world market, biodiversity, social issues, Green
House Gas (GHG) emissions and potentials of improving productivity on existing organic and mineral
soils need to be further explored. The study therefore challenges the existing believe that peat depth is
very significant in determining oil palm yield. The study also enhances the need for soil surveys for land
use decisions and wise use of peatlands. Further research is recommended to narrow the knowledge gaps
and uncertainties on peatland.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศักยภาพผลผลิตของปาล์มน้ำมันที่ปลูกบน peatland ได้เสมอเป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน ส่วนใหญ่ดินที่ผ่านมางานวิจัยเกี่ยวกับผลผลิตปาล์มน้ำมันบนบกพรุตามความลึกและ drainability ความสนใจน้อยได้รับผลกระทบจากลักษณะพรุบนปาล์มน้ำมันจากมุมมองของผลผลิต การศึกษานี้ทดสอบการสมมติฐานที่กายภาพคุณสมบัติเช่นพรุครบกำหนด การแสดงตนของไม้ ความลึก และลักษณะของดินใต้ฐานมีผลต่อผลผลิตปาล์มน้ำมัน การศึกษาเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลของการทำแผนที่ดินหน่วยบนที่ดิน ในซิบู ซาราวัก มาเลเซียตะวันออก และ จากออกกำลังกายนี้สี่อินทรีย์ดินแม็ปหน่วยซึ่งสะท้อนลักษณะต่าง ๆ ของดินที่ถูกเลือก ข้อมูลบนพรุลึก สถานะ และกรณีที่ไม่สลายตัว และ undecomposed ไม้ ลักษณะของใต้ฐานและพรุครบ(fibric, sapric และ hemic) ได้รวบรวม วิเคราะห์ และตีความ นอกจากนี้ยังทำการเปรียบเทียบเกี่ยวกับแร่ดินที่พบในตำแหน่งเดียวกัน ได้วิเคราะห์ข้อมูลผลผลิตจากแหล่งที่มาหลักจากน้ำมันปาล์มนิคม ผลลัพธ์แสดงว่า differenttypes ของพรุมีผลปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตตั้งแต่9.47 - 22.92mt / ฮา ครบกำหนดพรุมีผลสำคัญกับผลผลิต พรุ Sapric แสดงให้เห็นว่าช่วงผลตอบแทนของ 19.48-22.92mt/ha เมื่อเทียบกับ hemic พรุตั้งแต่ 9.47 - 13.37mt / ฮา ปาล์มที่ปลูกบนดินกับฐานทรายแสดงให้เห็นว่า-142 สำคัญ 18% สูงกว่าอัตราผลตอบแทนเมื่อเทียบกับผ่านทางทะเลดินเหนียวเป็นวัสดุพื้นฐาน ไม่มีความแตกต่างกันถูกตั้งข้อสังเกตในผลผลิตเนื่องจากความแตกต่างความลึกและมี/ไม่มีไม้เป็นปัจจัยเดียว อย่างไรก็ตาม ตัวคูณร่วมของพรุครบและอยู่กับธรรมชาติของไม้มีผลกระทบสำคัญในผลผลิตการศึกษาเพิ่มเติมยืนยันที่ spodosol ทรายเหมือนชุด Bako ทำ 30 40.44% ต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนเมื่อเทียบกับดินพรุเช่น Telong และมเปิ้ลผลลัพธ์คือ พื้นที่สำคัญ aspeat withspecificphysical soilproperties andshowingpoor อัตราผลตอบแทนสามารถทิ้งไว้เพื่ออนุรักษ์ก่อนที่จะพัฒนา จึง เลือกพัฒนาอิงกึ่งรายละเอียดดินสำรวจผลิตแผนที่ให้พรุลักษณะ และผลผลิตของปาล์มน้ำมัน impactto เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม การดูสมดุลมากขึ้นและ researchshould ในอนาคตจะเน้นปัญหาชายต้นทุนของการพัฒนาของ peatland เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลก ความหลากหลายทางชีวภาพ ปัญหาสังคม เขียวปล่อยบ้านก๊าซ (ก๊าซเรือนกระจก) และศักยภาพของการพัฒนาผลผลิตในที่มีอยู่ในสารอินทรีย์ และแร่ธาตุดินที่ต้องได้รับการสำรวจเพิ่มเติม การศึกษาดังนั้นความท้าทายที่มีอยู่เชื่อว่าลึกพรุเป็นสำคัญมากในการกำหนดผลผลิตปาล์มน้ำมัน การศึกษายังช่วยเพิ่มความต้องการสำรวจดินสำหรับที่ดินใช้ตัดสินใจและฉลาดใช้ของ peatlands วิจัยเพิ่มเติมจะแนะนำให้แคบลงช่องว่างความรู้และความไม่แน่นอนใน peatland

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่มีศักยภาพผลผลิตของปาล์มน้ำมันที่ปลูกในป่าพรุได้เสมอเรื่องความขัดแย้ง ดินที่ผ่านมาส่วนใหญ่
การวิจัยเกี่ยวกับผลผลิตปาล์มน้ำมันบนที่ดินพรุส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความลึกและ drainability ความสนใจน้อย
ได้รับผลกระทบของลักษณะพรุในปาล์มน้ำมันจากมุมมองของอัตราผลตอบแทนที่ การศึกษาครั้งนี้ทดสอบ
สมมติฐานที่ว่าคุณสมบัติของดินทางกายภาพเช่นพรุครบกําหนดการปรากฏตัวของไม้ลึกและลักษณะของ
ฐานพื้นฐานมีผลกระทบต่อผลผลิตปาล์มน้ำมัน การศึกษาเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลของการทำแผนที่ดิน
หน่วยบนที่ดินใน Sibu, ซาราวักมาเลเซียตะวันออกและจากการใช้สิทธิสี่อินทรีย์แมปหน่วยดินนี้
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะที่แตกต่างกันของดินได้รับการคัดเลือก ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพีทแสดงตนและ
กรณีที่ไม่มีการย่อยสลายและสลายตัวไม้ธรรมชาติของรากฐานพื้นฐานและวุฒิภาวะพรุ
(fibric, sapric และ hemic) ที่ถูกเก็บรวบรวมวิเคราะห์และตีความ เปรียบเทียบได้ทำยังอยู่ใน
ดินแร่ธาตุที่พบในสถานที่เดียวกัน ข้อมูลผลตอบแทนจากการวิเคราะห์แหล่งที่มาหลักจากปาล์มน้ำมัน
เอสเตท ผลปรากฏว่า differenttypes ของพีทมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลผลิตปาล์มน้ำมันในช่วงระหว่าง
9.47 - 22.92mt / ไร่ ครบกําหนดพรุมีผลอย่างมีนัยสำคัญมากที่สุดในผลผลิต พรุ Sapric แสดงให้เห็นว่าช่วงที่อัตราผลตอบแทน
ของ 19.48-22.92mt / ไร่เมื่อเทียบกับพีท hemic ระหว่าง 9.47- 13.37mt / ไร่ ปาล์มปลูกใน
ดินที่มีรากฐานทรายอย่างมีนัยสำคัญ 18 -142% อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่มีอายุมากกว่าทะเล
ดินเป็นวัสดุพื้นฐาน ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในอัตราผลตอบแทนเนื่องจากการที่แตกต่างกัน
ที่ระดับความลึกและมี / ไม่มีไม้เป็นปัจจัยเดียว อย่างไรก็ตามปัจจัยรวมกันของการกำหนดพรุ
และการปรากฏตัวกับธรรมชาติของไม้ที่จะมีผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทน.
การศึกษาเพิ่มเติมยืนยันว่า spodosol ทรายเช่น Bako ชุดดำเนินการ 30 - อัตราผลตอบแทนที่ต่ำกว่า 40.44%
. เมื่อเทียบกับดินพรุเช่น Telong และชุด Naman
ผลมีความสำคัญพื้นที่ aspeat soilproperties withspecificphysical andshowingpoor อัตราผลตอบแทนที่สามารถ
ถูกทิ้งไว้เพื่อการอนุรักษ์ก่อนที่จะมีการพัฒนา ดังนั้นการพัฒนาอยู่บนพื้นฐานของการคัดเลือกกึ่งดินรายละเอียด
การสำรวจการผลิตแผนที่ให้ลักษณะพรุและผลผลิตน้ำมันปาล์ม impactto มันเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม
มุมมองความสมดุลมากขึ้นและในอนาคต researchshould จะเน้นไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ค่าใช้จ่าย suchas ของการพัฒนา
ของป่าพรุเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลก, ความหลากหลายทางชีวภาพประเด็นทางสังคม, กรีน
เฮ้าส์ก๊าซ (GHG) และศักยภาพของการผลิตการปรับปรุง ที่มีอยู่ในอินทรีย์และแร่ธาตุ
ดินจะต้องมีการสำรวจเพิ่มเติม การศึกษาจึงท้าทายที่มีอยู่เชื่อว่าลึกพรุเป็น
สำคัญมากในผลผลิตปาล์มน้ำมันกำหนด การศึกษายังช่วยเพิ่มความต้องการสำหรับการสำรวจดินสำหรับที่ดินที่
การตัดสินใจการใช้งานและการใช้งานที่ชาญฉลาดของป่าพรุ นอกจากนี้การวิจัยจะแนะนำให้แคบช่องว่างความรู้
และความไม่แน่นอนในป่าพรุ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลผลิตของปาล์มน้ำมันที่ปลูกในพรุได้เสมอเรื่องที่ขัดแย้ง ดินที่ผ่านมามากที่สุดงานวิจัยเกี่ยวกับน้ำมันปาล์มต่อพรุที่ดินส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความลึกและ drainability . ความสนใจน้อยได้รับผลกระทบของพีท ลักษณะสวนปาล์มน้ำมันจากผลผลิตของมุมมอง การศึกษานี้ได้ทดสอบสมมติฐานว่า สมบัติของดินทางกายภาพ เช่น วุฒิภาวะทางการแสดงตนของความลึกและธรรมชาติของไม้ถึงชั้นล่าง ส่งผลกระทบต่อผลผลิตปาล์มน้ำมัน การศึกษาเริ่มต้นที่เกี่ยวข้องกับการประเมินของแผนที่ดินหน่วยในนิคมอุตสาหกรรมใน Sibu , ซาราวักมาเลเซียตะวันออกและจากการออกกำลังกายของอินทรีย์สี่หน่วยแผนที่ดินซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะที่แตกต่างกันของดินที่ถูกคัดเลือก ข้อมูลเกี่ยวกับความลึกพีท , การแสดงและไม่มีการย่อยสลาย และไม้ undecomposed ธรรมชาติของต้นแบบและวุฒิภาวะชั้นล่างพรุ( fibric sapric , และ hemic ) ศึกษา วิเคราะห์ และตีความได้ การเปรียบเทียบทำให้บนแร่ดินที่พบในสถานที่เดียวกัน ข้อมูลผลผลิต วิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิจากปาล์มน้ำมันนิคมอุตสาหกรรม ผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นว่า differenttypes ของพีทจะมีผลต่อผลผลิตปาล์มน้ำมันในช่วงระหว่าง9.47 - 22.92mt/ha . มีวุฒิภาวะทางการมีผลต่อผลผลิต sapric พีทแสดงผลผลิต ช่วงของ 19.48-22.92mt/ha เมื่อเทียบกับ hemic พีทตั้งแต่ระหว่าง 9.47 - 13.37mt/ha . ปาล์มที่ปลูกในดินกับทรายชั้นล่างอย่างมีนัยสำคัญ 18 - 142 % อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่ผ่านทางทะเลดินเหนียวเป็นวัสดุพื้นฐาน . ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่พบในผลผลิต เนื่องจากการต่าง ๆลึกและการมี / ไม่มี เป็นปัจจัยเดียว อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกสำหรับพรุและการแสดงตนกับธรรมชาติของไม้จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลตอบแทนการศึกษาได้ยืนยันว่า แซนดี้ สโปโดซอลเหมือน bako ชุดแสดงผลผลิตลดลง 30 - 40.44เมื่อเทียบกับดินพรุ เช่น telong และแน่นอนชุดผลลัพธ์ที่สำคัญด้าน aspeat withspecificphysical soilproperties andshowingpoor ผลผลิตสามารถถูกทิ้งไว้เพื่อการอนุรักษ์ก่อนการพัฒนา ดังนั้น การเลือกพัฒนาบนพื้นฐานของดินกึ่งการสำรวจการผลิตแผนที่ให้ลักษณะพรุและ impactto ปาล์มน้ำมัน ผลผลิตก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามดูสมดุลมากขึ้น และ researchshould ในอนาคตจะเน้นไปเรื่องอื่น เช่น ต้นทุนของการพัฒนาของพรุ เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลก , ความหลากหลายทางชีวภาพ , ปัญหาสังคมสีเขียวก๊าซปล่อยก๊าซเรือนกระจก ( GHG ) บ้านและศักยภาพของการปรับปรุงผลผลิตที่มีอยู่ เช่น แร่ธาตุอินทรีย์และดินต้องไปสำรวจ การศึกษาความท้าทายที่มีอยู่ จึงเชื่อว่ามีความลึกพรุที่สำคัญมากในการกำหนดปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมัน การศึกษายังช่วยเพิ่มความต้องการดินสำรวจที่ดินการตัดสินใจใช้ และใช้ปัญญาของ Peatlands . การวิจัยครั้งต่อไปควรมีช่องว่างแคบๆและความไม่แน่นอนในพรุ .